รพ.สต.ท่าก๊อ ใช้แพทย์แผนไทยช่วยเลิกบุหรี่ วิจัยในกลุ่มนักสูบที่สมัครใจ 78 คน พบเลิกบุหรี่ได่้นาน 6 เดือน ถึง 60% เลิกได้ต่ำกว่า 6 เดือน 8%
นายสุรเดช คชสารทอง นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นำเสนอ “กระบวนการช่วยเลิกบุหรี่ ด้วยโปรแกรมการแพทย์แผนไทย รพ.สต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย” ในการประชุมวิชาการบุหรี่และสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 14 ว่า ตนและคณะได้ทำการวิจัยเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ในกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีความสอดคล้องกับบริบทของสังคม ทำให้ได้รับการยอมรับและมีความยั่งยืน โดยใช้โปรแกรมการแพทย์แผนไทยเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ โดยการวิจัยเป็นแบบกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดี่ยวด้วยการจัดโปรแกรมช่วยผู้ป่วยเรื้อรังให้เลิกบุหรี่โดยประยุกต์การแพทย์แผนไทยมาช่วย โดยดำเนินการใน รพ.สต.ท่าก๊อ ซึ่งมีผู้ป่วยเรื้อรังที่ได้รับการคัดกรองจากคลินิกช่วยเลิกบุหรี่เคลื่อนที่เชิงรุก ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ รพ.สต. โดยมีผู้สูบบุหรี่ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 78 คน
นายสุรเดช กล่าวว่า กลุ่มตัวอย่างจะเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเลิกบุหรี่เป็นเวลา 4 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งจะมีกิจกรรมเพื่อแนะนำการดูแลตัวเองด้วยหลักธรรมานามัย การอบสมุนไพร การนวดกดจุดสะท้อน การขับสารพิษ การใช้สมุนไพรเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ จากนั้นติดตามกลุ่มตัวอย่างต่อเนื่องอีก 6 เดือน และเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ความสำเร็จก่อนและหลังการใช้โปรแกรมเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้เข้าร่วมใช้โปรแกรมเลิกบุหรี่ พบว่า มีผู้เลิกบุหรี่ได้อย่างต่อเนื่อง 53 คน คิดเป็นร้อยละ 67.94 ของผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด แบ่งเป็นการเลิกได้เป็นเวลา 6 เดือน 47 คน ร้อยละ 60.25 และเลิกได้ต่ำกว่า 6 เดือน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 8.21 มีผู้สูบบุหรี่ลดลง 16 คน หรือ ร้อยละ 20.51 และยังคงสูบบุหรี่เท่าเดิม 9 คน คิดเป็นร้อยละ 11.53 โดยรวมแล้วพบว่าผลลัพธ์ของการเลิกสูบบุหรี่สูงกว่าคิดเป็นร้อยละ 30 อย่างมีนัยสำคัญ หมายถึงการจัดทำโปรแกรมการแพทย์แผนไทยสำหรับการเลิกบุหรี่สามารถช่วยผู้ติดบุหรี่ได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายสุรเดช คชสารทอง นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นำเสนอ “กระบวนการช่วยเลิกบุหรี่ ด้วยโปรแกรมการแพทย์แผนไทย รพ.สต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย” ในการประชุมวิชาการบุหรี่และสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 14 ว่า ตนและคณะได้ทำการวิจัยเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ในกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีความสอดคล้องกับบริบทของสังคม ทำให้ได้รับการยอมรับและมีความยั่งยืน โดยใช้โปรแกรมการแพทย์แผนไทยเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ โดยการวิจัยเป็นแบบกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดี่ยวด้วยการจัดโปรแกรมช่วยผู้ป่วยเรื้อรังให้เลิกบุหรี่โดยประยุกต์การแพทย์แผนไทยมาช่วย โดยดำเนินการใน รพ.สต.ท่าก๊อ ซึ่งมีผู้ป่วยเรื้อรังที่ได้รับการคัดกรองจากคลินิกช่วยเลิกบุหรี่เคลื่อนที่เชิงรุก ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ รพ.สต. โดยมีผู้สูบบุหรี่ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 78 คน
นายสุรเดช กล่าวว่า กลุ่มตัวอย่างจะเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเลิกบุหรี่เป็นเวลา 4 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งจะมีกิจกรรมเพื่อแนะนำการดูแลตัวเองด้วยหลักธรรมานามัย การอบสมุนไพร การนวดกดจุดสะท้อน การขับสารพิษ การใช้สมุนไพรเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ จากนั้นติดตามกลุ่มตัวอย่างต่อเนื่องอีก 6 เดือน และเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ความสำเร็จก่อนและหลังการใช้โปรแกรมเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้เข้าร่วมใช้โปรแกรมเลิกบุหรี่ พบว่า มีผู้เลิกบุหรี่ได้อย่างต่อเนื่อง 53 คน คิดเป็นร้อยละ 67.94 ของผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด แบ่งเป็นการเลิกได้เป็นเวลา 6 เดือน 47 คน ร้อยละ 60.25 และเลิกได้ต่ำกว่า 6 เดือน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 8.21 มีผู้สูบบุหรี่ลดลง 16 คน หรือ ร้อยละ 20.51 และยังคงสูบบุหรี่เท่าเดิม 9 คน คิดเป็นร้อยละ 11.53 โดยรวมแล้วพบว่าผลลัพธ์ของการเลิกสูบบุหรี่สูงกว่าคิดเป็นร้อยละ 30 อย่างมีนัยสำคัญ หมายถึงการจัดทำโปรแกรมการแพทย์แผนไทยสำหรับการเลิกบุหรี่สามารถช่วยผู้ติดบุหรี่ได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
