xs
xsm
sm
md
lg

“ม.คริสเตียน” เผยผลสำรวจสุขภาพคนไทย กว่าครึ่งมีความห่วงใยสร้างเสริมสุขภาพน้อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นครปฐม - มหาวิทยาลัยคริสเตียน เผยผลสำรวจโดยฝ่ายวิจัยพบ 4 จังหวัดภาคกลาง กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม ประชาชนกว่าครึ่งมีความห่วงใยในการสร้างเสริมสุขภาพน้อย และต้องมีแรงกระตุ้นจึงจะให้ความสำคัญ โดยยังมีการตื่นตัวดื่มน้ำเยอะ และไม่เห็นด้วยต่อการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สุบบุหรี่

วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จันทร์จิรา วงษ์ขมทอง อธิการบดี มหาวิทยาลัยคริสเตียน เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยมหาวิทยาลัยคริสเตียน ได้สุ่มสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม จำนวน 1,480 คน อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นชายร้อยละ 51.3 และหญิงร้อยละ 48.7 กลุ่มอายุ 18-30 ปี มากที่สุด ร้อยละ 38.4 มีสถานภาพสมรส ร้อยละ 47.5 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 97.6 ระดับการศึกษาปริญญาตรีมากที่สุด ร้อยละ 35.5 ประกอบอาชีพเป็นเจ้าของกิจการ/ค้าขาย/มีธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 22.7 เป็นข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 21.9 และนักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 17.8

ประชาชนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 56.0 มีความคิดในระดับน้อยถึงปานกลางว่า คนไทยมีพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพน้อย ร้อยละ 56.5 มีความคิดเห็นด้วยมากที่สุดว่า คนไทยมีพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเนื่องจากได้รับคำแนะนำ และร้อยละ 53.8 มีความเห็นว่า อยากมีสุขภาพแข็งแรง

ส่วนสาเหตุที่คนไทยไม่สนใจการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 58.6 มีความเห็นว่า เกิดจากขาดความรู้ และร้อยละ 54.7 เห็นว่าไม่สนใจสุขภาพ

สำหรับเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 88.3 มีความเห็นว่า ควรกินผัก และผลไม้วันละครึ่งกิโลกรัม และร้อยละ 84.4 เห็นว่า ควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว ร้อยละ 83.7 เห็นว่า ควรนอนวันละ 6-8 ชั่วโมง

นอกจากนั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 78.4 เห็นว่า ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และร้อยละ 78.6 ยังเห็นอีกว่า ไม่ควรสูบบุหรี่ ส่วนความคิดเห็นต่อแนวทางการเสริมสร้างสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 66.2 เห็นว่า ควรให้ความรู้เรื่องการเสริมสร้างสุขภาพ และร้อยละ 56.6 เห็นว่า ควรปลูกฝังค่านิยมการดูแลสุขภาพ

ปัญหาสุขภาพของบุคคลที่มีสาเหตุมาจากการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้องของบุคคลมากกว่ามีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อม และการที่บุคคลมีพฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสม เป็นดัชนีวัดที่สะท้อนให้เห็นแนวโน้มของปัญหาสุขภาพของประชาชนในสังคมว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค การป่วย และการตายอย่างไร การดูแลสุขภาพตนเองของประชาชนจึงต้องเริ่มจากพฤติกรรมส่วนบุคคลเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลสุขภาพที่จะช่วยการลดปัญหาด้านสาธารณสุขได้บ้าง

ดังนั้น แพทย์ พยาบาล และบุคลากรด้านสุขภาพควรให้ความสำคัญต่อการกำหนดนโยบายและการจัดสรรงบประมาณเพื่อภารกิจเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาวะ รวมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของประชาชน เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเสริมสร้างสุขภาพของประชาชน อันจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิต และการลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประชน และของประเทศอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น