เยาวชนวอนคนอยู่เบื้องหลังหยุดล้ม “ภาษีบาป” หวั่นกระทบคนทำงานรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยง “เหล้า - บุหรี่” เข้าไม่ถึงงบ ชี้ รัฐบาลต้องไม่หลงทิศ ไม่หลงตามเกมธุรกิจบาป ภาคประชาชน ชี้ สสส. ช่วยคืนชีวิตที่ผิดพลาดจากบุหรี่ - เหล้า หวัง กมธ. ยกร่างฯ ไม่ทำให้ ปชช. ผิดหวัง
วันนี้ (9 ส.ค.) นายอัครพงษ์ บุญมี อดีตเยาวชนที่เคยก้าวพลาด จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก กล่าวในเวที “สรุปงานเครือข่ายแผนงานลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ว่า จากกรณีมีข้อเสนอให้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญไม่ให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ใช้งบประมาณโดยตรงจากการจัดเก็บภาษีบาป (Earmarked Tax) หากเกิดการปรับโครงสร้างด้านการบริหารจัดการขึ้นกับ สสส. คงกระทบต่อการทำงานของกลุ่มคนเล็กคนน้อยที่รับทุนสนับสนุนจาก สสส. เพราะมิติการทำงานของ สสส. สามารถช่วยเปิดพื้นที่พัฒนาเด็กที่ก้าวพลาดและเยาวชนกลุ่มต่าง ๆ ในทางสร้างสรรค์ ยื่นมือเข้ามาช่วยทำให้คนกลุ่มนี้ได้คืนกลับสู่สังคมอย่างภาคภูมิใจ อย่างตนเป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสจากบ้านกาญจนาฯ และ สสส. ที่สนับสนุนให้เราได้ทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ พัฒนาศักยภาพตัวเอง จนทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สุดท้ายก็กลับมาตอบแทนสังคม ชักชวนเยาวชนมาร่วมกันทำงานรณรงค์ลดละเลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในประเทศไทยมีหน่วยงานน้อยมากที่ทำงานในลักษณะนี้ เนื่องจากงบประมาณจำกัดและเป็นระบบราชการ
นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ แกนนำเครือข่ายเกสรชุมชนบางกอกน้อย กรุงเทพฯ กล่าวว่า ในนามเยาวชนที่ทำงานรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ในชุมชน มองว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับ สสส. เกรงว่าจะกระทบกับการทำงาน เพราะกิจกรรมรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงในชุมชนจำเป็นต้องใช้งบประมาณ และทำอย่างต่อเนื่อง เพราะชุมชนสามารถเข้าถึงงบประมาณตรงนี้ได้ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ กิจกรรมที่ทำอยู่ คือ การพัฒนาศักยภาพเยาวชนจากที่เคยเป็นกลุ่มเสี่ยงให้กลับคืนสู่สังคมได้ เช่นเดียวกับตนเองที่จากแต่ก่อนเคยยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด สุรา บุหรี่ แต่ตอนนี้สามารถเลิกได้อย่างเด็ดขาดและหันมาทำงานเพื่อสังคม เป็นแกนนำรณรงค์ต่อต้านอบายมุขในชุมชนได้อย่างภาคภูมิใจ
“สสส. มีแนวคิดหนักแน่นชัดเจน เป็นกองทุนที่เข้าถึงได้ง่ายและมีประโยชน์กับชุมชน ทำให้ชุมชนตื่นตัว ตระหนัก ห่างไกลจากอบายมุข เด็ก ๆ ได้รับการเสริมสร้างสุขภาพมีภูมิคุ้นกันมากขึ้น สามารถต่อยอดสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนอย่างเห็นได้ชัด จึงขอฝากความหวังกับผู้ที่เกี่ยวข้อง วอนขอโอกาสให้คนที่อยากทำงานได้เข้าถึงกองทุนนี้อย่างต่อเนื่องด้วย ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังที่พยายามจะยกเลิกภาษีบาป ควรหยุดพฤติกรรมดังกล่าว ที่ทำลายความเข้มแข็งของประชาชน แต่สมประโยชน์กับนายทุนสินค้าที่ทำลายสุขภาพ รัฐบาลต้องไม่หลงทิศหลงทาง หลังจากนี้ หากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญยังไม่มีความชัดเจน เยาวชนจำเป็นต้องแสดงจุดยืนทวงถามความคืบหน้า เพื่อต่อสู้และคืนผลประโยชน์ให้กับชาวชุมชนต่อไป” นายสุรนาถ กล่าว
นายพรณรง ปั้นทอง ผู้ประสานงานศูนย์การเรียนรู้ชุมชนลดละเลิกเหล้าลดความรุนแรง หมู่บ้านคำกลาง จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า สมัยก่อนตนเป็นคนที่ชอบดื่มสุรา ดื่มหนักแบบหัวราน้ำทุกวัน ทั้งยังชอบใช้ความรุนแรงกับครอบครัว เงินแต่ละเดือนไม่เหลือเก็บ มีหนี้สินเพราะสุรา กระทั่งได้ร่วมงานกับ สสส. เมื่อปี 2545 โดยการเข้าโครงการลดละเลิกเหล้าและความรุนแรง สุดท้ายสามารถเลิกเหล้าได้ จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนตัวเองมาเป็นนักรณรงค์ในชุมชน เนื่องจากค่านิยมการดื่มสุราสูบบุหรี่ยังน่าห่วง โดยเฉพาะกับเยาวชนที่เริ่มสิ่งนี้แล้วไปต่อที่ยาเสพติดผิดกฎหมาย ตั้งแต่มีกระบวนการเกิดขึ้นในชุมชน สร้างความตระหนักรับรู้โทษผลกระทบ ควบคู่ไปกับกิจกรรมรณรงค์ลดละเลิก จึงทำให้เกิดกฎกติการ่วมกันคนในชุมชนหลายคนได้ชีวิตใหม่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อีกเลย อย่างไรก็ตาม หากไม่มี สสส. คงไม่มีตนในวันนี้ เพราะเป็นองค์กรเดียวที่ช่วยให้ชีวิตเปลี่ยนไป จากที่เคยไม่มีอะไร ครอบครัวแตกแยก สสส. ช่วยให้คนในชุมชนเป็นคนใหม่ คืนความสุขสู่ครอบครัว อีกทั้งชุมชนไม่ได้ทำเฉพาะเรื่องนี้แต่ยังมีเกษตรอินทรีย์ เกษตรพอเพียงตามนโยบายของนายกฯ หากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสสส. งบประมาณคงไม่ลงสู่ชุมชนคนรากหญ้า เพราะถูกบริษัทเหล้าบุหรี่นักการเมืองควบคุม ชุมชนคงไม่อยากให้ใครมากีดกันการเข้าถึงการเสริมสร้างสุขภาพคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
นายสุทิน กรีโรจนี คนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สสส. มีโครงการดี ๆ เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ใช้แรงงานมากมาย เช่น โครงการลดละเลิกเหล้าในโรงงาน สร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง และตนเป็นหนึ่งคนที่ผ่านจุดเลวร้ายที่สุดนั้นมาได้ เคยตกเป็นทาสสุรามาก่อน ชีวิตช่วงนั้นย่ำแย่ตกงานมีปัญหาสุขภาพ เงินไม่เหลือเก็บหนี้สินล้นพ้น ครอบครัวล้มสลาย แต่เมื่อได้เข้าร่วมโครงการทำให้ชีวิตดีขึ้น สุขภาพกลับมาแข็งแรง และได้หันมาทำงานตอบแทนสังคมด้วยการเป็นบุคคลต้นแบบเลิกเหล้า หากเป็นไปได้ก็อยากให้ สสส. ต่อยอดโครงการและทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เพราะยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ต้องการการเข้าถึงโครงการดี ๆ แบบนี้ และฝากถึงรัฐบาล ว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานยังต้องการโอกาส ต้องการการยอมรับจากสังคม อย่างไรก็ตาม เรายังไม่เห็นกองทุนไหนอยู่ใกล้ชิดกับชาวบ้านได้เท่ากองทุน สสส. หวังว่า กมธ. จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (9 ส.ค.) นายอัครพงษ์ บุญมี อดีตเยาวชนที่เคยก้าวพลาด จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก กล่าวในเวที “สรุปงานเครือข่ายแผนงานลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ว่า จากกรณีมีข้อเสนอให้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญไม่ให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ใช้งบประมาณโดยตรงจากการจัดเก็บภาษีบาป (Earmarked Tax) หากเกิดการปรับโครงสร้างด้านการบริหารจัดการขึ้นกับ สสส. คงกระทบต่อการทำงานของกลุ่มคนเล็กคนน้อยที่รับทุนสนับสนุนจาก สสส. เพราะมิติการทำงานของ สสส. สามารถช่วยเปิดพื้นที่พัฒนาเด็กที่ก้าวพลาดและเยาวชนกลุ่มต่าง ๆ ในทางสร้างสรรค์ ยื่นมือเข้ามาช่วยทำให้คนกลุ่มนี้ได้คืนกลับสู่สังคมอย่างภาคภูมิใจ อย่างตนเป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสจากบ้านกาญจนาฯ และ สสส. ที่สนับสนุนให้เราได้ทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ พัฒนาศักยภาพตัวเอง จนทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สุดท้ายก็กลับมาตอบแทนสังคม ชักชวนเยาวชนมาร่วมกันทำงานรณรงค์ลดละเลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในประเทศไทยมีหน่วยงานน้อยมากที่ทำงานในลักษณะนี้ เนื่องจากงบประมาณจำกัดและเป็นระบบราชการ
นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ แกนนำเครือข่ายเกสรชุมชนบางกอกน้อย กรุงเทพฯ กล่าวว่า ในนามเยาวชนที่ทำงานรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ในชุมชน มองว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับ สสส. เกรงว่าจะกระทบกับการทำงาน เพราะกิจกรรมรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยงในชุมชนจำเป็นต้องใช้งบประมาณ และทำอย่างต่อเนื่อง เพราะชุมชนสามารถเข้าถึงงบประมาณตรงนี้ได้ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ กิจกรรมที่ทำอยู่ คือ การพัฒนาศักยภาพเยาวชนจากที่เคยเป็นกลุ่มเสี่ยงให้กลับคืนสู่สังคมได้ เช่นเดียวกับตนเองที่จากแต่ก่อนเคยยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด สุรา บุหรี่ แต่ตอนนี้สามารถเลิกได้อย่างเด็ดขาดและหันมาทำงานเพื่อสังคม เป็นแกนนำรณรงค์ต่อต้านอบายมุขในชุมชนได้อย่างภาคภูมิใจ
“สสส. มีแนวคิดหนักแน่นชัดเจน เป็นกองทุนที่เข้าถึงได้ง่ายและมีประโยชน์กับชุมชน ทำให้ชุมชนตื่นตัว ตระหนัก ห่างไกลจากอบายมุข เด็ก ๆ ได้รับการเสริมสร้างสุขภาพมีภูมิคุ้นกันมากขึ้น สามารถต่อยอดสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนอย่างเห็นได้ชัด จึงขอฝากความหวังกับผู้ที่เกี่ยวข้อง วอนขอโอกาสให้คนที่อยากทำงานได้เข้าถึงกองทุนนี้อย่างต่อเนื่องด้วย ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังที่พยายามจะยกเลิกภาษีบาป ควรหยุดพฤติกรรมดังกล่าว ที่ทำลายความเข้มแข็งของประชาชน แต่สมประโยชน์กับนายทุนสินค้าที่ทำลายสุขภาพ รัฐบาลต้องไม่หลงทิศหลงทาง หลังจากนี้ หากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญยังไม่มีความชัดเจน เยาวชนจำเป็นต้องแสดงจุดยืนทวงถามความคืบหน้า เพื่อต่อสู้และคืนผลประโยชน์ให้กับชาวชุมชนต่อไป” นายสุรนาถ กล่าว
นายพรณรง ปั้นทอง ผู้ประสานงานศูนย์การเรียนรู้ชุมชนลดละเลิกเหล้าลดความรุนแรง หมู่บ้านคำกลาง จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า สมัยก่อนตนเป็นคนที่ชอบดื่มสุรา ดื่มหนักแบบหัวราน้ำทุกวัน ทั้งยังชอบใช้ความรุนแรงกับครอบครัว เงินแต่ละเดือนไม่เหลือเก็บ มีหนี้สินเพราะสุรา กระทั่งได้ร่วมงานกับ สสส. เมื่อปี 2545 โดยการเข้าโครงการลดละเลิกเหล้าและความรุนแรง สุดท้ายสามารถเลิกเหล้าได้ จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนตัวเองมาเป็นนักรณรงค์ในชุมชน เนื่องจากค่านิยมการดื่มสุราสูบบุหรี่ยังน่าห่วง โดยเฉพาะกับเยาวชนที่เริ่มสิ่งนี้แล้วไปต่อที่ยาเสพติดผิดกฎหมาย ตั้งแต่มีกระบวนการเกิดขึ้นในชุมชน สร้างความตระหนักรับรู้โทษผลกระทบ ควบคู่ไปกับกิจกรรมรณรงค์ลดละเลิก จึงทำให้เกิดกฎกติการ่วมกันคนในชุมชนหลายคนได้ชีวิตใหม่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อีกเลย อย่างไรก็ตาม หากไม่มี สสส. คงไม่มีตนในวันนี้ เพราะเป็นองค์กรเดียวที่ช่วยให้ชีวิตเปลี่ยนไป จากที่เคยไม่มีอะไร ครอบครัวแตกแยก สสส. ช่วยให้คนในชุมชนเป็นคนใหม่ คืนความสุขสู่ครอบครัว อีกทั้งชุมชนไม่ได้ทำเฉพาะเรื่องนี้แต่ยังมีเกษตรอินทรีย์ เกษตรพอเพียงตามนโยบายของนายกฯ หากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสสส. งบประมาณคงไม่ลงสู่ชุมชนคนรากหญ้า เพราะถูกบริษัทเหล้าบุหรี่นักการเมืองควบคุม ชุมชนคงไม่อยากให้ใครมากีดกันการเข้าถึงการเสริมสร้างสุขภาพคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
นายสุทิน กรีโรจนี คนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สสส. มีโครงการดี ๆ เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ใช้แรงงานมากมาย เช่น โครงการลดละเลิกเหล้าในโรงงาน สร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง และตนเป็นหนึ่งคนที่ผ่านจุดเลวร้ายที่สุดนั้นมาได้ เคยตกเป็นทาสสุรามาก่อน ชีวิตช่วงนั้นย่ำแย่ตกงานมีปัญหาสุขภาพ เงินไม่เหลือเก็บหนี้สินล้นพ้น ครอบครัวล้มสลาย แต่เมื่อได้เข้าร่วมโครงการทำให้ชีวิตดีขึ้น สุขภาพกลับมาแข็งแรง และได้หันมาทำงานตอบแทนสังคมด้วยการเป็นบุคคลต้นแบบเลิกเหล้า หากเป็นไปได้ก็อยากให้ สสส. ต่อยอดโครงการและทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เพราะยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ต้องการการเข้าถึงโครงการดี ๆ แบบนี้ และฝากถึงรัฐบาล ว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานยังต้องการโอกาส ต้องการการยอมรับจากสังคม อย่างไรก็ตาม เรายังไม่เห็นกองทุนไหนอยู่ใกล้ชิดกับชาวบ้านได้เท่ากองทุน สสส. หวังว่า กมธ. จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่