xs
xsm
sm
md
lg

สพฉ.จัดประกันชีวิต หวังช่วยบุคลากรแพทย์ฉุกเฉิน เหตุอาชีพสุดเสี่ยง การดูแลน้อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บุคลากรการแพทย์ฉุกเฉินทำประกันยาก เหตุอาชีพเสี่ยงสูง ถูกจำกัดสิทธิ สพฉ. จัดแพ็กเกจประกันชีวิต “EMS Smart Card” หวังช่วยดูแล ระบุจ่ายปีละ 200 บาท หากเสียชีวิตหรือพิการรับเงินชดเชย 2 แสนบาท กรณีสาธารณภัย 4 แสนบาท ปชช. สมัครได้ หากเกิดเหตุช่วยทีมกู้ชีพเข้าถึงตัวเร็ว

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงกรณีการดูแลบุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉินจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขณะปฏิบัติงาน เช่น รถพยาบาลพลิกคว่ำ ว่า สถิติอุบัติเหตุรถพยาบาลตลอดปี 2557 เกิดขึ้นถึง 61 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 130 คน มีผู้เสียชีวิต 19 คน และส่วนช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 เกิดอุบัติเหตุกับรถพยาบาลฉุกเฉินถึง 28 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 5 คน และบาดเจ็บ 54 คน ส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุที่เกิดในช่วงการให้บริการส่งผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาล ซึ่งจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุรถพยาบาลสูงสูด คือ ขอนแก่น และระยอง ซึ่ง สพฉ. เล็งเห็นความสำคัญและเป็นห่วงในความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติการฉุกเฉิน โดยเร่งอบรมพนักงานขับรถพยาบาลฉุกเฉิน และล่าสุด มีนโยบายเพิ่มความคุ้มครองให้บุคลากรการแพทย์ฉุกเฉิน โดยจัดทำโครงการ “EMS Smart Card- Star of life” ซึ่งร่วมกับเมืองไทยประกันชีวิต ในการทำประกันชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งปกติกลุ่มอาชีพเหล่านี้จะทำประกันค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง จึงมักถูกจำกัดสิทธิ์ในการทำประกันชีวิต

โครงการนี้บุคลากรการแพทย์ฉุกเฉิน สามารถทำประกันได้ โดยจ่ายเงินเพียง 200 บาทต่อปี ซึ่งหากเสียชีวิต หรือทุพพลภาพ จะได้รับเงินชดเชยทันที 200,000 บาท และหากเป็นกรณีสาธารณภัย จะได้รับค่าชดเชยเป็น 2 เท่า คือ 400,000 บาท หรือตามเงื่อนไขกรมธรรม์ นอกจากนี้ ยังได้รับข่าวสารการฝึกอบรม และร่วมกิจกรรมของ สพฉ. หรือใช้เป็นส่วนลดโรงพยาบาลเอกชน หรือร้านค้าที่ร่วมโครงการ โดยสำหรับอาสาหรือผู้ปฏิบัติการฉุกเฉิน สามารถดูรายละเอียดการสมัครได้ ที่ http://ebudget.niems.go.th/ebudget/ หรือ โทร. 085-285-1669” เลขาธิการ สพฉ. กล่าว

นพ.อนุชา กล่าวว่า นอกจากนี้ ประชาชนทั่วไปยังสามารถสมัครได้ด้วย ที่ www.emssmartcard.com โดยจะต้องมีอายุระหว่าง 15 - 65 ปีบริบูรณ์ ซึ่งผู้ถือบัตรดังกล่าวจะได้รับสิทธิประโยชน์ คือ ทำให้ทีมกู้ชีพเข้าถึงตัวผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากมีประวัติข้อมูลสุขภาพเบื้องต้นของผู้ป่วยอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือสังคม เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจากการเป็นสมาชิกจะนำไปใช้ในการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น