สปส.เผยร่าง กม.ใหม่ตั้ง "สภาประกันสุขภาพแห่งชาติ" ตัดเรื่องการดึงงบ 0.5% ของรวม 3 กองทุนมาบริหารจัดการแล้ว ชี้เสมอภาค 3 กองทุนคือสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานเหมือนกัน แต่สิทธิรักษาที่เพิ่มมาเป็นเรื่องของแต่ละกองทุน
พ.ต.ต.หญิง รมยง สุรกิจบรรหาร รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่มีการยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับหนึ่ง เพื่อตั้งสภาประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่รวมการบริหารงานระบบสุขภาพภาครัฐ 3 กองทุน คือ ประกันสังคม ข้าราชการ และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) โดยดึงงบ 0.5% ของงบประมาณด้านประกันสุขภาพทั้งหมดของปีงบประมาณมาใช้บริหารจัดการ ว่า ทั้ง 3 กองทุนสุขภาพมีที่มาแตกต่างกัน อย่าง สปส.มีการจ่ายสมทบทั้งผู้ประกันตน นายจ้าง และรัฐ นอกจากนี้ ยังมีการให้สิทธิกับผู้ประกันตนด้านอื่นๆ นอกจากด้านสิทธิการรักษาพยาบาลด้วย ดังนั้น หากรวมตรงนี้โดยให้เหตุผลว่าเพื่อบูรณาการให้เกิดความเสมอภาคนั้น โดยหลักการแล้วความเสมอภาคคือสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานต้องเหมือนกัน ส่วนสิทธิการรักษาที่จะเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากนี้ก็เป็นเรื่องของแต่ละกองทุนที่พิจารณาให้ตามความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องเหมือนกันหมด
พ.ต.ต.หญิง รมยง กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าจะดึงงบประมาณด้านการบริหารสุขภาพมารวมไว้ที่สำนักงานใหม่นั้น เท่าที่ทราบในการประชุมรับฟังความเห็นที่โรงแรมสวนสามพราน จ.นครปฐม นั้นมีการตัดเรื่องนี้ออกไปแล้ว ดังนั้น หากยังคงเอาไว้จะต้องมีการหารือกันใหม่ แต่ตอนนี้ตัวร่าง พ.ร.บ.ยังไม่แล้วเสร็จ คงต้องดูก่อน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สปส.จะมีการหารือเรื่องนี้กันในที่ประชุมกรรมการใน ส.ค.นี้.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งบประมาณด้านการรักษาพยาบาลของแต่ละกองทุนนั้น ในส่วนของสวัสดิการข้าราชการอยู่ที่ปีละ 60,000 ล้านบาท ประกันสังคมราว 40,000 ล้านบาท และบัตรทองประมาณ 155,000 ล้านบาท งบประมาณด้านสุขภาพรวม 3 กองทุนจึงมีมากกว่า 255,000 ล้านบาท งบในการบริหารจัดการรวม 3 กองทุน 0.5% จึงอยู่ที่ประมาณ 1 พันกว่าล้านบาท
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่