“หมอพินิจ” กก.สปสช. ค้านตั้ง “สภาประกันสุขภาพฯ” ชี้กลุ่มคนเดิม ๆ ต้นคิด บริหารเงินกว่า 2 แสนล้านบาท จาก 3 กองทุน ได้ค่าบริหารจัดการ 1.5 - 2 พันล้านบาท ระบุบัตรทองยังตายเยอะ ควรแก้ที่ระบบก่อน ไม่ใช่ตั้งหน่วยงานใหม่
วันนี้ (20 ก.ค.) นพ.พินิจ หิรัญโชติ กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีข้อเสนอการยกร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่ เพื่อตั้งสภาประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่า ตนไม่เห็นด้วย เพราะจากการศึกษาพบว่าเป็นคนกลุ่มเดิมที่ทำเรื่องนี้ และชื่อร่าง พ.ร.บ. ที่มีอยู่ 4 ชื่อก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ที่สำคัญเมื่อดูรายละเอียดพบว่า ให้มีการโอนเงินจากทุกกองทุนสุขภาพภาครัฐ คือ ข้าราชการ ประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) มาบริหารจัดการโดยคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งงบน่าจะอยู่ราว ๆ 2 แสนล้านกว่าบาท และจะมีการกันเงิน 0.5% ของเงินทั้งหมดมาใช้บริหารจัดการ คิดเป็นประมาณ 1.5 - 2 พันล้านบาท
นพ.พินิจ กล่าวว่า ตอนร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อตั้ง สปสช. ก็มีการระบุว่า หาก สปสช. บริหารงานดี ก็ให้ตกลงกับกรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพื่อออกกฎหมายให้โอนเงินค่ารักษาพยาบาลมาให้ สปสช. ดูแล แต่ตลอดเวลา 13 ปีที่ผ่านมา จากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยบัตรทองเสียชีวิตเยอะกว่าข้าราชการ แปลว่า สปสช. ยังบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพที่ชัดแจ้ง เลยมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามที่จะรวมกองทุน โดยทำวิจัยล่วงหน้า มีกระบวนการออกข่าว และแก้กฎหมายเพื่อบังคับทุกคนให้เข้ามารวมกองทุน แต่ก่อนหน้านี้ มีผู้ออกมาท้วงติงไปแล้วว่า เมื่อ สปสช.พบว่าระบบของตัวเองทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมากก็ควรแก้ไขการบริหารระบบมากกว่าจะมาตั้งกองทุนใหม่
“องค์กรที่ตั้งขึ้นใหม่ใช้เงินมหาศาล คณะกรรมการก็รูปแบบเหมือนเดิมที่มี 3 องค์ประกอบ การเมือง ข้าราชการประจำ ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ส่วนตัวผมเองคิดว่า คือ เรื่องกองทุนไม่ต้องไปรวม เพราะถ้ารวมแล้ว สปส. กับ ข้าราชการจะอยู่ที่ไหน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทั้งสหภาพ ข้าราชการ สปส. ยังไม่รู้เรื่อง ส่วน สปสช. ไม่ต้องพูดถึงเขาได้ประโยชน์จากการจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว” นพ.พินิจ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
