ก.ค.ศ. ปรับเกณฑ์ “ครูขอย้ายสถานศึกษา” กำหนดระยะเวลาต้องอยู่ในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 2 ปี ครูผู้ช่วยไม่น้อยกว่า 4 ปี เริ่ม ม.ค. 2559 สกัดอาศัยช่องว่างย้ายจำนวนมาก
วันนี้ (23 ก.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ผ่านมา การขอย้ายสถานศึกษาของครูไม่มีการกำหนดช่วงระยะเวลา มีแต่การกำหนดห้ามขอย้ายช่วงที่มีการลาศึกษาต่อ และห้ามขอย้ายช่วงที่มีการอบรมพัฒนาอย่างเข้ม แต่สามารถขอย้ายกรณีพิเศษได้ เช่น มีภัยคุกคาม ดูแลบิดามารดา เป็นต้น ทำให้ที่ผ่านมาครูใช้ช่องทางดังกล่าวในการขอย้ายสถานศึกษาจำนวนมาก หรือเมื่ออบรมพัฒนาเสร็จเรียบร้อยก็ขอย้ายทันที ทำให้เกิดผลกระทบกับเด็กและจัดการเรียนการสอนไม่ต่อเนื่อง ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตามที่ ก.ค.ศ. เสนอขอปรับเกณฑ์การขอย้าย เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีมติให้กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน
“ต่อไปครูที่ต้องการขอย้ายสถานศึกษาจะต้องปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันไม่น้อยกว่า 24 เดือน หรือ 2 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอย้ายสับเปลี่ยนกับตำแหน่งที่มีคนครอง และในวันที่ยื่นคำร้องขอย้ายต้องมีอายุราชการเหลือไม่น้อยกว่า 2 เดือน นับถึงวันที่ 30 ก.ย. ของปีที่ครบเกษียณอายุราชการ ในส่วนครูผู้ช่วยจะต้องปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาปัจจุบันไม่น้อยกว่า 4 ปี นับแต่วันที่ยื่นคำขอ โดยการขอย้ายกรณีปกติ ยื่นคำขอได้ปีละ 1 ครั้ง ช่วง ม.ค. ของทุกปี ส่วนการขอย้ายกรณีพิเศษ ยื่นคำขอย้ายได้ตลอดปี พร้อมหลักฐานทางราชการ หรือทางการแพทย์ ความเห็นและคำรับรองของผู้บังคับบัญชา โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวเริ่มใช้ทันทีในการขอย้าย ม.ค. 2559 ส่วนการยื่นคำร้องขอย้ายตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้เดิม ตามหลักเกณฑ์ สามารถยื่นได้อีก 1 ครั้ง ระหว่างวันที่ 1 - 15 ส.ค. นี้” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่