เตรียมชงร่างนโยบายแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติฉบับใหม่ ชี้ ช่วยยกระดับประเทศไทยมีความมั่นคงทางสุขภาพ มีวัคซีนเพียงพอใช้ในทุกสถานการณ์ ผลิตวัคซีนพึ่งพาตนเองได้ ลดการนำเข้า เพิ่มการส่งออก แก้ปัญหาการเจ็บป่วยที่ป้องกันด้วยวัคซีน
นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้สถาบันฯ กำลังร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ (ฉบับใหม่) โดยมีเนื้อหาสาระภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. การวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนรองรับความต้องการในการป้องกันโรคของประเทศ 2. การจัดการวัคซีนให้มีความมั่นคง 3. การส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมวัคซีนภายในประเทศให้มีความเข้มแข็ง และมีมาตรฐานสากล 4. การจัดบริการวัคซีนแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงเป็นธรรมและทันการณ์ 5. การบริหารจัดการทรัพยากรวัคซีนของประเทศให้มีคุณภาพเพียงพอ และ 6. การพัฒนาองค์กรด้านวัคซีนของประเทศให้เข้มแข็ง
“จุดประสงค์ของนโยบายดังกล่าวคือ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนที่สําคัญเพื่อรองรับปัญหาทางสุขภาพของประชาชนในปัจจุบันและอนาคตได้ มีความมั่นคงทางสุขภาพทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน มีศักยภาพในการพึ่งพาตนเองทางวัคซีนมากขึ้น ลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ และมีรายได้จากการส่งออกวัคซีน การเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนลดลง บุคลากรด้านวัคซีนของไทยมีคุณภาพ และโครงสร้างพื้นฐานทางวัคซีนของประเทศมีมาตรฐานสากล” ผอ.สถาบันวัคซีนฯ กล่าวและว่า การดำเนินการนั้นมีหลายกลยุทธ์ เช่น เสริมสร้างศักยภาพการวิจัยและพัฒนาวัคซีน เสริมสร้างศักยภาพการผลิตวัคซีน เชื่อมโยงสู่การผลิตระดับอุตสาหกรรม แสวงหาและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน และภาคีเครือข่ายในการผลิตวัคซีน พัฒนาขีดความสามารถและมาตรฐานการจัดบริการวัคซีนแก่สถานบริการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางวัคซีนของประเทศให้มีมาตรฐานเพียงพอต่อการรองรับการเสริมสร้างความมั่นคงทางวัคซีนของชาติ เป็นต้น
นพ.จรุง กล่าวว่า จากการรับฟังความคิดเห็นในหลายภาคส่วน มีการเสนอให้เพิ่มเติมเนื้อหาในบางส่วนเพื่อให้มีความสมบูรณ์ขึ้น ดังนั้น ร่างฉบับนี้จะออกมาในลักษณะการเสริมมาตรการให้ดำเนินงานได้ในระบบราชการ อาทิ ผลักดันเรื่องวัคซีนให้เป็นองค์ประกอบหนึ่งของความมั่นคงของชาติ และสนับสนุนการใช้และการผลิตวัคซีนในประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนให้มีโครงสร้างพื้นฐาน โดยหากใครจะมาผลิตวิจัยวัคซีนก็จะมีโครงสร้างพื้นฐานใช้ เช่น จะมีศูนย์ทดสอบวัคซีนในสัตว์ที่มีมาตรฐานนานาชาติ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน และหากมีศูนย์นี้จะเป็นที่ยอมรับ เป็นต้น โดยหลังจากนี้ จะมีการเรียบเรียงร่างฉบับนี้ และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ที่มี รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเพื่อให้ความเห็นชอบ ประมาณ ส.ค. นี้ ก่อนที่จะนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญและมีประโยชน์โดยตรงคือทำให้ประชาชนมีวัคซีนอย่างพอเพียงในส่วนที่เราไม่ผลิต และยังจะมีการลดการนำเข้า และเพิ่มโอกาสในการยกระดับประเทศทางด้านวิทยาศาสตร์
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้สถาบันฯ กำลังร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติ (ฉบับใหม่) โดยมีเนื้อหาสาระภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. การวิจัยพัฒนาและการผลิตวัคซีนรองรับความต้องการในการป้องกันโรคของประเทศ 2. การจัดการวัคซีนให้มีความมั่นคง 3. การส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมวัคซีนภายในประเทศให้มีความเข้มแข็ง และมีมาตรฐานสากล 4. การจัดบริการวัคซีนแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงเป็นธรรมและทันการณ์ 5. การบริหารจัดการทรัพยากรวัคซีนของประเทศให้มีคุณภาพเพียงพอ และ 6. การพัฒนาองค์กรด้านวัคซีนของประเทศให้เข้มแข็ง
“จุดประสงค์ของนโยบายดังกล่าวคือ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนที่สําคัญเพื่อรองรับปัญหาทางสุขภาพของประชาชนในปัจจุบันและอนาคตได้ มีความมั่นคงทางสุขภาพทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน มีศักยภาพในการพึ่งพาตนเองทางวัคซีนมากขึ้น ลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ และมีรายได้จากการส่งออกวัคซีน การเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนลดลง บุคลากรด้านวัคซีนของไทยมีคุณภาพ และโครงสร้างพื้นฐานทางวัคซีนของประเทศมีมาตรฐานสากล” ผอ.สถาบันวัคซีนฯ กล่าวและว่า การดำเนินการนั้นมีหลายกลยุทธ์ เช่น เสริมสร้างศักยภาพการวิจัยและพัฒนาวัคซีน เสริมสร้างศักยภาพการผลิตวัคซีน เชื่อมโยงสู่การผลิตระดับอุตสาหกรรม แสวงหาและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน และภาคีเครือข่ายในการผลิตวัคซีน พัฒนาขีดความสามารถและมาตรฐานการจัดบริการวัคซีนแก่สถานบริการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางวัคซีนของประเทศให้มีมาตรฐานเพียงพอต่อการรองรับการเสริมสร้างความมั่นคงทางวัคซีนของชาติ เป็นต้น
นพ.จรุง กล่าวว่า จากการรับฟังความคิดเห็นในหลายภาคส่วน มีการเสนอให้เพิ่มเติมเนื้อหาในบางส่วนเพื่อให้มีความสมบูรณ์ขึ้น ดังนั้น ร่างฉบับนี้จะออกมาในลักษณะการเสริมมาตรการให้ดำเนินงานได้ในระบบราชการ อาทิ ผลักดันเรื่องวัคซีนให้เป็นองค์ประกอบหนึ่งของความมั่นคงของชาติ และสนับสนุนการใช้และการผลิตวัคซีนในประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนให้มีโครงสร้างพื้นฐาน โดยหากใครจะมาผลิตวิจัยวัคซีนก็จะมีโครงสร้างพื้นฐานใช้ เช่น จะมีศูนย์ทดสอบวัคซีนในสัตว์ที่มีมาตรฐานนานาชาติ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน และหากมีศูนย์นี้จะเป็นที่ยอมรับ เป็นต้น โดยหลังจากนี้ จะมีการเรียบเรียงร่างฉบับนี้ และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ที่มี รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเพื่อให้ความเห็นชอบ ประมาณ ส.ค. นี้ ก่อนที่จะนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญและมีประโยชน์โดยตรงคือทำให้ประชาชนมีวัคซีนอย่างพอเพียงในส่วนที่เราไม่ผลิต และยังจะมีการลดการนำเข้า และเพิ่มโอกาสในการยกระดับประเทศทางด้านวิทยาศาสตร์
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่