สธ. จัดประชุมวิชาการ พัฒนาสุขภาพเด็กถิ่นกันดาร เฉลิมพระเกียรติ “สมเด็จพระเทพรัตนฯ” เผยผลดำเนินการสุขภาพแม่และเด็กไทยถิ่นทุรกันดารดีขึ้น นร. ป่วยคอพอกลด 44 เท่า เด็กน้ำหนักตัวน้อยลดกว่าครึ่ง แต่ยังพบปัญหาเด็กตัวเตี้ย มีเหา ฟันแท้ผุ แม่ชาวเขาไม่ฝากครรภ์ ส่งผลต้นทุนพัฒนาการเด็กต่ำ
วันนี้ (16 ก.ค.) นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าวการประชุมวิชาการ “การพัฒนาสุขภาพเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารสู่โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 6 สุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 5 รอบ” ระหว่างวันที่ 22 - 24 ก.ค. 2558 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ว่า ภายในงานบุคลากรการแพทย์จะนำเสนอผลงานการพัฒนาสุขภาพเด็กและเยาวชนในพื้นที่ทุรกันดาร โดยกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิดงาน ในวันที่ 23 ก.ค. 2558 เวลา 17.00 น.
นพ.พรเทพ กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยสุขภาพอนามัยเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดโครงการสนองพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาและบริการส่งเสริมสุขภาพที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ห่างไกล ประกอบด้วย 1. โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน ซึ่งทำให้เกิดโรคคอพอก ไอคิวต่ำ ส่งผลให้ปัญหาคอพอกในนักเรียนลดลง 44 เท่าตัวจากร้อยละ 22 ในปี 2535 เหลือร้อยละ 0.5 ในปี 2554 2. โครงการส่งเสริมโภชนาการและบริการดูแลสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร ทำให้อัตราตายทารกและทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,500 กรัม ลดลงกว่าร้อยละ 50 3. โครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ในเรื่องโภชนาการ สุขาภิบาลอาหาร สุขอนามัย ทันตสุขภาพ การออกกำลังกาย น้ำบริโภค ส้วม และจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการมีสุขภาพดี ส่งผลให้สุขภาพของเด็กและเยาวชนในพื้นที่โครงการพระราชดำริดีขึ้นตามลำดับ
“อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกลุ่มที่มีปัญหาด้านโภชนาการและสุขภาพ โดยผลสำรวจสุขภาพปี 2556 ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พบเด็กเล็กเตี้ยร้อยละ 10 และเด็กประถมเตี้ยร้อยละ 9 มีเหาร้อยละ 20 ไม่ได้กินยาวิตามินเสริมธาตุเหล็กร้อยละ 36 ฟันแท้ผุ ถอน อุดร้อยละ 46 ในโรงเรียนพระปริยัติธรรมมีสามเณรเตี้ยร้อยละ 7 อ้วนร้อยละ 14 ฟันแท้ผุ ถอน อุด ร้อยละ 60 ส่วนในศูนย์การเรียนรู้ชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง (ศศช.) พบปัญหาการเข้าถึงบริการด้านอนามัยแม่และเด็ก มีแม่อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 20 ไม่มาฝากครรภ์ ร้อยละ 57 คลอดกับหมอตำแย ร้อยละ 72 โดยกรมอนามัยได้จัดอบรมครูและนักเรียน เรื่องอาหาร โภชนาการ สร้างพฤติกรรมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อม ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ศศช. และจัดอบรมถวายความรู้แก่พระอาจารย์ พระพี่เลี้ยง สามเณรแกนนำในโรงเรียนพระปริยัติธรรม รวมทั้งพัฒนาให้เป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับที่สูงขึ้น” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นพ.พรเทพ กล่าวว่า และ 4. โครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ. 2557 - 2558 สร้างและปรับปรุงส้วมโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่เป้าหมายตามพระราชดำริฯ ให้ได้มาตรฐาน สำเร็จแล้ว 81 แห่ง จำนวนกว่า 600 ส้วม ได้แก่ ร.ร.ตำรวจตระเวนชายแดน 49 แห่ง ร.ร.พระปริยัติธรรมจำนวน 10 แห่ง ร.ร.เอกชนสอนศาสนาอิสลาม 11 แห่ง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง 10 แห่ง และ ร.ร.สังกัด อบจ.ระนอง 1 แห่ง จะขยายโครงการต่อระยะที่ 2 ปี 2558 - 2559 ในโรงเรียนเป้าหมายตามพระราชดำริฯ ที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารอีก 60 แห่ง ใน 28 จังหวัด เพื่อพัฒนาสุขภาพอนามัยเด็กและประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารให้มีสุขภาพดี มีส้วมใช้และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (16 ก.ค.) นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าวการประชุมวิชาการ “การพัฒนาสุขภาพเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารสู่โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 6 สุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 5 รอบ” ระหว่างวันที่ 22 - 24 ก.ค. 2558 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ว่า ภายในงานบุคลากรการแพทย์จะนำเสนอผลงานการพัฒนาสุขภาพเด็กและเยาวชนในพื้นที่ทุรกันดาร โดยกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิดงาน ในวันที่ 23 ก.ค. 2558 เวลา 17.00 น.
นพ.พรเทพ กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยสุขภาพอนามัยเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดโครงการสนองพระราชดำริ เพื่อแก้ไขปัญหาและบริการส่งเสริมสุขภาพที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ห่างไกล ประกอบด้วย 1. โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน ซึ่งทำให้เกิดโรคคอพอก ไอคิวต่ำ ส่งผลให้ปัญหาคอพอกในนักเรียนลดลง 44 เท่าตัวจากร้อยละ 22 ในปี 2535 เหลือร้อยละ 0.5 ในปี 2554 2. โครงการส่งเสริมโภชนาการและบริการดูแลสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร ทำให้อัตราตายทารกและทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,500 กรัม ลดลงกว่าร้อยละ 50 3. โครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ในเรื่องโภชนาการ สุขาภิบาลอาหาร สุขอนามัย ทันตสุขภาพ การออกกำลังกาย น้ำบริโภค ส้วม และจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการมีสุขภาพดี ส่งผลให้สุขภาพของเด็กและเยาวชนในพื้นที่โครงการพระราชดำริดีขึ้นตามลำดับ
“อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกลุ่มที่มีปัญหาด้านโภชนาการและสุขภาพ โดยผลสำรวจสุขภาพปี 2556 ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน พบเด็กเล็กเตี้ยร้อยละ 10 และเด็กประถมเตี้ยร้อยละ 9 มีเหาร้อยละ 20 ไม่ได้กินยาวิตามินเสริมธาตุเหล็กร้อยละ 36 ฟันแท้ผุ ถอน อุดร้อยละ 46 ในโรงเรียนพระปริยัติธรรมมีสามเณรเตี้ยร้อยละ 7 อ้วนร้อยละ 14 ฟันแท้ผุ ถอน อุด ร้อยละ 60 ส่วนในศูนย์การเรียนรู้ชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง (ศศช.) พบปัญหาการเข้าถึงบริการด้านอนามัยแม่และเด็ก มีแม่อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 20 ไม่มาฝากครรภ์ ร้อยละ 57 คลอดกับหมอตำแย ร้อยละ 72 โดยกรมอนามัยได้จัดอบรมครูและนักเรียน เรื่องอาหาร โภชนาการ สร้างพฤติกรรมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อม ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ศศช. และจัดอบรมถวายความรู้แก่พระอาจารย์ พระพี่เลี้ยง สามเณรแกนนำในโรงเรียนพระปริยัติธรรม รวมทั้งพัฒนาให้เป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับที่สูงขึ้น” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นพ.พรเทพ กล่าวว่า และ 4. โครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ. 2557 - 2558 สร้างและปรับปรุงส้วมโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่เป้าหมายตามพระราชดำริฯ ให้ได้มาตรฐาน สำเร็จแล้ว 81 แห่ง จำนวนกว่า 600 ส้วม ได้แก่ ร.ร.ตำรวจตระเวนชายแดน 49 แห่ง ร.ร.พระปริยัติธรรมจำนวน 10 แห่ง ร.ร.เอกชนสอนศาสนาอิสลาม 11 แห่ง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง 10 แห่ง และ ร.ร.สังกัด อบจ.ระนอง 1 แห่ง จะขยายโครงการต่อระยะที่ 2 ปี 2558 - 2559 ในโรงเรียนเป้าหมายตามพระราชดำริฯ ที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารอีก 60 แห่ง ใน 28 จังหวัด เพื่อพัฒนาสุขภาพอนามัยเด็กและประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารให้มีสุขภาพดี มีส้วมใช้และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่