กรมควบคุมโรค ย้ำ ศูนย์เด็กเล็ก - ร.ร.อนุบาล เข้มตรวจคัดกรอง “โรคมือเท้าปาก” หลังพบผู้ป่วยแล้ว 1.7 หมื่นราย เกินครึ่งเป็นเด็กอายุ 1 - 2 ขวบ
วันนี้ (16 ก.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ขณะนี้โรคสำคัญที่ต้องระมัดระวังในเด็กเล็ก คือ โรคมือ เท้า ปาก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในโรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์เด็กเล็ก ที่มีเด็กอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 12 ก.ค. 2558 พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก จำนวน 17,462 ราย เสียชีวิต 1 ราย ในจำนวนนี้เกินครึ่งเป็นในเด็กอายุ 1 - 2 ปี และพบว่าผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 1,975 ราย จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ น่าน พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน เลย ตามลำดับ
นพ.โสภณ กล่าวว่า การป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ในโรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์เด็กเล็ก ควรมีการดูแลรักษาสุขลักษณะของสถานที่ และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาด ดูแลสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม เพิ่มความถี่การทำความสะอาดสิ่งของที่เด็กสัมผัสเป็นประจำ เช่น ของเล่น หนังสือ หรือบริเวณพื้นห้อง โดยต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาอย่างน้อยวันละครั้ง รวมทั้งเปิดประตูหน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องถึงได้ สำหรับการเฝ้าระวังที่สำคัญที่สุด คือ ครูควรคัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าห้องเรียน หากเด็กมีอาการป่วย มีไข้ หรือมีผื่นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ให้แยกเด็กป่วยอยู่ห้องพยาบาล จากนั้นติดต่อให้ผู้ปกครองพากลับบ้านและไปพบแพทย์ทันที
“กรณีที่เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดหากพบตุ่มในปากโดยยังไม่มีอาการอื่นให้ เด็กหยุดเรียนอยู่บ้านได้เลย หากมีเด็กป่วยจำนวนมาก ควรพิจารณาปิดห้องเรียนที่มีเด็กป่วย หรือปิดโรงเรียนระดับชั้นเด็กเล็ก โดยปกติโรคมือ เท้า ปาก จะติดต่อจากการได้รับเชื้อทางปากโดยตรง ซึ่งเชื้อไวรัสจะติดมากับมือ หรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วยและอาจเกิดการ ไอ จาม รดกัน” อธิบดี คร. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (16 ก.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ขณะนี้โรคสำคัญที่ต้องระมัดระวังในเด็กเล็ก คือ โรคมือ เท้า ปาก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในโรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์เด็กเล็ก ที่มีเด็กอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 12 ก.ค. 2558 พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก จำนวน 17,462 ราย เสียชีวิต 1 ราย ในจำนวนนี้เกินครึ่งเป็นในเด็กอายุ 1 - 2 ปี และพบว่าผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 1,975 ราย จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ น่าน พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน เลย ตามลำดับ
นพ.โสภณ กล่าวว่า การป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ในโรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์เด็กเล็ก ควรมีการดูแลรักษาสุขลักษณะของสถานที่ และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาด ดูแลสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม เพิ่มความถี่การทำความสะอาดสิ่งของที่เด็กสัมผัสเป็นประจำ เช่น ของเล่น หนังสือ หรือบริเวณพื้นห้อง โดยต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาอย่างน้อยวันละครั้ง รวมทั้งเปิดประตูหน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องถึงได้ สำหรับการเฝ้าระวังที่สำคัญที่สุด คือ ครูควรคัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าห้องเรียน หากเด็กมีอาการป่วย มีไข้ หรือมีผื่นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ให้แยกเด็กป่วยอยู่ห้องพยาบาล จากนั้นติดต่อให้ผู้ปกครองพากลับบ้านและไปพบแพทย์ทันที
“กรณีที่เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดหากพบตุ่มในปากโดยยังไม่มีอาการอื่นให้ เด็กหยุดเรียนอยู่บ้านได้เลย หากมีเด็กป่วยจำนวนมาก ควรพิจารณาปิดห้องเรียนที่มีเด็กป่วย หรือปิดโรงเรียนระดับชั้นเด็กเล็ก โดยปกติโรคมือ เท้า ปาก จะติดต่อจากการได้รับเชื้อทางปากโดยตรง ซึ่งเชื้อไวรัสจะติดมากับมือ หรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วยและอาจเกิดการ ไอ จาม รดกัน” อธิบดี คร. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่