ผู้เชี่ยวชาญเตรียมถกให้ “ผู้ป่วยเมอร์ส” กลับบ้าน 2 ก.ค. เผยผลตรวจเชื้อ 5 ครั้งล่าสุดเป็นลบ อาการดีขึ้น ส่วนผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูง 16 คน พ้นเฝ้าระวังด้วย กำชับภูมิภาคคงมาตรการคุม “เมอร์ส” เช่นเดิม ส่งวิศวกรตรวจ - ซ่อม ห้องแยกโรคพร้อมรับมือ
วันนี้ (1 ก.ค.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมวอร์รูมโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ โรคเมอร์ส ว่า ขณะนี้ยังยืนยันผู้ป่วยโรคเมอร์สในไทยเพียง 1 ราย ยังรักษาในห้องแยกโรค สถาบันบำราศนราดูร อาการดีขึ้น ไม่มีอาการไอ ยังต้องอยู่ในการดูแลรักษาโรคประจำตัวที่มีอยู่ด้วย ส่วนญาติ 3 คน อาการปกติ สำหรับผู้สัมผัสโรคเมอร์สที่จะพ้นจากการเฝ้าระวังนั้นมี ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 16 คน และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 52 คน ซึ่งจะได้รับการตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการให้มั่นใจ ก่อนให้กลับในวันที่ 2 ก.ค.
ทั้งนี้ ความเสี่ยงโรคเมอร์สของไทยมาจาก 2 ทาง คือ ผู้สัมผัสผู้ป่วยที่มีอาการ และผู้เดินทางมาจากพื้นที่ติดโรค ซึ่งความเสี่ยงทางที่ 1 ได้รับการป้องกันและกำลังจะหมดไปในวันที่ 2 ก.ค. ยังเหลือความเสี่ยงทางที่ 2 ที่ต้องรักษามาตรการไว้ให้ดี อย่างไรก็ตาม พบว่า สถานการณ์โรคที่เกาหลีใต้มีแนวโน้มดีขึ้น ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม ส่วนผู้สัมผัสโรคมีประมาณ 2,000 กว่าคน คาดว่า จะติดตามได้ทั้งหมด ส่วนที่ตะวันออกกลางมีรายงานผู้ป่วยเพิ่มที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย จึงต้องแนะนำให้ผู้ที่จะเดินทางไปยังพื้นที่ติดโรค ให้รู้วิธีป้องกันตัวอย่างถูกต้อง และต้องเข้มงวดในการคัดกรองเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ติดโรคทุกคน
วันเดียวกัน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด สธ. กล่าวภายหลังประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และ ผอ.รพ. เกี่ยวกับมาตรการโรคเมอร์ส ว่า แม้ความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคเมอร์สจากผู้สัมผัสผู้ป่วยรายแรกจะหมดไป แต่อย่าลืมว่าประเทศไทยยังมีโอกาสติดโรคจากผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดอยู่ จึงได้เน้นย้ำให้ต่างจังหวัดยังคงมาตรการคุมเมอร์สเช่นเดิม อย่าให้ตกลง โดยเฉพาะห้องแยกโรคที่จะต้องมีการเตรียมพร้อมให้สามารถใช้การได้ ซึ่ง สธ. จะส่งวิศวกรลงไปไล่ตรวจและซ่อมให้มีสภาพพร้อมใช้การ รวมถึงเร่งอบรมให้ความรู้บุคลากรสาธารณสุขในระดับพื้นที่ เนื่องจากบางแห่งไม่ได้มีผู้สัมผัสผู้ป่วยจริง มาตรการอาจจะยังไม่สมบูรณ์
นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยโรคเมอร์สชาวโอมาน ขณะนี้อาการดีขึ้น สามารถพยุงและเดินรอบห้องได้แล้ว ส่วนผลการตรวจเชื้อที่ผ่านมา 5 ครั้งล่าสุด ก็ให้ผลเป็นลบ คิดว่าน่าจะสามารถกลับบ้านได้ แต่ยังต้องรอการประชุมความเห็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ด้านโรคหัวใจ ซึ่งจะมีการประชุมวันที่ 2 ก.ค. ว่า จะจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไร โดยจะดูจากอาการของผู้ป่วย และผลการตรวจเชื้อ ซึ่งเมื่อจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้วก็จะสามารถประกาศได้ว่าประเทศไทยปลอดจากผู้ป่วยชุดนี้ และเฝ้าระวังไปอีก 28 วัน จึงจะประกาศได้ว่าประเทศไทยปลอดจากโรคนี้ตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่