“พระพรหมสิทธิ” ส่งคืนงบแผ่นดินจัดงานศพสมเด็จเกี่ยว กว่า 25 ล้านบาท ด้าน สตง. โบ้ยกรณีเจ้าคุณเสนาะเป็นเรื่องของสงฆ์ที่ต้องจัดการกันเอง เนื่องจากหลวงไม่เสียหายได้เงินคืน
จากกรณีที่ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีรายงานเกี่ยวกับพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อดีตเจ้าคณะภาค 12 และ อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินที่ใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และ อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จำนวน 67,550,000 บาท มีความผิดปกติไม่ตรงวัตถุประสงค์ ต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ส่งผลให้ถูกปลดจากกรรมการ มส. และ ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และ คณะภาค 12 พร้อมกันนี้ สตง. เสนอแนวทางให้ วัดสระเกศฯ คืนงบประมาณแผ่นดินที่ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายแก่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อส่งคืนกระทรวงการคลัง นั้น
วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ได้ทำหนังสือเลขที่ 144/2558 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2558 เรื่อง การตรวจสอบเงินอุดหนุนของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และอดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ถึง นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ความว่า บัดนี้วัดสระเกศได้ดำเนินการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการพิธีพระราชทานเพลิงศพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมค่าใช้จ่ายจากเงินอุดหนุนดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 42,325,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ที่เกิดขึ้นระหว่างงาน ซึ่งเกี่ยวกับการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพได้เบิกจ่ายเงินของผู้มีจิตศรัทธาบริจาค ดังนั้น จึงมีเงินอุดหนุนคงเหลือ 25,225,000 บาท จึงขอส่งเงินอุดหนุนจำนวนคงเหลือดังกล่าว เพื่อประโยชน์ของทางราชการและประเทศชาติต่อไป ดังนั้น วัดสระเกศฯ ส่งเช็คธนาคารกรุงไทย สาขาเทเวศน์ เลขที่ 00509638 สั่งจ่ายวันที่ 24 มิ.ย. 2558 จำนวน 25,225,000 บาท จำนวน 1 ฉบับให้แก่ พศ. ด้วย
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า จากการที่มีการแต่งตั้ง พระพรหมสิทธิ มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ รูปใหม่ ได้ดำเนินการตรวจสอบภายใน พิจารณาแล้วว่าเห็นว่า มียอดค่าใช้จ่ายถูกต้องแท้จริงเกี่ยวกับงานพระราชทานเพลิงศพแล้ว ส่วนที่เหลือหากไม่แน่ใจว่า อดีตเจ้าอาวาส เบิกจ่ายโดยชอบหรือไม่ ทางพระพรหมสิทธิ ได้ให้ไปเบิกจ่ายกับเงินบริจาคโดยใช้ระเบียบของวัด อย่างไรก็ตาม สตง. ได้เข้าไปดูข้อเท็จจริง ความคืบหน้าทราบว่า จะมีการทำหนังสือส่งคืนเงินอุดหนุนให้เป็นเงินรายได้แผ่นดินแก่กระทรวงคลัง โดยจำนวนเงินนั้น มีหลักฐานยืนยันได้อยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ ต้องรอทางวัดสระเกศแจ้งมา แล้ว จากนั้น สตง.จะตรวจยันตัวเลขอีกครั้ง
“สำหรับเรื่องคดีความของพระพรหมสุธี ถ้าหากไม่มีการเบิกในส่วนต่างจากเงินแผ่นดินจะไม่มีปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาอดีตเจ้าอาวาสจะมีการเบิกทั้ง 67 ล้านบาท ก็จะทำให้มีปัญหาทำให้ต้องถูกตรวจสอบ เพราะบางรายการหลักฐานไม่ชัดเจน โดยตามเรื่องนี้ถือว่า ใกล้จบแล้ว เพราะพระพรหมสิทธิเข้ามาดูแลตรวจสอบอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีพระสงฆ์ใช้จ่ายเงินหลวงแล้วทำผิดก็ต้องได้รับโทษเหมือนฆราวาส แต่กรณีนี้เป็นลักษณะเงินอุดหนุน ส่วนที่จ่ายไปแล้วถูกต้องก็ถือว่าจบ ส่วนที่เบิกจ่ายยังไม่ถูกต้อง ถือว่าเป็นการทดรองจ่าย เพราะได้นำเงินส่วนนี้มาคืนหลวง จึงไม่ทำให้หลวงเกิดความเสียหายก็ไม่มีอะไร เป็นเรื่องของทางคณะสงฆ์และวัดสระเกศ ว่า จะไปดำเนินการอย่างไรภายในกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่า สตง.ได้ดำเนินการอย่างละมุนละม่อมที่สุด ให้โอกาสอย่างเต็มที่แล้ว” นายพิศิษฐ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
จากกรณีที่ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีรายงานเกี่ยวกับพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อดีตเจ้าคณะภาค 12 และ อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินที่ใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และ อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จำนวน 67,550,000 บาท มีความผิดปกติไม่ตรงวัตถุประสงค์ ต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ส่งผลให้ถูกปลดจากกรรมการ มส. และ ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และ คณะภาค 12 พร้อมกันนี้ สตง. เสนอแนวทางให้ วัดสระเกศฯ คืนงบประมาณแผ่นดินที่ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายแก่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อส่งคืนกระทรวงการคลัง นั้น
วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ได้ทำหนังสือเลขที่ 144/2558 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2558 เรื่อง การตรวจสอบเงินอุดหนุนของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และอดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ถึง นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ความว่า บัดนี้วัดสระเกศได้ดำเนินการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการพิธีพระราชทานเพลิงศพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมค่าใช้จ่ายจากเงินอุดหนุนดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 42,325,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ที่เกิดขึ้นระหว่างงาน ซึ่งเกี่ยวกับการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพได้เบิกจ่ายเงินของผู้มีจิตศรัทธาบริจาค ดังนั้น จึงมีเงินอุดหนุนคงเหลือ 25,225,000 บาท จึงขอส่งเงินอุดหนุนจำนวนคงเหลือดังกล่าว เพื่อประโยชน์ของทางราชการและประเทศชาติต่อไป ดังนั้น วัดสระเกศฯ ส่งเช็คธนาคารกรุงไทย สาขาเทเวศน์ เลขที่ 00509638 สั่งจ่ายวันที่ 24 มิ.ย. 2558 จำนวน 25,225,000 บาท จำนวน 1 ฉบับให้แก่ พศ. ด้วย
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า จากการที่มีการแต่งตั้ง พระพรหมสิทธิ มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ รูปใหม่ ได้ดำเนินการตรวจสอบภายใน พิจารณาแล้วว่าเห็นว่า มียอดค่าใช้จ่ายถูกต้องแท้จริงเกี่ยวกับงานพระราชทานเพลิงศพแล้ว ส่วนที่เหลือหากไม่แน่ใจว่า อดีตเจ้าอาวาส เบิกจ่ายโดยชอบหรือไม่ ทางพระพรหมสิทธิ ได้ให้ไปเบิกจ่ายกับเงินบริจาคโดยใช้ระเบียบของวัด อย่างไรก็ตาม สตง. ได้เข้าไปดูข้อเท็จจริง ความคืบหน้าทราบว่า จะมีการทำหนังสือส่งคืนเงินอุดหนุนให้เป็นเงินรายได้แผ่นดินแก่กระทรวงคลัง โดยจำนวนเงินนั้น มีหลักฐานยืนยันได้อยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ ต้องรอทางวัดสระเกศแจ้งมา แล้ว จากนั้น สตง.จะตรวจยันตัวเลขอีกครั้ง
“สำหรับเรื่องคดีความของพระพรหมสุธี ถ้าหากไม่มีการเบิกในส่วนต่างจากเงินแผ่นดินจะไม่มีปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาอดีตเจ้าอาวาสจะมีการเบิกทั้ง 67 ล้านบาท ก็จะทำให้มีปัญหาทำให้ต้องถูกตรวจสอบ เพราะบางรายการหลักฐานไม่ชัดเจน โดยตามเรื่องนี้ถือว่า ใกล้จบแล้ว เพราะพระพรหมสิทธิเข้ามาดูแลตรวจสอบอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีพระสงฆ์ใช้จ่ายเงินหลวงแล้วทำผิดก็ต้องได้รับโทษเหมือนฆราวาส แต่กรณีนี้เป็นลักษณะเงินอุดหนุน ส่วนที่จ่ายไปแล้วถูกต้องก็ถือว่าจบ ส่วนที่เบิกจ่ายยังไม่ถูกต้อง ถือว่าเป็นการทดรองจ่าย เพราะได้นำเงินส่วนนี้มาคืนหลวง จึงไม่ทำให้หลวงเกิดความเสียหายก็ไม่มีอะไร เป็นเรื่องของทางคณะสงฆ์และวัดสระเกศ ว่า จะไปดำเนินการอย่างไรภายในกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่า สตง.ได้ดำเนินการอย่างละมุนละม่อมที่สุด ให้โอกาสอย่างเต็มที่แล้ว” นายพิศิษฐ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
