เชื่อว่าคนไทยกว่าครึ่งประเทศตามเชียร์ทีมฟุตบอลไทยในกีฬาซีเกมส์ มหกรรมกีฬาของอาเซียนครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์
ประเดิมสนามรอบแรก นัดแรกพบทีมชาติลาว ชนะ 6:0 นัดที่สองพบติมอร์-เลสเต ชนะ 1:0 นัดที่สามพบทีมชาติมาเลเซีย ชนะไป 1:0 และนัดที่สี่ เป็นนัดที่คนไทยและเวียดนามรอคอย สุดท้าย ไทยชนะไป 3:1 และเป็นนัดที่ทีมชาติไทยเสียประตูแรก สรุปจบรอบแรก ชนะรวด ได้ 11 ประตู เสีย 1 ประตู
รอบรองชนะเลิศ พบทีมชาติอินโดนีเซีย ชนะในเกมอย่างใสสะอาด 5:0 และชนะใจคนไทยกว่า 60 ล้านคน เป็นข่าวใหญ่ทั้งในประเทศและต่างชาติ แม้แต่กองเชียร์อินโดนีเชียยังยกย่อง
หลังจบเกมด้วยชัยชนะอย่างท่วมท้นเหนือทีมชาติอินโดนีเชีย เราเห็นอะไรจากการแข่งขันในนัดนี้บ้าง
1. เราชนะเพราะมีการเปลี่ยนรูปแบบการเล่น จาก “ข้ามาคนเดียว” เป็น “ข้ามาเป็นทีม” ซ้อมเป็นทีม เล่นเป็นทีม ไม่มีพระเอก ไม่มีหวงบอล ใครยิงก็ได้ถ้ามีโอกาส ถ้าโอกาสไม่ใช่ของเราก็ส่งให้เพื่อนที่มีโอกาสดีกว่า ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือลูกที่ 5 ที่ เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยิงมุมแคบเสียบมุมซ้ายไปอย่างสุดสวย ก็มาจากการต่อบอลถึง 22 ครั้ง ของนักบอลไทยที่มีส่วนร่วมเกือบทั้งทีม
2. วิ่งแบบคนหนุ่ม แต่ควบคุมอารมณ์เหมือนคนแก่ ไม่มีการเล่นนอกเกม ไม่ว่าจะโดนยั่วยุ ทั้งเปิดปุ่มกระแทกเข่า โดนท่อนแขนกระแทกหน้า หรือแม้แต่โดนเหยียบหัว (ซึ่งคนไทยถือมาก) ก็ไม่แสดงอาการหงุดหงิดให้เห็นแม้แต่น้อย เล่นบอลอย่างเดียว ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่กรรมการ ซึ่งถือว่านักเตะชุดนี้บรรลุนิติภาวะทางอารมณ์แล้ว และต้องชมไปถึงสตาฟฟ์โค้ชที่ปลูกฝังสิ่งดีๆ เหล่านี้ให้กับนักกีฬาทุกคน
3. เล่นได้ก็เล่นเต็มที่ เล่นไม่ไหวก็พร้อมให้คนอื่นมาแทน เราจะไม่เห็นอาการกระฟัดกระเฟียด ประชดประชัน น้อยอกน้อยใจ ทุกคนมีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด แต่ตัวจริงมีได้แค่ 11 ตัว คนตัดสินใจคือโค้ช ต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่ก้าวก่ายกัน ได้ลงก็เล่นเต็มที่ ไม่ได้ลงก็เชียร์เพื่อนเต็มที่และพร้อมทำงานแทนเพื่อน ถ้าเพื่อนเจ็บ
4. กีฬาเป็นเพียงเกมการแข่งขัน หนักเบาอย่างไรก็อยู่ในเกม เพราะทุกฝ่ายต่างต้องการชัยชนะกันทั้งนั้น หลังการแข่งขัน นักฟุตบอลไทยก็เดินไปจับไม้จับมือ แลกเสื้อ และปลอบใจฝ่ายตรงข้าม แพ้ชนะไม่เป็นไร นอกเกมก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ที่น่ารักที่สุดก็คือกองเชียร์ชาวไทย ที่ยกป้าย Friend ที่แปลว่าเพื่อนพร้อมธงชาติอินโดนีเชีย สื่อสิงคโปร์เอาไปลงข่าวนำเสนอภาพกองเชียร์ไทยที่มองเห็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของการแข่งขันกีฬา
4. Singapore Sports Hub ลงภาพถ่ายพร้อมขอบคุณแฟนบอลไทย (ใส่เสื้อยืดมีธงชาติไทย) กำลังเก็บขยะหลังเลิกการแข่งขัน เป็นตัวอย่างที่ดีและถ้าหากนำมาใช้ในบ้านเราบ้าง ก็คงจะลดปัญหาขยะไปอุดตันเครื่องสูบน้ำจนไม่สามารถใช้การได้ และส่งผลให้น้ำท่วมทุกทีที่ฝนตกหนัก
นัดชิงชนะเลิศ ทีมไทยต้องพบกับเมียนมา ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ก็เป็นเพียงผลการแข่งขัน แต่สิ่งที่นักเตะ สตาฟฟ์โค้ช และกองเชียร์ไทยได้แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาคือมืออาชีพ
น่าจะลองเอาวิธีคิดแบบนักบอลไทย มาปรับใช้กับสังคมไทยกันบ้าง เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้นนะครับ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่