สธ. คาดสิ้นปี 58 ทุกครัวเรือนมีหมอครอบครัวดูแล ฟุ้งหลายจังหวัดประสบความสำเร็จ ช่วยผู้สูงอายุ ผูพิการ ผู้ป่วยระยะท้ายได้รับการดูแล เพิ่มประสิทธิภาพ ศักยภาพ รพ.สต.
นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีทีมหมอครอบครัวแล้ว 66,353 ทีม แบ่งเป็นทีมระดับอำเภอ 3,890 ทีม ระดับตำบล 12,237 ทีม และระดับชุมชน 50,326 ทีม ปีแรกกำหนดให้ดูแลผู้สูงอายุติดเตียง คนพิการ และผูป่วยระยะท้าย ซึ่งตั้งแต่ดำเนินการเมื่อ ม.ค. 2558 ดูแลกลุ่มเป้าหมายที่มี 2 ล้านคน ได้แล้วประมาณ 1 ใน 4 คาดว่า สิ้นปีนี้ประชาชนทุกคนจะมีหมอครอบครัวประจำตัวทุกครัวเรือน ขณะเดียวกันได้เร่งพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิคือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศ 9,760 แห่งเพื่อให้เป็นบริการที่อยู่ใกล้บ้านประชาชนที่สุด
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ จากการติดตามนโยบายทีมหมอครอบครัวในหลายพื้นที่ เช่น จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ ลพบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระบุรี นครศรีธรรมราช ชุมพร ปัตตานี พบว่า ทีมหมอครอบครัวประสบความสำเร็จอยู่ในขั้นน่าพอใจมาก ช่วยสร้างความอุ่นใจให้ชาวบ้าน และการทำงานของทีมหมอครอบครัวยังขยายผลในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น การปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยผู้ที่สมควรต้องให้ความช่วยเหลือ ให้มีความปลอดภัยขึ้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ รพ.สต. มีความมั่นใจในการปฏิบัติงาน และได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากบุคลากร สหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดีในลักษณะของ 1 คนทำ และมีหลายคนช่วย งานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
“ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหมอครอบครัวคือเจ้าหน้าที่ของ รพ.สต. โดย 1 คน จะดูแลประชาชนเฉลี่ย 1,200 - 2,500 คน หรือ ประมาณ 400 - 800 หลังคาเรือน และจะมีแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป เป็นทีมสหวิชาชีพหลายสาขา ลงไปช่วยสนับสนุนดูแลผู้ป่วยร่วมกัน ขณะเดียวกัน จะมีทีมจากชุมชนหมู่บ้าน เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. อาสาสมัครอื่นๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานท้องถิ่น สมาชิกในครอบครัวมาร่วมกันดูแล เฉลี่ยทีมละประมาณ 10 คน ไปให้การดูแลเยี่ยมบ้าน ตั้งแต่สุขภาพยังดี จนกระทั่งเจ็บป่วยรุนแรงถึงขั้นนอนติดเตียงและอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต โดยทุกหลังคาเรือนจะมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อหมอครอบครัวได้ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเจ็บป่วยก็จะมีหมอครอบครัวเป็นที่พึ่งใกล้ตัว ไม่ต้องดิ้นรนเดินทางไปรักษาไกลๆ” รมช.สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีทีมหมอครอบครัวแล้ว 66,353 ทีม แบ่งเป็นทีมระดับอำเภอ 3,890 ทีม ระดับตำบล 12,237 ทีม และระดับชุมชน 50,326 ทีม ปีแรกกำหนดให้ดูแลผู้สูงอายุติดเตียง คนพิการ และผูป่วยระยะท้าย ซึ่งตั้งแต่ดำเนินการเมื่อ ม.ค. 2558 ดูแลกลุ่มเป้าหมายที่มี 2 ล้านคน ได้แล้วประมาณ 1 ใน 4 คาดว่า สิ้นปีนี้ประชาชนทุกคนจะมีหมอครอบครัวประจำตัวทุกครัวเรือน ขณะเดียวกันได้เร่งพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิคือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศ 9,760 แห่งเพื่อให้เป็นบริการที่อยู่ใกล้บ้านประชาชนที่สุด
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ จากการติดตามนโยบายทีมหมอครอบครัวในหลายพื้นที่ เช่น จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ ลพบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระบุรี นครศรีธรรมราช ชุมพร ปัตตานี พบว่า ทีมหมอครอบครัวประสบความสำเร็จอยู่ในขั้นน่าพอใจมาก ช่วยสร้างความอุ่นใจให้ชาวบ้าน และการทำงานของทีมหมอครอบครัวยังขยายผลในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น การปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยผู้ที่สมควรต้องให้ความช่วยเหลือ ให้มีความปลอดภัยขึ้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ รพ.สต. มีความมั่นใจในการปฏิบัติงาน และได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากบุคลากร สหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดีในลักษณะของ 1 คนทำ และมีหลายคนช่วย งานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
“ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหมอครอบครัวคือเจ้าหน้าที่ของ รพ.สต. โดย 1 คน จะดูแลประชาชนเฉลี่ย 1,200 - 2,500 คน หรือ ประมาณ 400 - 800 หลังคาเรือน และจะมีแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป เป็นทีมสหวิชาชีพหลายสาขา ลงไปช่วยสนับสนุนดูแลผู้ป่วยร่วมกัน ขณะเดียวกัน จะมีทีมจากชุมชนหมู่บ้าน เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. อาสาสมัครอื่นๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานท้องถิ่น สมาชิกในครอบครัวมาร่วมกันดูแล เฉลี่ยทีมละประมาณ 10 คน ไปให้การดูแลเยี่ยมบ้าน ตั้งแต่สุขภาพยังดี จนกระทั่งเจ็บป่วยรุนแรงถึงขั้นนอนติดเตียงและอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต โดยทุกหลังคาเรือนจะมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อหมอครอบครัวได้ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเจ็บป่วยก็จะมีหมอครอบครัวเป็นที่พึ่งใกล้ตัว ไม่ต้องดิ้นรนเดินทางไปรักษาไกลๆ” รมช.สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่