ศธ.เล็งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้มงวดอนุญาตเปิดร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ขณะที่ “ประสาท” เตรียมขอความร่วมมือใน ทปอ.ร่วมกันกวดขัน ด้าน “ปริญญา” เผยที่ประชุมกิจการนิสิตมีข้อเสนอเพิ่มโทษผู้ประกอบการที่ไม่มีใบอนุญาต
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าถึงปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ซึ่งล่าสุดเกิดเหตุนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิตถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ว่า ความจริงแล้วหน่วยงานที่มีส่วนรับผิดชอบได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ชัดเจนว่า รอบสถานศึกษาควรมีร้านเหล้าตั้งอยู่ห่างออกไประยะเท่าไร แต่ในทางปฏิบัติก็จะเห็นได้ว่าไม่เป็นไปตามข้อกำหนด แต่ก็ขึ้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วยว่าการอนุญาตให้เปิดสถานบริการเหล่านี้ได้เข้มงวดให้เป็นไปตามกฎระเบียบมากน้อยเพียงใด ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ศธ.ไม่มีอำนาจจะไปจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้กวดขันเรื่องดังกล่าวมากขึ้น
ด้าน ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.)ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศ(ทปอ.) กล่าวว่า ทปอ.มีการกำชับและดูแลเรื่องนี้มาตลอด แต่ต้องยอมรับว่ามหาวิทยาลัยทำได้แค่กำหนดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษา หรือขอความร่วมมือกลุ่มนักธุรกิจไม่ให้มาตั้งร้านเหล้า หรือแหล่งอบายมุขรอบสถานศึกษาเท่านั้น แต่มหาวิทยาลัยไม่มีสิทธิ์และไม่สามารถไปห้ามไม่ให้มีการตั้งสถานบริการเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม การประชุม ทปอ.ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ตนจะแจ้งเพื่อทราบและขอความร่วมมือกับอธิการบดีในแต่ละมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกทปอ.ให้กำชับ และเฝ้าระวังเรื่องนี้มากขึ้น
ขณะที่ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา และการเรียนรู้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานกิจการนิสิต นักศึกษา ซึ่งมี รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เป็นประธาน ได้มีมติร่วมกันว่าต้องผลักดันเรื่องการจัดระเบียบร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยมีข้อเสนอว่าในการออกใบอนุญาตขายสุราให้แก่ผู้ประกอบการร้านเหล้าในเขต 300 เมตรรอบสถานศึกษา จะต้องมีการพิจารณาอย่างเคร่งครัด และต้องสอบถามความคิดเห็นจากสถานศึกษานั้นๆ ก่อน พร้อมทั้งควรเพิ่มโทษแก่ผู้ประกอบการร้านเหล้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มีใบอนุญาตฯ ให้รุนแรงมากขึ้น เพราะปัจจุบันหากไม่มีใบอนุญาตฯ จะเสียค่าปรับเพียง 500 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำเกินไป จึงทำให้ผู้ประกอบการยอมจ่าย และคิดว่าเป็นเพียงค่าธรรมเนียมในการขายเหล้าโดยไม่มีใบอนุญาตฯ อย่างไรก็ตามสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้รับที่จะนำข้อเสนอเรื่องนี้เสนอต่อรัฐบาล เพื่อดำเนินการต่อไป
“การจะจัดระเบียบร้านเหล้ารอบสถานศึกษาให้ได้ผลนั้น จะหวังพึ่งเพียงแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีภารกิจในเรื่องอื่นๆ อีกมากมาก ดังนั้นมหาวิทยาลัยทุกแห่งควรเป็นเจ้าภาพหลัก และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าหากมหาวิทยาลัยลุกขึ้นมาดำเนินการอย่างจริงจัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะจริงจังกับเรื่องนี้ด้วย เพราะขณะนี้มีกฎหมายหลายฉบับที่สามารถนำมาใช้ในการควบคุมเรื่องการจำหน่าย สุรารอบมหาวิทยาลัยได้ เช่น ห้ามจำหน่ายสุราให้แก่ผู้ซื้อที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ การจำหน่ายสุรานอกจากเวลาที่กำหนด เป็นต้น” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าถึงปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ซึ่งล่าสุดเกิดเหตุนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิตถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ว่า ความจริงแล้วหน่วยงานที่มีส่วนรับผิดชอบได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ชัดเจนว่า รอบสถานศึกษาควรมีร้านเหล้าตั้งอยู่ห่างออกไประยะเท่าไร แต่ในทางปฏิบัติก็จะเห็นได้ว่าไม่เป็นไปตามข้อกำหนด แต่ก็ขึ้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วยว่าการอนุญาตให้เปิดสถานบริการเหล่านี้ได้เข้มงวดให้เป็นไปตามกฎระเบียบมากน้อยเพียงใด ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ศธ.ไม่มีอำนาจจะไปจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้กวดขันเรื่องดังกล่าวมากขึ้น
ด้าน ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.)ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศ(ทปอ.) กล่าวว่า ทปอ.มีการกำชับและดูแลเรื่องนี้มาตลอด แต่ต้องยอมรับว่ามหาวิทยาลัยทำได้แค่กำหนดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษา หรือขอความร่วมมือกลุ่มนักธุรกิจไม่ให้มาตั้งร้านเหล้า หรือแหล่งอบายมุขรอบสถานศึกษาเท่านั้น แต่มหาวิทยาลัยไม่มีสิทธิ์และไม่สามารถไปห้ามไม่ให้มีการตั้งสถานบริการเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม การประชุม ทปอ.ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ตนจะแจ้งเพื่อทราบและขอความร่วมมือกับอธิการบดีในแต่ละมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกทปอ.ให้กำชับ และเฝ้าระวังเรื่องนี้มากขึ้น
ขณะที่ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา และการเรียนรู้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานกิจการนิสิต นักศึกษา ซึ่งมี รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เป็นประธาน ได้มีมติร่วมกันว่าต้องผลักดันเรื่องการจัดระเบียบร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยมีข้อเสนอว่าในการออกใบอนุญาตขายสุราให้แก่ผู้ประกอบการร้านเหล้าในเขต 300 เมตรรอบสถานศึกษา จะต้องมีการพิจารณาอย่างเคร่งครัด และต้องสอบถามความคิดเห็นจากสถานศึกษานั้นๆ ก่อน พร้อมทั้งควรเพิ่มโทษแก่ผู้ประกอบการร้านเหล้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มีใบอนุญาตฯ ให้รุนแรงมากขึ้น เพราะปัจจุบันหากไม่มีใบอนุญาตฯ จะเสียค่าปรับเพียง 500 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำเกินไป จึงทำให้ผู้ประกอบการยอมจ่าย และคิดว่าเป็นเพียงค่าธรรมเนียมในการขายเหล้าโดยไม่มีใบอนุญาตฯ อย่างไรก็ตามสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้รับที่จะนำข้อเสนอเรื่องนี้เสนอต่อรัฐบาล เพื่อดำเนินการต่อไป
“การจะจัดระเบียบร้านเหล้ารอบสถานศึกษาให้ได้ผลนั้น จะหวังพึ่งเพียงแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีภารกิจในเรื่องอื่นๆ อีกมากมาก ดังนั้นมหาวิทยาลัยทุกแห่งควรเป็นเจ้าภาพหลัก และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าหากมหาวิทยาลัยลุกขึ้นมาดำเนินการอย่างจริงจัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะจริงจังกับเรื่องนี้ด้วย เพราะขณะนี้มีกฎหมายหลายฉบับที่สามารถนำมาใช้ในการควบคุมเรื่องการจำหน่าย สุรารอบมหาวิทยาลัยได้ เช่น ห้ามจำหน่ายสุราให้แก่ผู้ซื้อที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ การจำหน่ายสุรานอกจากเวลาที่กำหนด เป็นต้น” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
