“พินิจศักดิ์” ตั้งรักษาการรองเลขาธิการ สกสค.ใหม่ 3 ราย หลังรองเลขาฯ ชุดเดิม 4 รายพ้นจากตำแหน่ง ตาม “สมศักดิ์ ตาไชย” ซึ่ง “ณรงค์” เซ็นต์เลิกจ้างแล้ว เผยเตรียมชง รมว.ศึกษาธิการ ลงนามตั้งคณะกรรมการตรวจสอบปัญหาต่างๆ ตามใบสั่งบอร์ด สกสค.อีก 2 ชุด
วันนี้ (2 มิ.ย.) นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ได้ลงนามตามที่ตนเสนอยกเลิกสัญญาจ้างนายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตเลขาธิการสกสค.แล้ว ซึ่งจะมีผลให้รองเลขาธิการ สกสค.ทั้ง 4 คน คือ นายสุรเดช พรหมโชติ นายวัฒนา วรรณโสภา นายดะนัย มะหิพันธ์ และนายบำเหน็จ ทิพย์อักษร พ้นจากตำแหน่งไปด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานของสำนักงาน สกสค. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดประสิทธิภาพตนจึงได้ลงนามในหนังสือคำสั่ง สกสค. ที่ 158/2558 เรื่องให้พนักงานเจ้าหน้ารักษาการในตำแหน่งรองเลขาธิการ สกสค. ดังนี้ 1.นายวัชรินทร์ ผละพล พนักงานเจ้าหน้าที่ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักทรัพยาการบุคคล รักษาการในตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการสกสค. อีกตำแหน่งหนึ่ง 2.นางอำนวยพร วัฒนารมย์ พนักงานเจ้าหน้าที่ตำแหน่งผอ.สำนักการคลัง รักษาการในตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. อีกตำแหน่งหนึ่ง และ3 นางปิยาภรณ์ เยาวาจา พนักงานเจ้าหน้าที่ตำแหน่งผอ.สำนักสวัสดิการครู รักษาการในตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. อีกตำแหน่งหนึ่ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่สกสค.นำเงินไปซื้อหุ้นในบริษัทหนองคายน่าอยู่ ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน บ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย ราคาหุ้นละ 25 บาท รวม 800 ล้านบาท แต่มีการจ่ายจริงในราคาหุ้นละ 10 บาท รวม 32 ล้านหุ้น รวมจำนวนเงิน 320 ล้านบาท นั้น เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากนัก แต่ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปตรวจสอบรายละเอียดการลงทุนว่าเป็นไปในลักษณะใด ทั้งนี้ ตนจะเสนอให้รมว.ศึกษาธิการ ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการสกสค. จำนวน 2 ชุด โดยชุดแรก ตรวจสอบกรณีปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งการติดตามทรัพย์สินที่เคยมอบให้อดีตคณะกรรมการสกสค. รวมถึงเรื่องอื่น ๆ เพื่อนำทรัพย์สินของสกสค.กลับคืนมา ชุดที่ 2 คณะกรรมการตรวจสอบหลักทรัพย์ที่บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด นำมาค้ำประกันการซื้อตั๋วสัญญาจาก สกสค. จำนวน 2,500 ล้านบาท และคณะกรรมการสกสค.มีมติให้เรียกเงินคืนจากบริษัท บิลเลี่ยนฯทั้งหมด
ส่วนกรณีที่นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้าร้องทุกข์ต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีเงินกองทุนช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ค่าสงเคราะห์รายศพ ที่ได้เรียกเก็บเงินจากครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ลูกจ้างประจำ ที่เสียเงินไปแต่ละเดือนประมาณ 400-600 บาท นานกว่า 10 ปี แต่ปรากฏว่าไม่ทราบจำนวนผู้เสียชีวิต และไม่ทราบจำนวนสมาชิก ช.พ.ค. รวมทั้งยอดรายรับและรายจ่าย และกรมธรรม์ที่ได้ทำประกัน ปรากฏว่าเป็นการประกันอุบัติเหตุ ไม่ใช่การประกันสินเชื่อ ทางบริษัทประกันสามารถเรียกเบี้ยประกันได้เป็นรายปี ไม่จำเป็นต้องเก็บล่วงหน้า 9-10 ปี นั้น เรื่องนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาร่วมกันตรวจสอบได้ ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อมีครูเสียชีวิตก็จะได้รับเงินประกันตามกรมธรรม์มาโดยตลอด ยังไม่มีปัญหาว่าใครเสียชีวิตแล้วไม่ได้เงิน แต่เมื่อมีการ้องเรียนเข้า และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ตนจึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกรมธรรม์ ทุกฉบับว่าเป็นกรมธรรม์ลักษณะใด รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ หากมีความชัดเจนในรายละเอียดจะแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบอีกครั้ง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
