สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ มอบ 10,964,903 รายชื่อให้ สนช.สนับสนุนการออกกฎหมายบุหรี่ฉบับใหม่ โดยปลอดจากการแทรกแซงของบริษัทบุหรี่
ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ร่วมกับ นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย เป็นตัวแทนของ 721 องค์กร มอบรายชื่อประชาชนจากทุกภูมิภาค จำนวน 10,964,903 รายชื่อ ซึ่งเป็นยอดที่ลงหน้าเว็บไซต์ www.vote4tobaccolaw.com เวลา 18.00 น. ของวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ออกกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากพิษภัยของการสูบบุหรี่ แก่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานคนที่ 1 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ศ.พญ.สมศรี กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ทั่วทุกภูมิภาค ทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้สูบบุหรี่และผู้ไม่สูบบุหรี่ ร่วมฉลองวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม ด้วยการร่วมลงชื่อแสดงเจตจำนงสนับสนุน รัฐบาลและสภานิติบัญญัติให้ออกกฎหมายเรื่องนี้ เพราะการสูบบุหรี่ไม่ได้เพียงทำให้ผู้สูบบุหรี่สูญเสียสุขภาพ และเสีย ชีวิตก่อนเวลาอันควรเท่านั้น แต่บุหรี่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ไม่สูบบุหรี่และครอบครัว ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นร่างกฎหมายฉบับนี้นอกจากจะเป็นการคุ้มครองคุณภาพชีวิตของคนไทยแล้ว ยังเป็นมาตรการสำคัญในการพัฒนา เศรษฐกิจในระยะยาวอีกด้วย เพราะความสูญเสียทั้งชีวิตและเงินทอง จำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ในการรักษาคนป่วย จากการสูบบุหรี่ก็จะลดน้อยลง
“เราขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นับเป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่รัฐบาลมอบให้เด็กไทย และประชาชนไทย เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้” ศ.พญ.สมศรี กล่าวและว่า บุหรี่เป็นสินค้าอันตรายชนิดเดียวที่เสพติดและฆ่าผู้บริโภคของตัวเอง ประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ถึงปีละกว่า 50,000 คน บุหรี่จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นสินค้าปกติเหมือนสินค้าอุปโภคบริโภค ทั่วไป ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องมีกฎหมายที่เข้มแข็ง ในการควบคุมการผลิต การตลาด และการจำหน่าย สินค้าชนิดนี้
ศ.พญ.สมศรี กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ อาจทำให้ธุรกิจบุหรี่ได้ผลกำไรน้อยลงในอนาคต จึงมีความเป็น ไปได้สูงที่อุตสาหกรรมบุหรี่จะเข้ามาแทรกแซงการออกกฎหมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อม ผ่านเครือข่ายต่าง ๆ ที่ธุรกิจ ได้จัดตั้งขึ้น ตนและคณะจึงใคร่ขอความกรุณาจาก สนช. ในการออกกฎหมาย โดยปลอดจากการแทรกแซงของ อุตสาหกรรมยาสูบ เพื่อรักษาเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ฯ ไว้อย่างครบถ้วนตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เพื่อให้สามารถ เป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพ ในการคุ้มครองสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ร่วมกับ นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย เป็นตัวแทนของ 721 องค์กร มอบรายชื่อประชาชนจากทุกภูมิภาค จำนวน 10,964,903 รายชื่อ ซึ่งเป็นยอดที่ลงหน้าเว็บไซต์ www.vote4tobaccolaw.com เวลา 18.00 น. ของวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ออกกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากพิษภัยของการสูบบุหรี่ แก่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานคนที่ 1 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ศ.พญ.สมศรี กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ทั่วทุกภูมิภาค ทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้สูบบุหรี่และผู้ไม่สูบบุหรี่ ร่วมฉลองวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม ด้วยการร่วมลงชื่อแสดงเจตจำนงสนับสนุน รัฐบาลและสภานิติบัญญัติให้ออกกฎหมายเรื่องนี้ เพราะการสูบบุหรี่ไม่ได้เพียงทำให้ผู้สูบบุหรี่สูญเสียสุขภาพ และเสีย ชีวิตก่อนเวลาอันควรเท่านั้น แต่บุหรี่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ไม่สูบบุหรี่และครอบครัว ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นร่างกฎหมายฉบับนี้นอกจากจะเป็นการคุ้มครองคุณภาพชีวิตของคนไทยแล้ว ยังเป็นมาตรการสำคัญในการพัฒนา เศรษฐกิจในระยะยาวอีกด้วย เพราะความสูญเสียทั้งชีวิตและเงินทอง จำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ในการรักษาคนป่วย จากการสูบบุหรี่ก็จะลดน้อยลง
“เราขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นับเป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่รัฐบาลมอบให้เด็กไทย และประชาชนไทย เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้” ศ.พญ.สมศรี กล่าวและว่า บุหรี่เป็นสินค้าอันตรายชนิดเดียวที่เสพติดและฆ่าผู้บริโภคของตัวเอง ประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ถึงปีละกว่า 50,000 คน บุหรี่จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นสินค้าปกติเหมือนสินค้าอุปโภคบริโภค ทั่วไป ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องมีกฎหมายที่เข้มแข็ง ในการควบคุมการผลิต การตลาด และการจำหน่าย สินค้าชนิดนี้
ศ.พญ.สมศรี กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ อาจทำให้ธุรกิจบุหรี่ได้ผลกำไรน้อยลงในอนาคต จึงมีความเป็น ไปได้สูงที่อุตสาหกรรมบุหรี่จะเข้ามาแทรกแซงการออกกฎหมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อม ผ่านเครือข่ายต่าง ๆ ที่ธุรกิจ ได้จัดตั้งขึ้น ตนและคณะจึงใคร่ขอความกรุณาจาก สนช. ในการออกกฎหมาย โดยปลอดจากการแทรกแซงของ อุตสาหกรรมยาสูบ เพื่อรักษาเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ฯ ไว้อย่างครบถ้วนตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เพื่อให้สามารถ เป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพ ในการคุ้มครองสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่