เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ออกแถลงการณ์เสนอ 3 มาตรการ สั้น - กลาง - ยาว ควบคุมราคา รพ.เอกชน ระบุภายใน 72 ชั่วโมง ห้ามเก็บมัดจำ เสนอ นายกฯใช้ มาตรา 44 ยุบแพทยสภา พร้อมผลักดัน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการทางสาธารณสุข
วันนี้ (17 พ.ค.) นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ได้ออกแถลงการณ์ ข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อความว่า สืบเนื่องจากเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ได้ยื่น 3.3 หมื่นรายชื่อของประชาชน ที่สนับสนุนให้ตั้ง “คณะกรรมการควบคุมราคา รพ.เอกชน” ต่อท่านนายกรัฐมนตรี โดยผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2558 ที่ผ่านมา เครือข่ายฯ ขอขอบพระคุณที่ให้ความสำคัญ และใส่ใจทุกข์สุขของประชาชน ด้วยการสั่งการไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งแก้ไขปัญหา จนนำไปสู่การออก 3 มาตรการ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ของกระทรวงสาธารณสุขแล้วนั้น จาก 3 มาตรการดังกล่าว เครือข่ายฯ ขอเสนอเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
มาตรการระยะสั้น ภายใน 1 เดือน กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน 1. ภายใน 72 ชั่วโมง ห้าม รพ.เอกชน เรียกเก็บค่ามัดจำ หรือให้คนไข้ หรือญาติเซ็นรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล 2. เมื่อพ้น 72 ชั่วโมง ให้ รพ.เอกชน ส่งตัวคนไข้ไป รพ. ตามสิทธิ โดยห้ามให้คนไข้ หรือญาติสำรองจ่าย หรือเซ็นรับสภาพหนี้ 3. ในกรณีที่ รพ.ตามสิทธิเตียงเต็ม ให้หน่วยงานต้นสังกัด 3 กองทุน คือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, สำนักงานประกันสังคม และ กรมบัญชีกลาง ดำเนินการหาเตียงให้กับคนไข้ หากหาเตียงไม่ได้จำเป็นต้องอยู่ รพ.เอกชน ต่อไป ให้ทั้ง 3 กองทุนรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 4. ให้มีบทลงโทษหากมีการไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 และ 2 5. ให้ประกาศรูปแบบใบยินยอมให้รักษา ของทุกโรงพยาบาลให้เป็นรูปแบบเดียวกันทั้งประเทศ ให้แยกใบยินยอมให้รักษา กับใบรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ออกจากกัน
มาตรการระยะกลาง 1. ให้ใช้ ม.44 ยุบบอร์ดแพทยสภา ที่มาจากการเลือกตั้งชุดปัจจุบัน แล้วเลือกคนกลางที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเข้าไปเป็นกรรมการ โดยคงคณะกรรมการโดยตำแหน่งเอาไว้ 2. ให้ปกป้องสวัสดิภาพของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน ด้วยการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ... ให้มีผลบังคับใช้ในเร็ววัน เพื่อลดปัญหาการฟ้องร้องระหว่างหมอกับคนไข้
และมาตรการระยะยาว 1. ให้เร่งยกระดับมาตรฐาน รพ.รัฐบาล ให้มีเตียงและอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเพียงพอ 2. เพิ่มความมั่นคงให้กับบุคลากรทางการแพทย์รพ.รัฐบาล ทั้งค่าตอบแทนและการให้ทุนเรียนต่อเฉพาะทางอย่างเพียงพอ เพื่อรักษาบุคลากรเอาไว้ในระบบ 3. ให้แก้ไข พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ให้คนนอกเข้าไปเป็นกรรมการแพทยสภาใน สัดส่วน 50 : 50 เพื่อความเป็นธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นธรรมต่อประชาชน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่