xs
xsm
sm
md
lg

ทำอย่างไร ห่างไกล “ฝ้า” ช่วงหน้าร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โดย พญ.เนตรนภา ยังรอต
แพทย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลปิยะเวท

เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์กันแล้ว หนุ่มๆ สาวๆ หลายคนก็คงวางแผนที่จะไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงอากาศร้อนแบบนี้ บางคนมีโปรแกรมไปอวดผิวสวยๆ ท้าแดด ท้าลมร้อนกันที่ทะเลบ้าง น้ำตกบ้าง จนลืมไปว่าแสงแดดและรังสียูวีในช่วงที่อากาศร้อนจัดแบบนี้อาจทำให้หลายคนมีปัญหาผิวพรรณตามมา และหนึ่งปัญหาผิวที่กวนใจและเป็นปัญหาในช่วงหน้าร้อนคือฝ้าบนผิวหน้า ซึ่งเป็นกันมากและเกิดขึ้นได้ง่ายในช่วงหน้าร้อน หากผิวหน้าไม่ได้รับการดูแลและป้องกันที่ดีและถูกต้อง

พญ.เนตรนภา ยังรอต แพทย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลปิยะเวท ให้ข้อมูลเรื่องฝ้าว่า “โดยมากฝ้ามักเกิดกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป จนถึงผู้สูงอายุ และพบว่าอัตราเกิดฝ้าในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายสูงถึง 12 เท่า สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้ามีอยู่หลายสาเหตุ หรืออาจจะเกิดจากหลายสาเหตุร่วมกันก็ได้ เช่น ฮอร์โมน ในร่างกายของคนไข้มีการสร้างเม็ดสีมากผิดปกติ หรือเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย โดยมากจะเกิดกับหญิงตั้งครรภ์, พันธุกรรม ในผู้ป่วยบางรายที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นฝ้ามีโอกาสเป็นได้ประมาณ ร้อยละ 30-50, การแพ้เครื่องสำอาง หรือการรับประทานยาบางชนิด อาทิ คนที่ใช้ยาคุมกำเนิดเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นแบบฉีดหรือแบบรับประทานก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดฝ้าเช่นกัน แต่สาเหตุหลักๆ ที่พบได้บ่อยคือเกิดจากแสงแดด ที่มีทั้งรังสียูวีเอ ยูวีบี และ Visible light ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ บริเวณที่พบว่าเกิดฝ้าได้บ่อยคือ โหนกแก้มทั้งสองข้าง จมูก หนวด ในบางรายอาจลามไปทั่วใบหน้าก็ได้

การรักษาฝ้าต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้าซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ 1. ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังชั้นนอก สามารถรักษาให้หายได้โดยใช้กรดผลไม้ และกรดวิตามินเอ ในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ร่วมกับการใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของ Hydroquinone ซึ่งจะช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน โดยผู้ป่วยไม่ควรซื้อยามาทาเองเนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และอีกวิธีหนึ่งที่แนะนำในการรักษาฝ้าคือ การทำเลเซอร์และการทำทรีตเมนต์ซึ่งจะเห็นผลค่อนข้างเร็ว แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามมา 2. ฝ้าแบบลึก โดยฝ้าจะเกิดในระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน รักษายากกว่าฝ้าแบบตื้นซึ่งในปัจจุบันฝ้ายังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด เพียงแต่มีวิธีทำให้จางลงในระดับที่ดีที่สุดเท่านั้น การทำเลเซอร์มีบทบาทมากในฝ้าแบบลึกนี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดหลังการรักษาด้วยวิธีต่างๆ คือ การป้องกันการสร้างเม็ดสีที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ โดยการหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดเป็นประจำ สำหรับครีมกันแดดที่เหมาะสมควรมี SPF 30 ขึ้นไป หากจำเป็นต้องอยู่กลางแดดจัดๆ ควรสวมหมวกหรือกางร่มเพื่อป้องกันแสงแดดด้วย”

ถึงแม้ว่าปัญหาของฝ้าจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงใดๆ แต่ก็สร้างความรำคาญใจให้แก่เราอยู่ไม่น้อย และยังบั่นทอนความมั่นใจของผู้ที่เป็นอีกด้วย แต่กระนั้นวิธีป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าก็ไม่ได้ยากจนเกินไป แค่รู้จักหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงและหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำแม้ไม่ได้ออกไปเจอแสงแดดจัดก็ตาม ก็จะทำให้คุณอวดผิวสวย หน้าใส ต้อนรับหน้าร้อนนี้อย่างสบายๆ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น