เอเอฟพี - ชายชาวออสเตรเลียถูกตัดสินคดีในวันนี้ (1 เม.ย.) ฐานเป็นธุระจัดการให้ลูกสาววัย 12 ปีมีเพศสัมพันธ์ โดยให้ลูกสาวแต่งงานกับชายที่มีอายุมากกว่าถึง 2 เท่าด้วยพิธีการแบบอิสลาม
มีการปกปิดชื่อของจำเลยผู้เป็นพ่อ เพื่อป้องกันมิให้ตัวตนของเด็กสาวถูกเปิดเผย ชายคนนี้ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการเป็นธุระจัดหาเด็กสาวที่มีอายุต่ำกว่า 14 เพื่อทำกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฏหมาย ทั้งยังสนับสนุนให้ทั้งคู่มีสัมพันธ์ใกล้ชิด แม้ว่าจะไม่ได้รับค่าตอบแทนก็ตาม
การพิจารณาคดีที่ศาลแขวงดาวนิงเซ็นเตอร์ ในซิดนีย์ มีการระบุว่า ชายคนนี้ต้องการที่จะป้องกันไม่ให้ลูกสาวกระทำในสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นบาปจากการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส ดังนั้นเมื่อลูกสาวเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เขาจึงคิดว่าเธอควรจะแต่งงานทันที
มีชายชาวเลบานอนวัย 26 ปีที่เข้าออสเตรเลียด้วยวีซานักศึกษา เขาแสดงความสนใจในตัวเด็กสาว ซึ่งผู้เป็นพ่อก็ยินยอมให้แต่งงานกัน พิธีแต่งงานถูกดำเนินการโดยอิหม่ามในท้องถิ่นเมื่อปีที่แล้ว ที่บ้านของพ่อเด็กสาว อยู่ห่างจากซิดนีย์ไปทางเหนือประมาณ 250 กิโลเมตร
ผู้พิพากษา เดโบราห์ สวีนีย์ ระบุว่า ในคืนวันแต่งงาน ซึ่งไม่ได้รับการยอมรับตามกฏหมายของออสเตรเลีย บ่าว-สาวได้ถูกส่งตัวไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งภายใต้การอนุมัติของผู้เป็นพ่อ ทั้งคู่ได้มีเพศสัมพันธ์กันที่นั่น กับที่บ้านของพ่อเจ้าสาวอีก 2 ครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ต่อมา
"เขาจัดเตรียมห้องและเตียงให้ โดยรู้ดีว่าทั้งคู่จะมีเพศสัมพันธ์" ผู้พิพากษาสวีนีย์ กล่าว พร้อมทั้งบอกด้วยว่าเจ้าสาวได้ตั้งท้อง แต่ก็แท้งในเวลาต่อมา
ในระหว่างรับฟังการพิจารณาคดีของศาล มีการระบุด้วยว่า ในคืนวันแต่งงานมีการบอกเด็กสาวไม่ให้ใช้ยาคุมกำเนิดหรือถุงยางอนามัย เนื่องจากขัดต่อหลักคำสอนทางศาสนาที่ยึดถือกันมา
พ่อของเด็กสาวได้รับการประกันตัว แล้วจะถูกพิพากษาในเดือนหน้า ส่วนเด็กสาวอยู่ภายใต้การดูแลของทางการ ฝ่ายสามีโดนจำคุกเป็นเวลา 7 ปีครึ่ง ตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว ฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
