อย. เผยยังไม่พบ “คอลลาเจนผง” ผสมยาขับปัสสาวะ แต่เตือนมีอันตรายดื่มแล้วฉี่มาก ทำร่างกายสูญเสียน้ำ เสี่ยงหน้ามืด เป็นลม ร่างกายไม่เปล่งปลั่ง ชี้เป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และโฆษก อย. กล่าวถึงกรณีการซื้อคอลลาเจนผงมาชงดื่มแล้วเกิดอาการวูบ ซึ่งคาดว่าอาจมีส่วนผสมของกลุ่มยาขับปัสสาวะ และยาลดความดันบางตัว ซึ่งทำให้ปัสสาวะเยอะ จึงทำให้ดูขาวเพราะความซีด ว่า เท่าที่ตรวจสอบมา อย. ยังไม่เคยพบคอลลาเจนผงผสมกลุ่มยาขับปัสสาวะ แต่หากมีการผสมกลุ่มยาขับปัสสาวะ หรือยาลดความดัน ถือว่ามีความผิด เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่สามารถใส่ยาแผนปัจจุบันได้อยู่แล้ว ถือว่าเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายเจือปน หากเป็นกลุ่มยาขับปัสสาวะก็จะทำให้ร่างกายเสียน้ำมาก หน้ามืด และ เป็นลมได้ ซึ่งการที่ร่างกายขาดน้ำจนขาวจากความซีดไม่น่าจะดี เพราะจะไม่รู้สึกถึงความเปล่งปลั่ง ทั้งนี้ หากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ ที่มีการผสมยาแผนปัจจุบันลงไปจะถือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภก.ประพนธ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีการชงคอลลาเจนผงดื่มมากๆ จนทำให้ไตพังนั้น ที่ผ่านมา ยังไม่มีการศึกษาว่ากินมากๆ แล้วจะเป็นอันตรายหรือไม่ แต่โดยปกติแล้วสารเคมีสังเคราะห์ถือว่ามีทั้งประโยชน์และโทษ แต่หากได้รับเกินความจำเป็นก็อาจทำให้อวัยวะบางส่วนทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะอวัยวะที่ทำหน้าที่ขับถ่ายของเสีย อย่างยาพาราเซตามอล หากรับประทานมากเกินจากเกณฑ์ที่กำหนด ก็เป็นพิษต่อตับและไตเช่นกัน ดังนั้น ทางที่ดีควรกินอาหารตามธรรมชาติมากกว่า ไม่ควรกินสิ่งที่เป็นสารปรุงแต่ง โดยปกติมนุษย์เราก็กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ถ้าใครขาดสารอาหารใดก็กินอาหารที่มาจากธรรมชาติที่มีสารอาหารตัวนั้นทดแทนจะดีกว่า
“ส่วนที่มีการออกมาเตือนให้คนที่แพ้อาหารทะเลระมัดระวังการดื่มคอลลาเจนที่ระบุว่าผลิตมาจากปลาทะเลน้ำลึกนั้น เพราะจะทำให้เกิดการแพ้รุนแรงนั้น ข้อเท็จจริงคือ อาการแพ้ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนที่ตอบสนองต่างกัน เป็นปฏิกิริยาส่วนบุคคล บางคนแค่เกิดอาการผื่นคัน ลมพิษ คลื่นไส้อาเจียน บางคนอาจหมดสติ สำหรับคนที่แพ้อาหารทะเลนั้นจะเกิดอาการแพ้คอลลาเจนจากปลาทะเลหรือไม่ ก็ถือว่ามีแนวโน้มมากกว่าปกติ ต้องระมัดระวัง” รองเลขาธิการ อย. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และโฆษก อย. กล่าวถึงกรณีการซื้อคอลลาเจนผงมาชงดื่มแล้วเกิดอาการวูบ ซึ่งคาดว่าอาจมีส่วนผสมของกลุ่มยาขับปัสสาวะ และยาลดความดันบางตัว ซึ่งทำให้ปัสสาวะเยอะ จึงทำให้ดูขาวเพราะความซีด ว่า เท่าที่ตรวจสอบมา อย. ยังไม่เคยพบคอลลาเจนผงผสมกลุ่มยาขับปัสสาวะ แต่หากมีการผสมกลุ่มยาขับปัสสาวะ หรือยาลดความดัน ถือว่ามีความผิด เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่สามารถใส่ยาแผนปัจจุบันได้อยู่แล้ว ถือว่าเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายเจือปน หากเป็นกลุ่มยาขับปัสสาวะก็จะทำให้ร่างกายเสียน้ำมาก หน้ามืด และ เป็นลมได้ ซึ่งการที่ร่างกายขาดน้ำจนขาวจากความซีดไม่น่าจะดี เพราะจะไม่รู้สึกถึงความเปล่งปลั่ง ทั้งนี้ หากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ ที่มีการผสมยาแผนปัจจุบันลงไปจะถือเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภก.ประพนธ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีการชงคอลลาเจนผงดื่มมากๆ จนทำให้ไตพังนั้น ที่ผ่านมา ยังไม่มีการศึกษาว่ากินมากๆ แล้วจะเป็นอันตรายหรือไม่ แต่โดยปกติแล้วสารเคมีสังเคราะห์ถือว่ามีทั้งประโยชน์และโทษ แต่หากได้รับเกินความจำเป็นก็อาจทำให้อวัยวะบางส่วนทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะอวัยวะที่ทำหน้าที่ขับถ่ายของเสีย อย่างยาพาราเซตามอล หากรับประทานมากเกินจากเกณฑ์ที่กำหนด ก็เป็นพิษต่อตับและไตเช่นกัน ดังนั้น ทางที่ดีควรกินอาหารตามธรรมชาติมากกว่า ไม่ควรกินสิ่งที่เป็นสารปรุงแต่ง โดยปกติมนุษย์เราก็กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ถ้าใครขาดสารอาหารใดก็กินอาหารที่มาจากธรรมชาติที่มีสารอาหารตัวนั้นทดแทนจะดีกว่า
“ส่วนที่มีการออกมาเตือนให้คนที่แพ้อาหารทะเลระมัดระวังการดื่มคอลลาเจนที่ระบุว่าผลิตมาจากปลาทะเลน้ำลึกนั้น เพราะจะทำให้เกิดการแพ้รุนแรงนั้น ข้อเท็จจริงคือ อาการแพ้ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนที่ตอบสนองต่างกัน เป็นปฏิกิริยาส่วนบุคคล บางคนแค่เกิดอาการผื่นคัน ลมพิษ คลื่นไส้อาเจียน บางคนอาจหมดสติ สำหรับคนที่แพ้อาหารทะเลนั้นจะเกิดอาการแพ้คอลลาเจนจากปลาทะเลหรือไม่ ก็ถือว่ามีแนวโน้มมากกว่าปกติ ต้องระมัดระวัง” รองเลขาธิการ อย. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่