นักวิจัยเชียงใหม่จับมือเอกชนตีปี๊บ "อาหารเสริม" สรรพคุณเหนือ "ยาต้านไวรัสเอชไอวี" ชี้เพิ่มค่า CD4 ลดผลข้างเคียงจากยา โวไม่กลัว อย.ตรวจสอบ อ้างมีผลวิจัยรองรับชัดเจนจากสภากาชาดฯ ลั่นไม่ทำเป็นยา เหตุกฎเกณฑ์เยอะ ยุ่งยาก เสียเวลา ใช้งบมาก ด้านศูนย์วิจัยโรคเอดส์ยันไร้ส่วนเกี่ยวข้อง แจงสูตรยาที่มีผลข้างเคียงเลิกใช้ในไทยแล้ว จวกคนบอกกินยาทำชีวิตแย่ลงมีปัญหาเชิงจริยธรรม
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่อาคาร เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ถ.รัชดาภิเษก ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับบริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวการค้นพบสารต้านโรคเอดส์จากพืชไทย โดย นางกรรณิกา เรือนจันทร์ หัวหน้างานวิจัยและนวัตกรรมวิทยาลัยพยาบาลรมราชชนนี จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การกินยาต้านไวรัสเอชไอวี ช่วยให้การติดเชื้อลดลง ค่าระดับภูมิคุ้มกัน CD4 เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ป่วยเอดส์มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เพราะลดภาวะการติดเชื้อฉวยโอกาสที่เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเอดส์เสียชีวิต แต่พบว่าไม่ใช่ทุกคนที่ค่า CD4 จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น จะมีอาการมึนศีรษะ ปวดศีรษะ ทรงตัวไม่ดี ผื่นขึ้นตามตัว มีไข้ น้ำหนักลด เกิดภาวะท้องเดิน ส่วนระยะยาวมีผลในเรื่องรูปลักษณ์และความงาม ทำให้แก้มซูบตอบ หน้าบุ๋มลึก เกิดอาการลงพุงทั้งที่แขนขาลีบเล็ก เส้นเลือดปูดโปน ผิวคล้ำ ซีด รวมไปถึงส่งผลต่อตับและไต ส่งผลให้ผู้ป่วยหลายรายไม่อยากกินยาต้านไวรัสฯ
นางกรรณิกา กล่าวว่า จากการพัฒนาสารสกัดธรรมชาติจากพืชไทย 5 ชนิด ได้แก่ มังคุด ฝรั่ง งาดำ ถั่วเหลือง และใบบัวบก มีคุณสมบัติปรับระดับภูมิคุ้มกันร่างกาย ซึ่งจากการทดสอบกับผู้ป่วยเอดส์อาสาสมัคร ใน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ จำนวน 27 ราย โดยให้รับประทานจำนวน 4 แคปซูลต่อวัน พบว่า ค่า CD4 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนในอาสาสมัครที่รับยาต้านไวรัสอยู่แล้วเป็นเวลา 2 ปี ใน อ.สารภี และ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จำนวนที่ละ 25 ราย พบว่า ผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัสลดลงทุกราย
ศ.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย บริษัทเอเชียนฯ กล่าวว่า มีงานวิจัยชัดเจนว่าการเพิ่มขึ้นของ CD4 ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น ซึ่งจากการทดสอบในผู้ป่วยเอดส์อาสาสมัครพบว่าช่วยเพิ่มค่า CD4 บางตัวได้ถึง 5 เท่า เพียงรับประทานวันละ 4 แคปซูลเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งการตรวจค่า CD4 นี้มีสภากาชาดไทยลงไปร่วมตรวจสอบและรองรับ ทั้งนี้ ทีมวิจัยและบริษัทฯ ได้ยื่นขอจดทะเบียนเพื่อรับรองเป็นผลิตภัณ์ฑเสริมอาหารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ที่การเปิดตัวเช่นนี้จะทำให้ผู้ป่วยเลิกทานยาต้านไวรัสเอชไอวี ศ.พิเชษฐ์ กล่าวว่า กังวล และขอให้อย่าทำเช่นนั้น เพราะผู้ป่วยเอดส์ก็ได้รับยาต้านไวรัสฯฟรีจากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) อยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องดี ส่วนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเพียงทางเลือก ส่วนจะดีหรือไม่ ก็น่าจะทราบดีจากผลวิจัยที่กล่าวไปแล้ว ทางที่ดีควรทานควบคู่กันไป
เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่หาก อย.จะเข้ามาตรวจสอบ เพราะอาจเข้าข่ายอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ศ.พิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่กลัว เพราะมีงานวิจัยรองรับชัดเจนว่าค่า CD4 เพิ่มขึ้นเป็นปกติ การติดเชื้อลดลง มีอาสาสมัครทดลอง ที่สำคัญไม่ได้อ้างว่ารักษาโรคได้ จึงไม่กังวลว่าจะผิดระเบียบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากสรรพคุณเหตุใดจึงไม่ขึ้นทะเบียนเป็นยา ศ.พิเชษฐ์ กล่าวว่า การจดทะเบียนเป็นยา ถือว่าถอยหลังเข้าคลอง เพราะต้องไปทำตามกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ยุ่งยาก ซึ่งไปอ้างอิงมาตรฐานมาจากต่างประเทศ องค์การอนามัยโลก ทำให้ใช้เวลานานและงบประมาณมหาศาล เป็นการตัดโอกาสการเข้าถึง แต่หากเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเข้าถึงง่าย สะดวก และยืนยันว่าไม่มีอันตราย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแนวทางจะร่วมมือกับ สธ.เพื่อพัฒนาเป็นยาช่วยผู้ป่วยหรือไม่ ศ.พิเชษฐ์ กล่าวว่า คงไม่เข้าไปหารือเอง เพราะฝั่ง สธ.หลายคนก็ปิดประตูกั้นผลงานใหม่ๆ แต่หาก สธ.สนใจผลงานวิจัย จะเข้ามาพูดคุยกับทางทีมวิจัยก็ยินดี
พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์ แพทย์ประจำศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ยืนยันว่าศูนย์วิจัยฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวของกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา หรือนักวิจัยร่วม แต่ไม่ทราบว่ามีหน่วยงานใดในสภากาชาดไทยที่เข้าไปร่วมมือหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นแล้วนอกจากศูนย์วิจัฯ แล้ว ไม่มีหน่วยงานใดในสภากาชาดไทยที่ทำงานเกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งขณะนี้ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ได้ทำเรื่องสอบถามไปยังสภากาชาดไทยแล้วว่ามีแพทย์ นักวิจัย คนใดทำเรื่องนี้ร่วมกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวหรือไม่ ส่วนผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัสนั้น ปัจจุบันยาต้านไวรัสที่ใช้ในไทยเป็นสูตรที่มีผลข้างเคียงน้อย สำหรับสูตรที่มีผลข้างเคียงเยอะๆ ไม่มีใช้ในไทย และไม่มีคำแนะนำให้ใช้แล้ว การออกมาบอกว่าการกินยาต้านไวรัสฯแล้วทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงไม่น่าจะถูกต้อง และเป็นปัญหาเชิงจริยธรรม
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่อาคาร เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ถ.รัชดาภิเษก ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับบริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวการค้นพบสารต้านโรคเอดส์จากพืชไทย โดย นางกรรณิกา เรือนจันทร์ หัวหน้างานวิจัยและนวัตกรรมวิทยาลัยพยาบาลรมราชชนนี จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การกินยาต้านไวรัสเอชไอวี ช่วยให้การติดเชื้อลดลง ค่าระดับภูมิคุ้มกัน CD4 เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ป่วยเอดส์มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เพราะลดภาวะการติดเชื้อฉวยโอกาสที่เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเอดส์เสียชีวิต แต่พบว่าไม่ใช่ทุกคนที่ค่า CD4 จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น จะมีอาการมึนศีรษะ ปวดศีรษะ ทรงตัวไม่ดี ผื่นขึ้นตามตัว มีไข้ น้ำหนักลด เกิดภาวะท้องเดิน ส่วนระยะยาวมีผลในเรื่องรูปลักษณ์และความงาม ทำให้แก้มซูบตอบ หน้าบุ๋มลึก เกิดอาการลงพุงทั้งที่แขนขาลีบเล็ก เส้นเลือดปูดโปน ผิวคล้ำ ซีด รวมไปถึงส่งผลต่อตับและไต ส่งผลให้ผู้ป่วยหลายรายไม่อยากกินยาต้านไวรัสฯ
นางกรรณิกา กล่าวว่า จากการพัฒนาสารสกัดธรรมชาติจากพืชไทย 5 ชนิด ได้แก่ มังคุด ฝรั่ง งาดำ ถั่วเหลือง และใบบัวบก มีคุณสมบัติปรับระดับภูมิคุ้มกันร่างกาย ซึ่งจากการทดสอบกับผู้ป่วยเอดส์อาสาสมัคร ใน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ จำนวน 27 ราย โดยให้รับประทานจำนวน 4 แคปซูลต่อวัน พบว่า ค่า CD4 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนในอาสาสมัครที่รับยาต้านไวรัสอยู่แล้วเป็นเวลา 2 ปี ใน อ.สารภี และ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จำนวนที่ละ 25 ราย พบว่า ผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัสลดลงทุกราย
ศ.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย บริษัทเอเชียนฯ กล่าวว่า มีงานวิจัยชัดเจนว่าการเพิ่มขึ้นของ CD4 ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น ซึ่งจากการทดสอบในผู้ป่วยเอดส์อาสาสมัครพบว่าช่วยเพิ่มค่า CD4 บางตัวได้ถึง 5 เท่า เพียงรับประทานวันละ 4 แคปซูลเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งการตรวจค่า CD4 นี้มีสภากาชาดไทยลงไปร่วมตรวจสอบและรองรับ ทั้งนี้ ทีมวิจัยและบริษัทฯ ได้ยื่นขอจดทะเบียนเพื่อรับรองเป็นผลิตภัณ์ฑเสริมอาหารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ที่การเปิดตัวเช่นนี้จะทำให้ผู้ป่วยเลิกทานยาต้านไวรัสเอชไอวี ศ.พิเชษฐ์ กล่าวว่า กังวล และขอให้อย่าทำเช่นนั้น เพราะผู้ป่วยเอดส์ก็ได้รับยาต้านไวรัสฯฟรีจากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) อยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องดี ส่วนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเพียงทางเลือก ส่วนจะดีหรือไม่ ก็น่าจะทราบดีจากผลวิจัยที่กล่าวไปแล้ว ทางที่ดีควรทานควบคู่กันไป
เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่หาก อย.จะเข้ามาตรวจสอบ เพราะอาจเข้าข่ายอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ศ.พิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่กลัว เพราะมีงานวิจัยรองรับชัดเจนว่าค่า CD4 เพิ่มขึ้นเป็นปกติ การติดเชื้อลดลง มีอาสาสมัครทดลอง ที่สำคัญไม่ได้อ้างว่ารักษาโรคได้ จึงไม่กังวลว่าจะผิดระเบียบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากสรรพคุณเหตุใดจึงไม่ขึ้นทะเบียนเป็นยา ศ.พิเชษฐ์ กล่าวว่า การจดทะเบียนเป็นยา ถือว่าถอยหลังเข้าคลอง เพราะต้องไปทำตามกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ยุ่งยาก ซึ่งไปอ้างอิงมาตรฐานมาจากต่างประเทศ องค์การอนามัยโลก ทำให้ใช้เวลานานและงบประมาณมหาศาล เป็นการตัดโอกาสการเข้าถึง แต่หากเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเข้าถึงง่าย สะดวก และยืนยันว่าไม่มีอันตราย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแนวทางจะร่วมมือกับ สธ.เพื่อพัฒนาเป็นยาช่วยผู้ป่วยหรือไม่ ศ.พิเชษฐ์ กล่าวว่า คงไม่เข้าไปหารือเอง เพราะฝั่ง สธ.หลายคนก็ปิดประตูกั้นผลงานใหม่ๆ แต่หาก สธ.สนใจผลงานวิจัย จะเข้ามาพูดคุยกับทางทีมวิจัยก็ยินดี
พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์ แพทย์ประจำศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ยืนยันว่าศูนย์วิจัยฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวของกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา หรือนักวิจัยร่วม แต่ไม่ทราบว่ามีหน่วยงานใดในสภากาชาดไทยที่เข้าไปร่วมมือหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นแล้วนอกจากศูนย์วิจัฯ แล้ว ไม่มีหน่วยงานใดในสภากาชาดไทยที่ทำงานเกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งขณะนี้ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ได้ทำเรื่องสอบถามไปยังสภากาชาดไทยแล้วว่ามีแพทย์ นักวิจัย คนใดทำเรื่องนี้ร่วมกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวหรือไม่ ส่วนผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัสนั้น ปัจจุบันยาต้านไวรัสที่ใช้ในไทยเป็นสูตรที่มีผลข้างเคียงน้อย สำหรับสูตรที่มีผลข้างเคียงเยอะๆ ไม่มีใช้ในไทย และไม่มีคำแนะนำให้ใช้แล้ว การออกมาบอกว่าการกินยาต้านไวรัสฯแล้วทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงไม่น่าจะถูกต้อง และเป็นปัญหาเชิงจริยธรรม
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่