เผยผลรายงานสถาบันการแพทย์มะกัน พบเพิ่มอายุคนซื้อบุหรี่จาก 18 ปี เป็น 21 ปี ช่วยลดจำนวนผู้ติดบุหรี่ลง 12% ลดคนตายก่อนเวลาจากการสูบบุหรี่ 2.49 แสนคน ตายจากมะเร็งปอด 4.5 หมื่นคน
รศ.ดร.เนาวรัตน์ เจริญค้า อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากรายงานของสถาบันการแพทย์อคาเดมีแห่งชาติสหรัฐอเมริกา สรุปว่า การเพิ่มอายุผู้ที่สามารถซื้อบุหรี่ได้ จาก 18 ปี เป็น 21 ปี ในสหรัฐฯ จะลดจำนวนผู้ที่จะติดบุหรี่ลงได้ 12% และจะลดจำนวนผู้ที่จะเสียชีวิตก่อนเวลาจากการสูบบุหรี่ได้ 249,000 คน ลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปอด 45,000 คน และลดการสูญเสียเวลาที่ตายก่อนเวลา 4.2 ปี สำหรับเด็กอเมริกันที่เกิดระหว่าง ค.ศ. 2000 - 2019 เมื่อเด็กเหล่านี้มีอายุ 40 - 50 ปี รายงานระบุว่า ช่วงที่เริ่มติดบุหรี่มากที่สุด คือ อายุ 15 - 17 ปี เนื่องจากสมองส่วนที่เกี่ยวกับการตัดสินใจ การควบคุมการตอบสนองต่อแรงกระตุ้น ความยั้งคิด และการตอบสนองต่อแรงกดดันในหมู่เพื่อนยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้วัยรุ่นตกเป็นเหยื่อของการเสพติดบุหรี่ได้ง่าย และที่สำคัญ สมองของวัยรุ่นมีความไวต่อการเสพติดนิโคติน มากกว่าสมองของผู้ที่มีอายุมากขึ้น
น.ส.สาวตรี สุขศรี อาจารย์ภาควิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรรมการยกร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับใหม่ของประเทศไทย ได้เพิ่มอายุผู้ที่จะซื้อบุหรี่ได้จาก 18 ปี เป็น 20 ปี ก็อาศัยเหตุผลเดียวกันเพื่อให้เยาวชนติดบุหรี่น้อยลง และเพื่อให้สอดคล้องกับอายุที่จะซื้อสุราได้ตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่กำหนดอายุที่ 20 ปี เช่นกัน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
