สงกรานต์ระวังป่วยท้องร่วง อาหารเป็นพิษสูง เหตุทำอาหารรองรับคนเดินทางกลับบ้าน เที่ยวต่างจังหวัดจำนวนมาก ชี้อากาศร้อน เพิ่มโอกาสอาหารบูดเสียง่าย
วันนี้ (8 เม.ย.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ช่วงสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวประชาชนนิยมเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด ซึ่งผู้จำหน่ายอาหารมักจะเตรียมอาหารไว้ขายเพื่อรองรับคนจำนวนมาก และอาจมีอาหารที่ค้างจากการจำหน่ายในแต่ละครั้ง ซึ่งช่วงนี้สภาพอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย จึงมีความเสี่ยงเจ็บป่วยจากโรคระบบทางเดินอาหารสูง ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. - 29 มี.ค. 2558 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ 30,259 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 247,212 ราย เสียชีวิต 3 ราย ดังนั้น ช่วงหยุดสงกรานต์จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ปรุงเองที่บ้าน อาหารสั่งซื้อ หรือออกไปรับประทานอาหารตามร้านนอกบ้าน
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ที่ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ 10 เมนู ได้แก่ 1. ลาบ/ก้อยดิบ 2. ยำกุ้งเต้น 3. ยำหอยแครง 4. ข้าวผัดโรยเนื้อปู 5. อาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของกะทิสด 6. ขนมจีน 7. ข้าวมันไก่ 8. ส้มตำ 9. สลัดผัก และ 10. น้ำแข็ง ที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ควรรับประทานอาหารเฉพาะที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงการปรุงโดยวิธีลวกหรือพล่าสุกๆ ดิบๆ นอกจากนี้ อาหารถุง อาหารกล่อง ควรแยกกับข้าวออกจากข้าว และควรรับประทานภายใน 2 - 4 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง สำหรับอาหารเหลือต้องเก็บในตู้เย็นและทำให้สุกก่อนมารับประทานใหม่ แต่หากมีกลิ่นผิดปกติไม่ควรรับประทานเด็ดขาด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า การป้องกันทั้ง 2 โรคดังกล่าวนั้น กลุ่มผู้ประกอบการอาหาร ขอให้ปรุงอาหารให้สุกและสะอาด ล้างผัก/ผลไม้ ด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้มีด เขียง หั่นอาหารดิบ และอาหารสุกร่วมกัน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค ดูแลครัวให้สะอาด ส่วนผู้บริโภคยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ”
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (8 เม.ย.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ช่วงสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวประชาชนนิยมเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด ซึ่งผู้จำหน่ายอาหารมักจะเตรียมอาหารไว้ขายเพื่อรองรับคนจำนวนมาก และอาจมีอาหารที่ค้างจากการจำหน่ายในแต่ละครั้ง ซึ่งช่วงนี้สภาพอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย จึงมีความเสี่ยงเจ็บป่วยจากโรคระบบทางเดินอาหารสูง ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. - 29 มี.ค. 2558 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ 30,259 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 247,212 ราย เสียชีวิต 3 ราย ดังนั้น ช่วงหยุดสงกรานต์จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ปรุงเองที่บ้าน อาหารสั่งซื้อ หรือออกไปรับประทานอาหารตามร้านนอกบ้าน
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ที่ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ 10 เมนู ได้แก่ 1. ลาบ/ก้อยดิบ 2. ยำกุ้งเต้น 3. ยำหอยแครง 4. ข้าวผัดโรยเนื้อปู 5. อาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของกะทิสด 6. ขนมจีน 7. ข้าวมันไก่ 8. ส้มตำ 9. สลัดผัก และ 10. น้ำแข็ง ที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ควรรับประทานอาหารเฉพาะที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงการปรุงโดยวิธีลวกหรือพล่าสุกๆ ดิบๆ นอกจากนี้ อาหารถุง อาหารกล่อง ควรแยกกับข้าวออกจากข้าว และควรรับประทานภายใน 2 - 4 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง สำหรับอาหารเหลือต้องเก็บในตู้เย็นและทำให้สุกก่อนมารับประทานใหม่ แต่หากมีกลิ่นผิดปกติไม่ควรรับประทานเด็ดขาด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า การป้องกันทั้ง 2 โรคดังกล่าวนั้น กลุ่มผู้ประกอบการอาหาร ขอให้ปรุงอาหารให้สุกและสะอาด ล้างผัก/ผลไม้ ด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้มีด เขียง หั่นอาหารดิบ และอาหารสุกร่วมกัน เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค ดูแลครัวให้สะอาด ส่วนผู้บริโภคยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ”
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่