xs
xsm
sm
md
lg

ฝึก “ครูสอนคิด” ช่วยเด็กคิดเป็น รู้จักตั้งคำถาม หาคำตอบ ดีกว่าเรียนแบบท่องจำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แนะครูเปลี่ยนการสอนแบบท่องจำ เป็น “ครูสอนคิด” ช่วยเด็กรู้จักคิด ตั้งคำถาม ขวนขวายหาคำตอบ ชี้ครูสอนคิดต้องมีทักษะ 3 ด้าน ทั้งการถามเป็นระบบ การสื่อสาร และกระตุ้นให้เด็กมีส่วนร่วม

ผศ.พญ.ศุภรา เชาว์ปรีชา ที่ปรึกษาศูนย์จิตวิทยาการศึกษา มูลนิธิยุวสถิรคุณ กล่าวในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และทดลองฝึกการตั้งคำถามเพื่อให้ได้ประสบการณ์ของการเป็นครูสอนคิดในงานประชุมวิชาการ “สานพลังเรียนรู้ครูนักปฏิบัติ : คืนความสุขสู่ผู้เรียน” จัดโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และมูลนิธิสถาบันวิจัยระบบการศึกษา ว่า ครูสอนคิด (Socratic Method) เป็น 1 ใน 6 โครงการ ภายใต้หลักจิตวิทยาเพื่อพัฒนาได้ โดยมีแนวคิดว่าการคิดคงทนกว่าความรู้ จึงควรสอนให้คิดมากกว่าบอกให้จำหรือย้ำให้เชื่อ ที่ต้องการให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้สอนและผู้เรียน โดยผู้สอนมีหน้าที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมด้วยการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและเป็นมิตร ใช้กระบวนการถามอย่างเป็นระบบ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ถูกถามคิดและสงสัยในคำตอบและความเชื่อที่ตนเองมี เน้นการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดสร้างสรรค์มากกว่าคำตอบที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาตามแนวพระราชกระแสฯ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและเด็ก

ด้าน ผศ.นพ.ชัยชนะ นิ่มนวล ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การจะเป็นครูสอนคิดได้ต้องมีทักษะที่ดี 3 ด้าน คือ 1. การถามอย่างเป็นระบบ (systematic questioning) สามารถใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กคิดและเชื่อมโยงได้ 2. การสื่อสาร (communication) สามารถสื่อสารให้เด็กเข้าใจได้ง่ายมีทักษะที่ดีในการแสดงความสนใจปฏิกิริยาตอบรับของเด็ก และ 3. การกระตุ้นให้มีส่วนร่วม (facilitation) สามารถกระตุ้นให้เด็กแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในชั้นเรียนได้ ทั้งนี้ ครูจะสอนให้เด็กคิดได้อย่างไรขึ้นกับการใช้คำถามที่ดีกระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิด วิเคราะห์ที่ลึกซึ้ง โดยใช้รูปแบบของครูสอนคิด ซึ่งเป็นวิธีสอนการแสวงหาความรู้อย่างเป็นระบบที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการเรียนรู้มากกว่าข้อมูลหรือเนื้อหาที่มุ่งเน้นให้เกิดการตระหนักว่าความคิดของตนเองเป็นเพียงความเชื่อซึ่งสามารถปรับแต่งให้คมชัดและมีเหตุผลมากขึ้นโดยอาศัยความสงสัยต่อความเชื่อที่ตนเองยึดถือในเบื้องต้นและการตั้งคำถามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้าถึงความรู้ที่ลึกซึ้งขึ้น

“ครูสอนคิด เน้นการฝึกให้ผู้เข้าร่วมคือครูได้ตั้งคำถาม เพราะการตั้งคำถามก่อให้เกิดการคิดหรือชวนให้ถาม การสอนให้เด็กคิดไม่สามารถเกิดจากการบอก เพราะการบอกคำตอบเท่ากับให้เด็กหยุดคิดดังนั้น เมื่อครูผู้สอนถามแล้วต้องรอคำตอบ อย่าตอบแทนเด็ก เพราะมองว่าเสียเวลารอ โดยครูผู้สอนไม่ต้องกังวลว่าจะต้องมีคำตอบที่ถูกเสมอ ครูมีหน้าที่หลักคือ ตั้งคำถามให้ผู้เรียนตอบและร่วมกันอภิปรายหลักสำคัญไม่ใช่การสอนแต่เป็นการสร้างทักษะในการคิดวิเคราะห์ค้นหาความรู้ร่วมกันและเครื่องมือสำคัญคือการใช้คำถามที่มีคุณภาพโดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 1. คำตอบหาได้จากเรื่องหรือตัวบทโดยตรง (text explicit) มีคำตอบที่ถูกต้องชัดเจนเป็นการถามความเข้าใจเบื้องต้นมักจะเป็นคำถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงหรือความจำ 2. ต้องอนุมานหรือวิเคราะห์คำตอบที่แฝงไว้ในเรื่อง หรือตัวบท(text implicit) คำตอบอาจแทรกหรือกระจัดกระจายในที่ต่างๆจึงต้องตัดสินใจเลือกสรุปโดยการจัดระบบ หรือเชื่อมโยงความสัมพันธ์จากเนื้อหาที่มี และ 3. ต้องหาคำตอบที่อยู่นอกเหนือเนื้อเรื่องหรือตัวบทจำเป็นต้องอาศัยความรู้หรือประสบการณ์ของผู้ตอบ (Experience Based) ทำให้คำตอบของแต่ละคนมีความเป็นไปได้ที่หลากหลายไม่มีคำตอบที่ถูกต้องชัดเจนคำตอบเดียว เป้าหมายสุดท้ายที่ต้องการให้เกิดคือการทำให้เด็กมีความพึงพอใจต่อการคิดสนุกกับการถามและการหาคำตอบด้วยตัวเอง มากกว่าการเชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอก” ผศ.นพ.ชัยชนะ กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น