“ยงยุทธ” คาดผลสอบใช้งบ สปสช. เสร็จสิ้นใน 2 - 3 สัปดาห์ ยันไม่เกี่ยวข้องผลสอบปลัด สธ. ด้าน “รัชตะ” เชื่อประธาน คกก. ตรวจสอบปลัด สธ.- สปสช. เร่งดำเนินการ ไม่อยากยืดเยื้อ
วันนี้ (2 เม.ย.) นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในประเด็นเรื่องการบริหารกองทุน ว่า คาดว่าผลตรวจสอบ สปสช.จะเสร็จสิ้นและรายงานมายังตนไม่เกิน 2 - 3 สัปดาห์นี้ โดยยืนยันว่าผลสอบดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงสอบ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายกังวลว่าผลสอบ นพ.ณรงค์ อาจมีการยื้อไปจนถึง นพ.ณรงค์ เกษียณอายุราชการ นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ต้องถามทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปลัด สธ.
ด้าน นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า ตนได้ให้นโยบายกับ สปสช. ไปแล้วว่า เรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริง สปสช.จะให้ความร่วมมือเต็มที่ในการส่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งขณะนี้ สปสช. ก็มีการประสานในเรื่องการขอข้อมูลกันอยู่ ส่วนผลสอบนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สปสช. ที่มี พล.ต.ธนาคาร เกิดในมงคล คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เป็นประธานนั้น จะมีการตรวจสอบเร็วแค่ไหน แต่เชื่อว่าคงไม่อยากยืดเยื้อนาน ต้องรีบดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุด เช่นเดียวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงปลัด สธ. ก็ต้องไปถามทางคณะกรรมการว่ามีความคืบหน้าอย่างไร และคิดว่า น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นประธานสอบปลัด สธ.ก็คงอยากให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายห่วงว่า ปลัด สธ. จะถูกแขวนประจำอยู่ที่ทำสำนักนายกรัฐมนตรีไปจนเกษียณ นพ.รัชตะ กล่าวว่า คงต้องรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการรายงานผลตรวจสอบจะส่งไปยังรองนายกฯ และนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาที่ตนก่อน
ต่อข้อถามว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริง สปสช. จะส่งผลถึงนโยบายของ สปสช. ด้วยหรือไม่ นพ.รัชตะ กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช. กำลังจะปรับจุดยืนเชิงยุทธศาสตร์ใหม่ ดังนั้น ข้อมูลในทุกภาคส่วนที่เป็นข้อมูลสำคัญก็จะนำเข้ามาประกอบการพิจารณาด้วย ส่วนกรณีงบเหมาจ่ายรายหัวบัตรทองไม่เพียงพอนั้นคงต้องมีแนวทางว่าจะบริหารจัดการกันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังกังวลเรื่องการทำงานระหว่าง สธ. และ สปสช.หรือไม่ นพ.รัชตะ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานใน สธ. ก็ยังเดินหน้าทำงานกันปกติ ส่วนกับ สปสช. ก็มีการหันมาพูดคุยและทำงานร่วมกันมากขึ้น และต่อไปก็คงต้องร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนปัญหาความคิดเห็นต่างกันเป็นเรื่องปกติ ทาง สปสช. ก็มีการปรับอยู่ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ในฐานะที่ตนดูแลทั้งสองหน่วยงานก็ควรเปิดโอกาสให้ทั้งสองหน่วยงานเข้ามาพูดคุยกันมากขึ้น หากมีอะไรต้องปรับก็พร้อมที่จะปรับ ภายใต้หลักการที่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
ต่อข้อถามว่า ยังคงมีกระแสการทักท้วงของบุคลากรใน สธ. นพ.รัชตะ กล่าวว่า เท่าที่ทราบก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหว หรือชุมนุมต่อต้านเรียกร้องอะไรเกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ก็คงมีบ้างเล็กน้อย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (2 เม.ย.) นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในประเด็นเรื่องการบริหารกองทุน ว่า คาดว่าผลตรวจสอบ สปสช.จะเสร็จสิ้นและรายงานมายังตนไม่เกิน 2 - 3 สัปดาห์นี้ โดยยืนยันว่าผลสอบดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงสอบ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายกังวลว่าผลสอบ นพ.ณรงค์ อาจมีการยื้อไปจนถึง นพ.ณรงค์ เกษียณอายุราชการ นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ต้องถามทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปลัด สธ.
ด้าน นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า ตนได้ให้นโยบายกับ สปสช. ไปแล้วว่า เรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริง สปสช.จะให้ความร่วมมือเต็มที่ในการส่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งขณะนี้ สปสช. ก็มีการประสานในเรื่องการขอข้อมูลกันอยู่ ส่วนผลสอบนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สปสช. ที่มี พล.ต.ธนาคาร เกิดในมงคล คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เป็นประธานนั้น จะมีการตรวจสอบเร็วแค่ไหน แต่เชื่อว่าคงไม่อยากยืดเยื้อนาน ต้องรีบดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุด เช่นเดียวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงปลัด สธ. ก็ต้องไปถามทางคณะกรรมการว่ามีความคืบหน้าอย่างไร และคิดว่า น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นประธานสอบปลัด สธ.ก็คงอยากให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายห่วงว่า ปลัด สธ. จะถูกแขวนประจำอยู่ที่ทำสำนักนายกรัฐมนตรีไปจนเกษียณ นพ.รัชตะ กล่าวว่า คงต้องรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการรายงานผลตรวจสอบจะส่งไปยังรองนายกฯ และนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาที่ตนก่อน
ต่อข้อถามว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริง สปสช. จะส่งผลถึงนโยบายของ สปสช. ด้วยหรือไม่ นพ.รัชตะ กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช. กำลังจะปรับจุดยืนเชิงยุทธศาสตร์ใหม่ ดังนั้น ข้อมูลในทุกภาคส่วนที่เป็นข้อมูลสำคัญก็จะนำเข้ามาประกอบการพิจารณาด้วย ส่วนกรณีงบเหมาจ่ายรายหัวบัตรทองไม่เพียงพอนั้นคงต้องมีแนวทางว่าจะบริหารจัดการกันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังกังวลเรื่องการทำงานระหว่าง สธ. และ สปสช.หรือไม่ นพ.รัชตะ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานใน สธ. ก็ยังเดินหน้าทำงานกันปกติ ส่วนกับ สปสช. ก็มีการหันมาพูดคุยและทำงานร่วมกันมากขึ้น และต่อไปก็คงต้องร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนปัญหาความคิดเห็นต่างกันเป็นเรื่องปกติ ทาง สปสช. ก็มีการปรับอยู่ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ในฐานะที่ตนดูแลทั้งสองหน่วยงานก็ควรเปิดโอกาสให้ทั้งสองหน่วยงานเข้ามาพูดคุยกันมากขึ้น หากมีอะไรต้องปรับก็พร้อมที่จะปรับ ภายใต้หลักการที่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
ต่อข้อถามว่า ยังคงมีกระแสการทักท้วงของบุคลากรใน สธ. นพ.รัชตะ กล่าวว่า เท่าที่ทราบก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหว หรือชุมนุมต่อต้านเรียกร้องอะไรเกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ก็คงมีบ้างเล็กน้อย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่