เอ็นจีโอแฉ กทม. จัดสงกรานต์สีลมปลอดเหล้า แต่จับมือบริษัทเบียร์รายใหญ่ร่วมเป็นเจ้าภาพ ห่วงตกเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดธุรกิจน้ำเมา ร่วมทำผิดกฎหมาย เล็งเฝ้าระวังการทำผิดกฎหมายช่วงสงกรานต์ ชี้ กทม. ตอบให้ชัดปลอดเหล้า คือไม่ขาย ไม่ดื่ม หรือ ไม่ขายอย่างเดียว
นายชูวิทย์ จันทรส เลขานุการเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวถึงกรณีสำนักงานเขตบางรัก กทม. และองค์กรต่างๆ จัดกิจกรรมสงกรานต์ในพื้นที่สีลมให้เป็นพื้นที่ ปลอดภัย ปลอดเหล้า ปลอดโป๊ ปลอดแป้ง ว่า ขอชื่นชม กทม. ที่มุ่งมั่นจะจัดกิจกรรมสงกรานต์สร้างสรรค์ รักษาประเพณีอันดีงาม สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่จากการติดตามการแถลงข่าว “สงกรานต์สีลม” เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่โรงแรมดุสิตธานี กลับพบว่า มีบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด เป็นสปอนเซอร์ มีการขึ้นโลโก้บริษัทอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้เครือข่ายฯได้ทำหนังสือคัดค้านการเข้ามาสนับสนุนของบริษัทรายนี้แล้ว โดยส่งหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยว เนื่องจากกังวลว่ากิจกรรมที่ กทม. มีความตั้งใจดีๆ จะกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปในที่สุด และอาจต้องระวังความสุ่มเสี่ยงที่จะมีการทำผิดกฎหมายตามมา เพราะในงานแถลงข่าวครั้งนี้ก็มีการขึ้นโลโก้อย่างชัดเจน
“แม้การสนับสนุนของไทยเบฟฯ จะเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่อาจจะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิด เพราะโลโก้ของสินค้าที่เป็นน้ำดื่มหรือโซดา หรือเครื่องดื่มตราช้าง ก็มีความใกล้เคียงกันมากกับโลโก้ของเบียร์ช้าง ซึ่งทำให้เด็กและเยาวชนที่พบเห็นเชื่อมโยงไปถึงเบียร์ได้ไม่ยาก สอดคล้องกับงานวิจัยของศูนย์วิจัยปัญหาสุราที่สำรวจความคิดเห็นเด็ก 600 คน ต่อโลโก้น้ำดื่มยี่ห้อหนึ่ง ผลปรากฏว่า 599 คน มองว่าเป็นโลโก้ของเบียร์ โดยมีผู้ที่บอกว่าเป็นโลโก้ของน้ำเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นความสำเร็จที่แยบยลในการสื่อสารการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่กฎหมายยังไม่เท่าทัน” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า กทม. ต้องชัดเจนว่ามาตรการปลอดเหล้าหมายถึงไม่ขายไม่ดื่ม หรือเพียงแค่ไม่ขายอย่างเดียว คำถามคือแล้วจะลดปัญหาได้จริงหรือ หลังจากนี้ เครือข่ายฯจะเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นช่วงสงกรานต์ หากพบการกระทำที่ผิดกฎหมาย จะส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิด และบริษัทไทยเบฟเองก็ต้องร่วมรับผิดชอบ เพราะไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่ทุกภาคส่วนรณรงค์ให้คนไทยเที่ยวสงกรานต์อย่างปลอดภัยลดอุบัติเหตุ แต่ธุรกิจน้ำเมายังฉวยโอกาสแอบแฝงสื่อสารการตลาด บนความสูญเสีย ทางที่ดีที่สุดในการรับผิดชอบสังคมของบริษัทน้ำเมาคือทำตามกฎหมาย แล้วสังคมจะดีขึ้นเอง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายชูวิทย์ จันทรส เลขานุการเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวถึงกรณีสำนักงานเขตบางรัก กทม. และองค์กรต่างๆ จัดกิจกรรมสงกรานต์ในพื้นที่สีลมให้เป็นพื้นที่ ปลอดภัย ปลอดเหล้า ปลอดโป๊ ปลอดแป้ง ว่า ขอชื่นชม กทม. ที่มุ่งมั่นจะจัดกิจกรรมสงกรานต์สร้างสรรค์ รักษาประเพณีอันดีงาม สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่จากการติดตามการแถลงข่าว “สงกรานต์สีลม” เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่โรงแรมดุสิตธานี กลับพบว่า มีบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด เป็นสปอนเซอร์ มีการขึ้นโลโก้บริษัทอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนหน้านี้เครือข่ายฯได้ทำหนังสือคัดค้านการเข้ามาสนับสนุนของบริษัทรายนี้แล้ว โดยส่งหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยว เนื่องจากกังวลว่ากิจกรรมที่ กทม. มีความตั้งใจดีๆ จะกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปในที่สุด และอาจต้องระวังความสุ่มเสี่ยงที่จะมีการทำผิดกฎหมายตามมา เพราะในงานแถลงข่าวครั้งนี้ก็มีการขึ้นโลโก้อย่างชัดเจน
“แม้การสนับสนุนของไทยเบฟฯ จะเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่อาจจะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิด เพราะโลโก้ของสินค้าที่เป็นน้ำดื่มหรือโซดา หรือเครื่องดื่มตราช้าง ก็มีความใกล้เคียงกันมากกับโลโก้ของเบียร์ช้าง ซึ่งทำให้เด็กและเยาวชนที่พบเห็นเชื่อมโยงไปถึงเบียร์ได้ไม่ยาก สอดคล้องกับงานวิจัยของศูนย์วิจัยปัญหาสุราที่สำรวจความคิดเห็นเด็ก 600 คน ต่อโลโก้น้ำดื่มยี่ห้อหนึ่ง ผลปรากฏว่า 599 คน มองว่าเป็นโลโก้ของเบียร์ โดยมีผู้ที่บอกว่าเป็นโลโก้ของน้ำเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นความสำเร็จที่แยบยลในการสื่อสารการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่กฎหมายยังไม่เท่าทัน” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า กทม. ต้องชัดเจนว่ามาตรการปลอดเหล้าหมายถึงไม่ขายไม่ดื่ม หรือเพียงแค่ไม่ขายอย่างเดียว คำถามคือแล้วจะลดปัญหาได้จริงหรือ หลังจากนี้ เครือข่ายฯจะเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นช่วงสงกรานต์ หากพบการกระทำที่ผิดกฎหมาย จะส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิด และบริษัทไทยเบฟเองก็ต้องร่วมรับผิดชอบ เพราะไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่ทุกภาคส่วนรณรงค์ให้คนไทยเที่ยวสงกรานต์อย่างปลอดภัยลดอุบัติเหตุ แต่ธุรกิจน้ำเมายังฉวยโอกาสแอบแฝงสื่อสารการตลาด บนความสูญเสีย ทางที่ดีที่สุดในการรับผิดชอบสังคมของบริษัทน้ำเมาคือทำตามกฎหมาย แล้วสังคมจะดีขึ้นเอง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่