xs
xsm
sm
md
lg

ผู้การภูเก็ตแจงนานาเรื่องร้องเรียนยันตำรวจ “ไม่ทุบ ไม่พัง ไม่บ่อน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้การภูเก็ต แจงเหตุโพสต์คลิป “ตีผมทำไม” ยันบาดแผลคนเจ็บคาดเกิดจากล้มหัวกระแทกพื้นที่มีเหลี่ยม หรือมุม ตำรวจไม่ได้ใช้ไม้ทุบหัว ขณะที่การนำกำลังบุกจับผู้ต้องหาคดีเช็ค ยืนยันตำรวจทำตามระเบียบไม่มีการพังประตู ส่วนเรื่องบ่อนภูเก็ตไม่ตอบโต้ “ชูวิทย์” เพราะภูเก็ตไม่มีบ่อน

วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ภูเก็ต กล่าวในโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพบสื่อมวลชน ถึงกรณีมีการเผยแพร่คลิป “ตีผมทำไม” และกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาคดีเช็คในพื้นที่ อ.ถลาง จนกระทั่งมีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อเร็วๆนี้ ว่า ในการประชุมตำรวจได้มีการกำหนดเป้าหมายในการทำงานให้ทำงานภายใต้กฎหมาย ใครทำผิดกฎหมายต้องรับผิดชอบ ในภาพรวมนั้นทางผู้บังคับบัญชาจะต้องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งในที่ทำงาน และหลังเลิกงาน ผู้บังคับบัญชาจะต้องกวดขันเรื่องของวินัย เรื่องของความประพฤติ ใครทำผิดก็ต้องว่าไปตามความผิด และในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องรับผิดชอบไปตามลำดับขั้น

สำหรับเรื่องของการยื่นหนังสือร้องเรียนให้มีการตรวจสอบกรณีมีการเผยแพร่คลิป “ตีผมทำไม” เรื่องนี้ตนก็ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที ซึ่งวันที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจที่บริเวณใกล้กับสะพานเชิงคีรี ในการตั้งด่านตรวจจะแบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ส่วน จุดแรกจะต้องเป็นด่านตรวจหลัก และเลยไปเล็กน้อยก็จะจัดเจ้าหน้าตำรวจไว้อีกจุด เพื่อจับกุมคนขับรถแหกด่าน ซึ่งในคืนที่เกิดเหตุนั้นคนเจ็บได้ขับรถมาพร้อมกับเพื่อน จำนวน 2 คัน ซึ่งเพื่อนของคนเจ็บนั้นสามารถแหกด่านตรวจไปได้ทั้ง 2 จุด แต่คนเจ็บสามารถแหกด่านแรกไปได้ แต่ไปเจอกับ ตร.ที่ดักรออยู่ เมื่อเห็นตำรวจก็พยายามที่จะหลีกตำรวจจนรถแฉลบล้มลง โดยคนเจ็บนั้นไม่สวมหมวกนิรภัย เมื่อล้มลงคาดว่าหัวน่าจะไปกระแทกกับพื้นถนนที่อาจจะมีเหลี่ยม หรือมุมจนทำให้หัวแตกต้องเย็บ 7 เข็ม กะโหลกแตก ซึ่งจากการตรวจสอบบาดแผลเชื่อว่าไม่ได้เกิดจากถูกไม้ หรือกระบองตี เพราะถ้าถูกตีหัวจะบวม แต่บาดแผลน่าจะเกิดจากกระแทกกับสิ่งของที่เป็นเหลี่ยม และจากการตั้งกรรมการสอบก็ได้รับการยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีไม้ หรือกระบองในขณะปฏิบัติหน้าที่

ขณะที่เรื่องของการร้องเรียนความประพฤติของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าจับกุมผู้องหาที่มีหมายจับคดีเช็คนั้น พล.ต.ต.พชร กล่าวว่า ในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีเช็ค ซึ่งตำรวจไปดักรอผู้ต้องหาอยู่บริเวณหน้าบ้าน เมื่อผู้ต้องหาเดินออกมาจากบ้าน และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็วิ่งกลับเข้าบ้าน และปิดประตู เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถติดตามเข้าไปในบ้านได้ ทางตำรวจจึงประสานไปยังทหาร มทบ.41 ให้มาร่วมตรวจค้นเพื่อทำการจับกุม ทางทหารก็ใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึกก็สามารถเข้าค้นได้ ถ้าถามว่ากลางคืนสามารถเข้าคนได้หรือไม่ เหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องทั้งกลางวัน และกลางคืน เพราะมีการปิดประตูบ้านไว้เพื่อรอเจ้าของบ้าน ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าบ้านก็ได้แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้เสียทรัพย์ด้วย เท่าที่ทราบเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำให้ประตูพังเสียหาย แต่ใช้วิธีงัดประตูเมื่องัดไม่ออกก็หยุดดำเนินการ หลังจากนั้น เจ้าของบ้านมาเปิดประตู และนำตรวจค้น และจากการตรวจค้นก็ไม่พบตัวผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่าอาจจะหลบหนีไปทางหลังบ้านเนื่องจากเป็นบ้านที่อยู่ติดๆกันถึง 3 หลัง แต่อย่างไรก็ตาม วันรุ่งขึ้นอีกวันทางผู้ต้องหาตามหมายจับก็เดินทางไปมอบตัวที่ศาล เพราะเป็นหมายศาล

การเข้าไปในครั้งนี้ต้องการที่จะเข้าไปจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล แต่เมื่อเข้าไปแล้วต้องต้องตรวจสอบทุกอย่าง ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไม่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ และไม่สวมชุดตำรวจ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทหารที่สวมเครื่องแบบ เรื่องนี้ตนคิดว่าชัดเจนอยู่แล้วว่าคนที่ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเวลาร้องเรียนก็ร้องถูกคน ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาให้ข่าวกรณีการเรียกเก็บส่วยเพื่อเปิดบ่อนพนันในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.พชร กล่าวว่า กรณีของนายชูวิทย์ ตนไม่โต้ตอบ เพราะในภูเก็ตไม่มีบ่อนการพนัน และที่ผ่านมา ตนกับนายชูวิทย์ เคยมีเรื่องฟ้องร้องกันอยู่
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น