เครือข่ายครอบครัวจวก ร่าง พ.ร.บ.สลากฯ ไม่แก้ปัญหาหวยแพง แต่เอื้อประโยชน์กลุ่มทุน กรุยทางนักการเมืองโกยเงิน ออกสลากใหม่แบบไร้ลิมิต เพิ่มอำนาจบอร์ดสลาก ค้านขายสลากกินแบ่งฯในร้านสะดวกซื้อ ทำเด็กเข้าถึงอบายมุขง่าย
วันนี้ (23 มี.ค.) นางฐานิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวถึงกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจัดประชุมบอร์ดสลากฯสัญจร จ.ชลบุรี เพื่อเรียกประชุมผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ว่า แม้จะยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องจำหน่ายสลากกินแบ่งฯตามร้านสะดวกซื้อ แต่ยังมั่นใจไม่ได้ เพราะหากทำจริงเท่ากับยกผลประโยชน์ให้นายทุน โดยไม่คิดถึงผู้ค้ารายย่อยที่ยากจน ผู้พิการที่มีรายได้น้อย หรือปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1. เปิดทางให้ออกสลากชนิดใหม่ได้ทุกชนิด และ 2. เพิ่มอำนาจให้บอร์ด เป็นการแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการออกสลากให้หลากชนิดมากขึ้น แต่ไม่ระบุตรงๆ ว่ามีอะไรบ้าง แต่เหมาเอาไว้ทั้งหมด ทั้งหวยตู้ หวยล็อตโต หวยเขียน หวยขูด หรือหวยแทงผลกีฬา ซึ่งอ้างเพียงว่าจะทำให้สลากราคาถูกลง
“การแก้ พ.ร.บ. ครั้งนี้ น่าผิดหวัง เพราะมีเจตนารมณ์ชัดว่าเอาเงินเป็นตัวตั้ง ไม่จริงใจต่อการแก้ปัญหา ไม่พูดถึงความโปร่งใส ไม่คิดแตะต้องกลุ่มผลประโยชน์ ไม่พูดถึงการคุ้มครองผู้บริโภค ไม่พูดถึงการดูแลผู้ค้ารายย่อย ไม่พูดถึงการรับผิดชอบต่อสังคมจากการเล่นพนันสลาก และไม่มีมิติใดๆเลยที่จะนับเป็นการแก้กฎหมายเพื่อสนองต่อวาระการปฏิรูปประเทศ อีกทั้งไม่ชัดเจนว่าเกิดประโยชน์ต่อสาธารณะตามที่กล่าวอ้าง จะพอมีดีอยู่บ้างที่ป้องกันเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าถึง แต่โดยรวมแล้วรับไม่ได้ ที่น่าผิดหวังที่สุดคือ การแก้ พ.ร.บ. มีเจตนากรุยทางให้ฝ่ายการเมืองคือ การเพิ่มชนิดของสลากให้หาเงินได้มากขึ้น และเปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองนำเงินไปใช้ได้โดยง่าย” นางฐานิชชา กล่าว
น.ส.เกณิกา พงษ์วิรัช ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยา กล่าวว่า ในนามเครือข่ายผู้ปกครองขอคัดค้าน และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะจำหน่ายสลากในร้านสะดวกซื้อ เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มการพนัน เพิ่มอบายมุขดึงเด็กและเยาวชนให้ตกเป็นเหยื่อ หากรัฐบาลหรือสำนักงานสลากจะปฏิรูปในเรื่องนี้ ก็ควรคำนึกถึงเด็กเยาวชน และส่งเสริมให้ห่างไกลจากพนันจะดีกว่า ส่วนร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่ เครือข่ายผู้ปกครองไม่เชื่อถือเลย เพราะเอื้อประโยชน์กับภาคธุรกิจมากกว่า จึงไม่น่าแก้ปัญหาสลากแพงได้ ผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่ที่ประชาชนอย่างแท้จริง แม้การหารายได้เข้ารัฐสำคัญ แต่อย่าลืมผลกระทบที่ตามมาว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย ผู้ใหญ่ต้องทบทวนตัดวงจรพนัน เพราะหากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาจะแก้ไขเยียวยาลำบาก เห็นได้จากข่าวที่ปรากฏ เช่น หมกมุ่นอยู่กับการพนันลุกลามไปสู่สิ่งต่างๆ ทั้งอาชญากรรม และความรุนแรง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (23 มี.ค.) นางฐานิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวถึงกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจัดประชุมบอร์ดสลากฯสัญจร จ.ชลบุรี เพื่อเรียกประชุมผู้ประกอบการภาคธุรกิจ ว่า แม้จะยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องจำหน่ายสลากกินแบ่งฯตามร้านสะดวกซื้อ แต่ยังมั่นใจไม่ได้ เพราะหากทำจริงเท่ากับยกผลประโยชน์ให้นายทุน โดยไม่คิดถึงผู้ค้ารายย่อยที่ยากจน ผู้พิการที่มีรายได้น้อย หรือปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1. เปิดทางให้ออกสลากชนิดใหม่ได้ทุกชนิด และ 2. เพิ่มอำนาจให้บอร์ด เป็นการแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการออกสลากให้หลากชนิดมากขึ้น แต่ไม่ระบุตรงๆ ว่ามีอะไรบ้าง แต่เหมาเอาไว้ทั้งหมด ทั้งหวยตู้ หวยล็อตโต หวยเขียน หวยขูด หรือหวยแทงผลกีฬา ซึ่งอ้างเพียงว่าจะทำให้สลากราคาถูกลง
“การแก้ พ.ร.บ. ครั้งนี้ น่าผิดหวัง เพราะมีเจตนารมณ์ชัดว่าเอาเงินเป็นตัวตั้ง ไม่จริงใจต่อการแก้ปัญหา ไม่พูดถึงความโปร่งใส ไม่คิดแตะต้องกลุ่มผลประโยชน์ ไม่พูดถึงการคุ้มครองผู้บริโภค ไม่พูดถึงการดูแลผู้ค้ารายย่อย ไม่พูดถึงการรับผิดชอบต่อสังคมจากการเล่นพนันสลาก และไม่มีมิติใดๆเลยที่จะนับเป็นการแก้กฎหมายเพื่อสนองต่อวาระการปฏิรูปประเทศ อีกทั้งไม่ชัดเจนว่าเกิดประโยชน์ต่อสาธารณะตามที่กล่าวอ้าง จะพอมีดีอยู่บ้างที่ป้องกันเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าถึง แต่โดยรวมแล้วรับไม่ได้ ที่น่าผิดหวังที่สุดคือ การแก้ พ.ร.บ. มีเจตนากรุยทางให้ฝ่ายการเมืองคือ การเพิ่มชนิดของสลากให้หาเงินได้มากขึ้น และเปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองนำเงินไปใช้ได้โดยง่าย” นางฐานิชชา กล่าว
น.ส.เกณิกา พงษ์วิรัช ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยา กล่าวว่า ในนามเครือข่ายผู้ปกครองขอคัดค้าน และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะจำหน่ายสลากในร้านสะดวกซื้อ เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มการพนัน เพิ่มอบายมุขดึงเด็กและเยาวชนให้ตกเป็นเหยื่อ หากรัฐบาลหรือสำนักงานสลากจะปฏิรูปในเรื่องนี้ ก็ควรคำนึกถึงเด็กเยาวชน และส่งเสริมให้ห่างไกลจากพนันจะดีกว่า ส่วนร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่ เครือข่ายผู้ปกครองไม่เชื่อถือเลย เพราะเอื้อประโยชน์กับภาคธุรกิจมากกว่า จึงไม่น่าแก้ปัญหาสลากแพงได้ ผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่ที่ประชาชนอย่างแท้จริง แม้การหารายได้เข้ารัฐสำคัญ แต่อย่าลืมผลกระทบที่ตามมาว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย ผู้ใหญ่ต้องทบทวนตัดวงจรพนัน เพราะหากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาจะแก้ไขเยียวยาลำบาก เห็นได้จากข่าวที่ปรากฏ เช่น หมกมุ่นอยู่กับการพนันลุกลามไปสู่สิ่งต่างๆ ทั้งอาชญากรรม และความรุนแรง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่