ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.ชุดสืบสวนภูธรภูเก็ต รวบผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า ยาไอซ์ รวบทั้งอาวุธปืนเพียบ ตรวจสอบประวัติพบหนีคดีสำคัญหลายคดี โดยเฉพาะคดีเมื่อปี 2556 ขับรถเก๋งเฉี่ยวชนกับรถเก๋งของเจ้าหน้าที่เทศกิจลงจากรถหวังเจรจา แต่เห็นเทศกิจแต่งกายครึ่งท่อนคิดว่าเป็นตำรวจทิ้งรถหลบหนี ตรวจค้นในรถพบยาเสพติดจำนวนมาก รวมทั้งอาวุธปืน
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรพล ทิพย์เจริญ พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายสุรศักดิ์ ระเบียบดี หรือบู้ ม่าหนิก ผู้ต้องหาคดีสำคัญ และผู้ต้องหาคดีมียาเสพติดในครอบครอง รวมทั้งมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต จับกุมได้เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 1,135 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 7.98 กรัม อาวุธปืน M.16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน M.16 จำนวน 155 นัด กระสุนปืน .32 จำนวน 55 นัด และของกลางอื่นจำนวนหนึ่ง
พ.ต.อ.พีรยุทธ กล่าวถึงการจับกุม นายสุรศักดิ์ ระเบียบดี หรือบู้ ม่าหนิก ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญในครั้งนี้ว่า ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า นายสุรศักดิ์ หรือบู้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต หลายหมายด้วยกัน มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดทั้งยาบ้า และยาไอซ์ให้แก่กลุ่มผู้ค้ารายย่อย และกลุ่มผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต อยู่ และเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับคุมคดีสำคัญ โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด และอาวุธปืน ของพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2556 เวลาประมาณ 06.00 น. ซึ่งผู้ต้องหาได้ขับรถเก๋งเฉี่ยวชนกับรถเก๋งที่เป็นของพนักงานเทศกิจ บริเวณหน้าตลาดสดถนนระนอง หลังจากเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ลงจากรถเพื่อเจรจา แต่เห็นคู่กรณีสวมชุดครึ่งท่อนคิดว่าเป็นตำรวจ จึงได้ตัดสินใจทิ้งรถ และวิ่งหลบหนีไป และจากการตรวจสอบภายในรถพบยาบ้า จำนวน 4,580 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 50 กรัม ปืนกลมือ จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 22 นัด และของกลางอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง
ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สืบสวนติดตามพฤติกรรมเพื่อจับกุมเรื่อยมา จนกระทั่งในวันที่ 18 ก.พ.เวลาประมาณ 21.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันจับกุม นายสรศักดิ์ หรือโจ้ สุขจันทร์ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 2 เม็ด หลังจับกุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาสอบสวนขยายผลจนทราบว่า อยู่ในเครือข่ายยาเสพติดของ นายสุรศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต พร้อมกับให้ข้อมูลที่พักบ้านเลขที่ 19/243 หมู่ที่ 3 ถ.รัษฎานุสรณ์ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากทราบข้อมูลจึงจัดเจ้าหน้าที่ซุ่มดู จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าวมียาเสพติดอยู่ในครอบครองจำนวนมาก และกำลังรอจำหน่ายให้ลูกค้าที่มาติดต่อขอซื้อที่บ้านพักดังกล่าว ทางเจ้าเดินทางไปตรวจสอบ และพบผู้ต้องหาจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของทำการตรวจสอบ และจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมด้วยของกลางดังกล่าว
สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ ประกอบด้วย ยาบ้า จำนวน 1,135 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 7.98 กรัม อาวุธปืน M16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกโม่ไม่มีหมายเลขทะเบียนปืน จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน M16 จำนวน 155 นัด กระสุนปืน .32 จำนวน 55 นัด และของกลางอื่นจำนวนหนึ่ง โดยแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเคื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแบบที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ในเครือข่ายยาเสพติดมาแล้วหมายปี และเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดม และติดคุกมาแล้ว ส่วนยาเสพติดนั้นสั่งมาจากกรุงเทพฯ ครั้งละประมาณ 4,000 เม็ด โดยสั่งมาในราคาเม็ดละ 140 บาท และนำมาขายต่อให้แก่กลุ่มผู้ค้ารายย่อยในราคาเม็ดละ 180 บาท ส่วนอาวุธปืนนั้นสั่งซื้อมา เช่นปืนเอ็ม 16 ซื้อมากระบอกละ 40,000 บาท เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ส่วนปืนกระบอกอื่นๆ ก็เช่นกัน ส่วนใหญ่จะสั่งซื้อจากคนรู้จักในราคาประมาณ 30,000-40,000 บาท ที่ผ่านมา อาวุธปืนจะนำไปซุกซ่อนด้วยการฝังดินภายในบ้านที่พัก แต่ถ้าย้ายที่พัก หรือเดินทางไปไหนก็จะนำอาวุธปืนติดตัวไปด้วย โดยจะเอาใส่กระสอบบรรทุกไปกับรถจักรยานยนต์