“ประยุทธ์” ตัดริบบิ้นเปิดตลาดน้ำวิถีไทยข้างทำเนียบฯ บ่ายสามโมง 12 ก.พ. นี้ ช้อปเพลินทุกวัน 11 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม จัดถึง 1 มี.ค. พบกับ 90 ร้านค้าขายไม่แพง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง จัดกิจกรรมบันเทิงย้อนยุคทุกเสาร์ - อาทิตย์ จัดรถรับ-ส่งจากวัดเบญจมฯ พร้อมจัดหาที่จอดรถกองทัพภาคที่ 1 มอบหมาย กทม. คัดเลือกร้านค้าสกัดผู้ค้ารายย่อยปลอม
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.เรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร เป็นประธานประชุมเตรียมการจัดตลาดน้ำวิถีไทย คลองผดุงกรุงเกษม ร่วมกับ นายอรรถพร สุวัธนเดชา รองปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จากนั้น น.ส.เรณู เปิดเผยผลการหารือว่า ที่ประชุมมีมติให้จัดงานดังกล่าวระหว่างวันที่ 12 ก.พ. ถึง 1 มี.ค. เวลา 11.00 - 19.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิดงานในวันที่ 12 ก.พ. เวลา 15.00 น. โดย กทม. ได้ประสานร้านค้ากว่า 90 ร้านค้า เพื่อขายของทั้งในลำคลองและบนบก ฝั่งวัดโสมนัสราชวรวิหาร ตั้งแต่สะพานอรทัย ถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยเป็นร้านขายสินค้าคุณภาพ ราคาไม่แพง เพราะไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมไทย โดยความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เช่น การร้องเพลงเรือ เพลงฉ่อย ฯลฯ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์สลับกันไปในแต่ละสัปดาห์ นอกจากนั้น คนที่มาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดน้ำสามารถเดินชมตลาดนัดกล้วยไม้คุณภาพ ซึ่งจัดบริเวณใกล้เคียงกันได้อีกด้วย
น.ส.เรณู กล่าวต่อว่า ขณะที่การสัญจรเพื่อจับจ่ายสินค้านั้น จะมีการให้บริหารเรือข้ามฟากระหว่างฝั่งทำเนียบ และวัดโสมนัสราชวรวิหาร ขณะที่การเดินทางมายังบริเวณงานได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ จัดเรือรับส่งบริเวณหัวลำโพง มายังบริเวณงานสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน นอกจากนี้ ได้จัดรถโบราณจากเจษฎามิวเซียม 2 คัน วิ่งรับส่งเป็นวงเวียนสวนทางกัน ตั้งแต่วัดเบญจมบพิตร ผ่านถนนนครสวรรค์ ถนนพิษณุโลก ผ่านหน้าวัดโสมฯ เพื่อความสะดวก ขณะที่ผู้ใช้รถส่วนตัวจะะมีการประสาน สน.ดุสิต และกองทัพภาคที่ 1 ในการพิจารณาจัดหาพื้นที่จอดรถ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือในการใช้รถสาธารณะเพื่อลดปัญหาด้านการจราจร สำหรับความพร้อมในการจัดเตรียมสถานที่นั้น ทาง กทม. จะเตรียมพร่องน้ำเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยภายในลำคลอง ก่อนที่จะปล่อยน้ำเข้าพื้นที่ ส่วนการดูแลความปลอดภัยของผู้มาร่วมงานนั้นหากลงไปในน้ำจะมีเสื้อชูชีพให้บริการ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีแนวคิดขอความร่วมมือให้ผู้ขายและผู้ซื้อแต่งกายแบบไทยเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศวิถีไทยด้วย
“โครงการดังกล่าว เป็นการนำร่องเพื่อให้ทาง กทม. นำไปพิจารณาเพื่อพัฒนาในพื้นที่อื่นๆ ให้ใช้ประโยชน์ได้ต่อไป สำหรับงบประมาณที่ใช้ดำเนินการนั้น แต่ละหน่วยงานก็จะไปพิจารณาตามความเหมาะสม แต่โครงการนี้เราได้ประสานความร่วมมือจากหลายหน่วยงานมาช่วยกัน เช่น กระทรวงวัฒนธรรม จัดเวทีการแสดงมาให้ความบันเทิง ภาคเอกชน จัดรถมาร่วมรับส่ง เป็นต้น หาก กทม. ขาดเหลือเหลือใดสามารถเสนอมาได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครขออะไรมา ส่วนข้อกังวลเรื่องร้านค้าที่อาจไม่ใช่ผู้ค้ารายย่อยอย่างแท้จริงนั้น ได้มอบหมายให้ กทม. รับไปพิจารณาคัดเลือก เนื่องจากมีประสบการณ์ในการจัดตลาดน้ำมาก่อน” น.ส.เรณู กล่าว