เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (19 ม.ค.) บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธานเปิดงาน“ตลาดนัดกล้วยไม้คุณภาพ”โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดี และมีความสดชื่น ที่ได้มาอยู่ท่ามกลางดอกไม้ที่สวยงาม ซึ่งประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตกล้วยไม้เขตร้อนเป็นอันดับที่ 2 ของโลก แต่ละปีส่งออก และทำรายได้เข้าประเทศกว่า 3,000 ล้านบาท จากเกษตรกรที่เกี่ยวข้อง 3,000 ราย และพื้นที่การผลิต 22,000 ไร่ นับว่ากล้วยไม้ เป็นดอกไม้ไทยที่สร้างมูลค่าให้กับประเทศจำนวนมาก เป็นสินค้าส่งออกที่ต้องมีการปรับตัว และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้รับกับความต้องการของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งมีการแข่งขันกับประเทศผู้ปลูกกล้วยไม้ และไม้ดอกชนิดอื่นๆ
วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายพื้นที่ในโลก ปัญหาการแข่งขัน การขนส่ง ซึ่งมีผลกระทบกับรายได้ของประเทศ ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้ผู้ที่มีผลกระทบ ทั้งผู้ผลิต ผู้ขาย และผู้บริโภค ได้รับการดูแลในสัดส่วนที่เหมาะสม เราต้องทำให้กล้วยไม้ไทยไปขยายในตลาดต่างประเทศในสัดส่วนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ต้องสร้างการเรียนรู้กับประชาชนในประเทศว่ามีดอกไม้อะไรบ้าง สำหรับในส่วนของการค้าขาย ตนขอร้อง 3 ส่วน คือ ผู้ผลิต พ่อค้าคนกลาง ผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการตลาด ต้องดูแลผู้บริโภคในอัตราสัดส่วนที่เหมาะสม ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคมีรายได้ที่เพียงพอ ใช้ผลผลิตที่ดีของท่าน สิ่งที่เป็นห่วงอีกเรื่องคือ ภาคกลางพื้นที่ต่ำ น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ระดับน้ำเค็มเข้ามาในพื้นที่ น้ำไม่สามารถรดต้นไม้ได้ ก็ต้องไปซื้อน้ำมาใช้ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ทุกคนต้องเรียนรู้
นายกฯ กล่าวตอนท้ายด้วยว่า การทุ่มเทแรงกายแรงใจของเกษตรกร ไม่ว่าจะปลูกอะไรก็ตาม เราต้องดูแล แต่ก็ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันรัฐบาลมีปัญหาในการใช้จ่ายงบประมาณมากพอสมควร มีหลายอย่างที่ต้องลงทุนแก้ไข ชำระหนี้ แต่เราก็พยายามอย่างเต็มที่ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมงานวันนี้
ภายหลังเสร็จสิ้นการเปิดงาน ระหว่างเดินกลับมายังตึกไทยคู่ฟ้า ภายในทำเนียบฯ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยและหารือกับ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯได้สั่งว่า ให้เปิดตลาดน้ำ ที่คลองเปรมประชากร บริเวณด้านหน้าทำเนียบฯ ติดกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร เพื่อให้ประชาชนเข้ามา ชิม ช็อป ใช้ อีกทั้งผู้ค้าจะได้มีที่ขายของ แต่ขอให้จัดระเบียบให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ร่วมทั้งกรณีที่ประชาชน จะผ่านเข้ามาซื้อกล้วยไม้ ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งพล.อ.วิลาศ ได้รายงานว่า ขณะนี้ทางทำเนียบฯได้เตรียมการปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยอยู่ระหว่างการหารือกับทางกรมศิลปากร ถึงความเป็นไปได้ ในการขยายพื้นที่ทำเนียบฯ โดยมีแนวคิดที่จะขยายรั้วตลอดแนวบริเวณประตู 1 ไปถึงคลองเปรมประชากร ซึ่งจะมีการจัดที่จอดรถของทำเนียบฯใหม่ ระหว่างนี้กำลังดูรูปแบบให้เหมาะสม รวมทั้งเรื่องงบประมาณด้วย
ด้านนายกฯ กล่าวว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์ต่างๆ ต้องพิจารณาให้รอบคอบ อย่าให้เกิดปัญหาหรือความเดือดร้อน ซึ่งก็ต้องดูในเรื่องของงบประมาณ "แต่พอจะสร้างอะไรขึ้น เดี๋ยวจะมีวิพากษ์วิจารณ์ผมอีก ว่าอยากจะอยู่นาน พูดอะไรไปก็เป็นเรื่องไปหมด" เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่า ถ้าทำดีและถูกต้องก็คงไม่มีใครว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อก็ต้องเป็นพยาน ถ้าทำดีแล้วจะไม่ว่ากันนะ
ส่วนแนวคิดการทำตลาดน้ำ คลองเปรมประชากรนั้น นายกฯกล่าวว่า เนื่องจากเห็นน้ำในคลองเปรมฯ ใสดี จึงน่าจะมีการพายเรือขายของ ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดนี้จะทำจริงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เอาจริง ที่พูดนั้น ทำหมด
วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายพื้นที่ในโลก ปัญหาการแข่งขัน การขนส่ง ซึ่งมีผลกระทบกับรายได้ของประเทศ ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้ผู้ที่มีผลกระทบ ทั้งผู้ผลิต ผู้ขาย และผู้บริโภค ได้รับการดูแลในสัดส่วนที่เหมาะสม เราต้องทำให้กล้วยไม้ไทยไปขยายในตลาดต่างประเทศในสัดส่วนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ต้องสร้างการเรียนรู้กับประชาชนในประเทศว่ามีดอกไม้อะไรบ้าง สำหรับในส่วนของการค้าขาย ตนขอร้อง 3 ส่วน คือ ผู้ผลิต พ่อค้าคนกลาง ผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการตลาด ต้องดูแลผู้บริโภคในอัตราสัดส่วนที่เหมาะสม ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคมีรายได้ที่เพียงพอ ใช้ผลผลิตที่ดีของท่าน สิ่งที่เป็นห่วงอีกเรื่องคือ ภาคกลางพื้นที่ต่ำ น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ระดับน้ำเค็มเข้ามาในพื้นที่ น้ำไม่สามารถรดต้นไม้ได้ ก็ต้องไปซื้อน้ำมาใช้ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ทุกคนต้องเรียนรู้
นายกฯ กล่าวตอนท้ายด้วยว่า การทุ่มเทแรงกายแรงใจของเกษตรกร ไม่ว่าจะปลูกอะไรก็ตาม เราต้องดูแล แต่ก็ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันรัฐบาลมีปัญหาในการใช้จ่ายงบประมาณมากพอสมควร มีหลายอย่างที่ต้องลงทุนแก้ไข ชำระหนี้ แต่เราก็พยายามอย่างเต็มที่ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมงานวันนี้
ภายหลังเสร็จสิ้นการเปิดงาน ระหว่างเดินกลับมายังตึกไทยคู่ฟ้า ภายในทำเนียบฯ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยและหารือกับ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯได้สั่งว่า ให้เปิดตลาดน้ำ ที่คลองเปรมประชากร บริเวณด้านหน้าทำเนียบฯ ติดกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร เพื่อให้ประชาชนเข้ามา ชิม ช็อป ใช้ อีกทั้งผู้ค้าจะได้มีที่ขายของ แต่ขอให้จัดระเบียบให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ร่วมทั้งกรณีที่ประชาชน จะผ่านเข้ามาซื้อกล้วยไม้ ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งพล.อ.วิลาศ ได้รายงานว่า ขณะนี้ทางทำเนียบฯได้เตรียมการปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยอยู่ระหว่างการหารือกับทางกรมศิลปากร ถึงความเป็นไปได้ ในการขยายพื้นที่ทำเนียบฯ โดยมีแนวคิดที่จะขยายรั้วตลอดแนวบริเวณประตู 1 ไปถึงคลองเปรมประชากร ซึ่งจะมีการจัดที่จอดรถของทำเนียบฯใหม่ ระหว่างนี้กำลังดูรูปแบบให้เหมาะสม รวมทั้งเรื่องงบประมาณด้วย
ด้านนายกฯ กล่าวว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์ต่างๆ ต้องพิจารณาให้รอบคอบ อย่าให้เกิดปัญหาหรือความเดือดร้อน ซึ่งก็ต้องดูในเรื่องของงบประมาณ "แต่พอจะสร้างอะไรขึ้น เดี๋ยวจะมีวิพากษ์วิจารณ์ผมอีก ว่าอยากจะอยู่นาน พูดอะไรไปก็เป็นเรื่องไปหมด" เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่า ถ้าทำดีและถูกต้องก็คงไม่มีใครว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อก็ต้องเป็นพยาน ถ้าทำดีแล้วจะไม่ว่ากันนะ
ส่วนแนวคิดการทำตลาดน้ำ คลองเปรมประชากรนั้น นายกฯกล่าวว่า เนื่องจากเห็นน้ำในคลองเปรมฯ ใสดี จึงน่าจะมีการพายเรือขายของ ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดนี้จะทำจริงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เอาจริง ที่พูดนั้น ทำหมด