xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ใช้สูตร 3 ดี พัฒนาศูนย์เด็กเล็ก-ร.ร.อนุบาล 5 หมื่นโรง เป็นเขตปลอดโรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพ www.moph.go.th
สธ. เร่งพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก - ร.ร.อนุบาล รวม 5 หมื่นแห่ง เป็นเขตปลอดโรคติดต่อ ทั้งโรคมือเท้าปาก โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน และไข้หวัด โดยใช้สูตร 3 ดี คือ ครูมีสุขภาพและความรู้ดี บริหารจัดการดี และสภาพแวดล้อมดี เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการสมวัย สุขภาพดี สมองดี จากการศึกษาประสิทธิผลของมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคมือ เท้า ปาก ในศูนย์เด็กเล็ก สามารถตัดวงจรแพร่ระบาดในพื้นที่ได้ร้อยละ 56

วันนี้ (12 มี.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการผู้บริหาร นักวิชาการ จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ครูประจำศูนย์เด็กเล็ก และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 300 คน เพื่อมอบนโยบายการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลให้มีคุณภาพ ปลอดภัยจากโรคติดต่อ และมอบโล่รางวัลแก่ศูนย์เด็กเล็กที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน “ศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ - ปลอดโรค” ระดับเขต จำนวน 12 แห่ง

โดย ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า จากสภาพเศรษฐกิจสังคมปัจจุบัน พ่อแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ต้องนำลูกไปฝากเลี้ยงในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล เป็นเรื่องที่น่าห่วงใย เนื่องจากการที่เด็กเป็นกลุ่มที่มีภูมิต้านทานต่ำเมื่ออยู่รวมกันจำนวนมาก หากเจ็บป่วยจะสามารถแพร่เชื้อติดต่อกันได้ง่าย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและสุขภาพโดยรวมของเด็ก ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดีอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งพบเด็กที่ป่วยมากกว่า 2 ใน 3 เป็นเด็กที่อยู่ในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังย้อนหลัง 5 ปี พบว่าแนวโน้มเด็กป่วยโรคนี้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากปี 2552 จำนวน 8,166 ราย เพิ่มเป็น 60,951 ราย ในปี 2557 เสียชีวิตเฉลี่ย 3 รายต่อปี ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เพิ่มมาตรการควบคุมป้องกันโรค พัฒนาศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลที่มีทั่วประเทศ ประมาณ 50,000 แห่ง ให้เป็นพื้นที่ปลอดโรค และไม่เป็นแหล่งแพร่โรคหากมีเด็กป่วยเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน จะเน้นด้านโภชนาการและการสร้างความสะอาดระบบสุขาภิบาลของสถานที่ เครื่องเล่นต่างๆ เพื่อให้เด็กวัยนี้ ซึ่งเป็นวัยแห่งการพัฒนาเรียนรู้ ได้รับการพัฒนารอบด้าน มีสุขภาพดี เป็นคนดีและคนเก่ง

ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคร่วมกับกรมอนามัย พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานแนวทางปฏิบัติในการพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งมีประมาณ 20,000 แห่ง ที่อยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบจำนวนกว่า 2 ล้านคน ให้มีคุณภาพปลอดโรคเน้นหลัก 3 ดี คือ ดีที่ 1 ครูพี่ลี้ยงมีสุขภาพและความรู้ดี โดยผ่านการอบรมความรู้เรื่องโรคติดต่อ ดีที่ 2 คือ การบริหารจัดการดี โดยมีการบริหารจัดการที่ดีของศูนย์เด็กเล็กในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดต่อ และดีที่ 3 คือ สภาพแวดล้อมดี โดยปรับปรุงสุขาภิบาล ความสะอาดศูนย์เด็กเล็ก ของเล่นเด็กให้ปลอดภัย โดยกำหนดให้ทุกแห่งปฏิบัติตามแนวทาง 10 ประการ เช่น การตรวจสอบประวัติการได้รับวัคซีนของเด็กทุกภาคเรียน ตรวจสุขภาพร่างกายและบันทึกอาการป่วยของเด็กทุกคน ทุกวัน หากมีเด็กป่วย ให้แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ และทำความสะอาดทำลายเชื้อสถานที่ อุปกรณ์ของเล่น เครื่องใช้ต่างๆ อย่างถูกวิธี โดยครูพี่เลี้ยงเด็กต้องได้รับการตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 - 2 ครั้ง เป็นต้น

ทั้งนี้ จากการติดตามและประเมินผลโครงการศูนย์เด็กเล็กปลอดโรค พบว่าได้ผลดี ประมาณ 70% ของศูนย์เด็กเล็กที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถเฝ้าระวัง ตรวจคัดกรองเด็กเป็นโรคมือ เท้า ปาก และแยกเด็กป่วยจากเด็กปกติได้อย่างรวดเร็ว ดูแลทำความสะอาดสภาพแวดล้อมต่างๆ ให้ปลอดจากเชื้อ สามารถหยุดยั้งและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะยังไม่สามารถลดโรคมือ เท้า ปากในภาพรวมได้ทั้งหมด แต่พบว่า มาตรการนี้ สามารถลดอัตราป่วยโรคมือ เท้า ปากในพื้นที่ไม่เพิ่มขึ้นได้ร้อยละ 56 ขณะนี้มีศูนย์เด็กเล็กสมัครเข้าร่วมโครงการ ร้อยละ 95 จำนวน 18,617 แห่ง ผ่านการประเมินรับรองแล้วร้อยละ 73 จำนวน 12,694 แห่ง และได้พัฒนาโครงการให้เป็นศูนย์เด็กเล็กคุณภาพและปลอดโรคด้วย ผ่านเกณฑ์การประเมิน ร้อยละ 70 จำนวน 5,279 แห่ง ทั้งนี้ยังได้ขยายผลการดำเนินงานไปโรงเรียนอนุบาลประมาณ 30,000 แห่ง ซึ่งดูแลเด็กอายุ 3- 6 ปี ประมาณ 2.5 ล้านคน ซึ่งได้ ดำเนินการไปแล้วร้อยละ 10 ในปี 2558 และจะขยายเพิ่มขึ้นต่อไป
 
 
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น