รพ.เด็ก ชี้เด็กป่วยยิ่งต้องกินนมแม่ ห่วงคนส่วนใหญ่เข้าใจผิดให้กินแต่นมพิเศษ ระบุเป็นวัคซีนธรรมชาติที่ให้ภูมิคุ้มกันสูง ย้ำ “น้ำนมทอง” มีคุณค่าสูงสุด หลั่งช่วง 2 - 3 วันแรก ต้องให้ทารกได้ดูด ลดการติดเชื้อได้
วันนี้ (11 มี.ค.) นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการนานาชาตินมแม่ในเด็กป่วย ครั้งที่ 3 จัดโดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) ร่วมกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กรมอนามัย สภาการพยาบาล มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ว่า จากข้อมูลของ รพ.เด็ก ที่รับทารกป่วยจาก รพ.ราชวิถี ปีละประมาณ 800 ราย และจากโรงพยาบาลทั่วไป อีกประมาณ 400 ราย ส่วนใหญ่เป็นทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกป่วยหนักต้องอยู่ในหออภิบาล ทารกที่ได้รับการผ่าตัดและทารกเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ พบว่า ทารกที่กินน้ำนมแม่อย่างเดียวอัตราการเจ็บป่วยจะน้อยกว่าที่ไม่ได้กินนมแม่ ซึ่งองค์การอนามัยโลกแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน และหลัง 6 เดือน ให้กินนมแม่ควบคู่กับอาหารเสริมตามวัยจนอายุ ครบ 2 ปี หรือมากกว่านั้น
“ยิ่งเด็กป่วย นมแม่ยิ่งมีประโยชน์ เนื่องจากน้ำนมแม่มีคุณค่า จึงเร่งส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในทารกและเด็กป่วย ทั้งนี้ จะหากลวิธีที่จะช่วยให้แม่ได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูและรักษาลูกร่วมกับทีมบุคลากรทางแพทย์ด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สอดคล้องกับแนวทางสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขในการส่งเสริมให้เด็กไทยเติบโตด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่เจ็บป่วยบ่อย มีพัฒนาการที่ดี” นพ.สุพรรณ กล่าว
พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่า เด็กป่วย ทารกคลอดก่อนกำหนด เด็กที่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เด็กที่ต้องผ่าตัดรักษา จะต้องได้รับนมพิเศษ และไม่สามารถกินนมแม่ได้ แต่ในความเป็นจริง นมแม่คือนมที่เหมาะสมที่สุด และอาจต้องเสริมเกลือแร่ วิตามิน เฉพาะในกลุ่มทารกคลอดก่อนกำหนด บางกลุ่มการให้นมแม่ให้ได้ อาทิ ดูดากเต้านม หรือทางสายยาง หรือป้อนด้วยช้อน หรือ แก้ว เมื่อโต และมีแรงดูดจากเต้า ก็เอาเข้าเต้าแม่ได้ ขอเน้นว่า น้ำนมแม่ใน 2 - 3 วันแรกหลังคลอดที่เรียกว่า น้ำนมทอง (colostrum) มีความสำคัญและคุณค่ามากกับทารก เพราะมีภูมิคุ้มกันสูง เป็นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคต่างๆ ที่แม่พัฒนาในตัวแม่ หลังได้รับเชื้อโรคต่างๆ
“นอกจากนั้น คือ เซลล์เม็ดเลือดขาว ที่จะคอยดักจับเชื้อโรค อีกมากมาย ยิ่งทารกที่ป่วย ยิ่งเป็นเรื่องดี เทียบไปแล้ว นมแม่ในระยะใดๆ เหมือนทารกได้ วัคซีนธรรมชาติ ได้ยาขนานพิเศษ ที่ธรรมชาติเตรียมให้ทารกไม่ป่วยบ่อย ป่วยแล้วก็หายง่าย ร่วมกับการได้รับการดูแลใกล้ชิด ก็จะมีผลต่อพัฒนาการของสมอง จอประสาทตา การย่อย และการดูดซึมสารอาหาร ลดการติดเชื้อในเด็กป่วย โดยเฉพาะการอักเสบของลำไส้ ทำให้เด็กป่วยสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เร็วกว่าเด็กป่วยที่ไม่ได้รับนมแม่” พญ.ศิราภรณ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่