เยาวชนกว่า 87% เคยมีรักผ่านโลกออนไลน์ พบ “เฟซบุ๊ก - ไลน์” ช่องทางสุดฮิตใช้แชตหาคู่ 26.31% รู้ตัวนัดเจอ พฤติกรรมเสี่ยงถูกล่อลวง แต่บางส่วนพร้อมลองผิดลองถูกในการหาคู่จนกว่าจะเจอที่ใช่ ด้านองค์กรสตรีห่วง “หญิง” ตกเป็นเหยื่อขยี้กามผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น
วันนี้ (11 ก.พ.) น.ส.ปาริณี ต่างสี แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวในงานรณรงค์เนื่องในวันวาเลนไทน์ “รัก...ออนไลน์...อย่างไรจึงเท่าทัน” ว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน อายุ 13 - 30 ปี ที่มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นประจำ 1,026 ตัวอย่าง ในพื้นที่ย่านการค้าและสถานศึกษา กทม. พบว่า ร้อยละ 87.71 เคยมีประสบการณ์ถูกทำให้รู้สึกดี/ชอบ/รักกับใครบางคนบนโลกออนไลน์ ทั้งอยากคุยด้วย อยากเจอ อยากเป็นแฟน ช่องทางยอดฮิตที่ใช้พูดคุยคือเฟชบุ๊กและไลน์ โดยพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่อไปในทางล่อลวง เสี่ยง ไม่เหมาะสม หรืออาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ ร้อยละ 26.31 ระบุว่า การนัดพบ นัดเจอ ร้อยละ 25.24 คือการโน้มน้าวจูงใจทำให้รักอย่างรวบรัด และร้อยละ 25.14 คือ ชวนไปเที่ยวกลางคืนและชวนดื่มแอลกอฮอล์
น.ส.ปาริณี กล่าวว่า ร้อยละ 36.64 มองว่าความรักบนโลกออนไลน์สามารถมีได้ แต่ต้องพิสูจน์ ต้องใช้เวลาและเห็นตัวตนในโลกของความจริง ร้อยละ 32.46 ระบุว่า ความรักบนโลกออนไลน์ไม่ใช่ความรักแท้จริง เชื่อถือไม่ได้ ร้อยละ 11.29 มีความรักบนโลกออนไลน์ได้เพราะโตแล้ว ที่น่าห่วงคือร้อยละ 11.01 เลือกที่จะลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ ส่วนสิ่งแรกที่คิดจะทำหากถูกคุกคาม ละเมิดสิทธิ ถูกแบ็กเมล์ในโลกออนไลน์ พบว่า ร้อยละ 56.82 เลือกปรึกษาเพื่อน/ญาติสนิท ร้อยละ 26.02 ปรึกษาพ่อแม่ มีเพียงร้อยละ 3.03 ที่เลือกปรึกษาครู สำหรับการติดสื่อออนไลน์ (สังคมก้มหน้า) ของวัยรุ่นไทย ร้อยละ 49.91 ระบุว่าเข้าขั้นวิกฤต โดยร้อยละ 81.18 เห็นว่ารัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับปัญหาของเด็กและเยาวชน เช่น การรู้ไม่เท่าทันสื่อ ปัญหาท้องไม่พร้อม
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้มีเหยื่อออนไลน์เข้ามาขอรับคำปรึกษาถูกล่วงละเมิดทางเพศหลายราย คาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างรายล่าสุดอายุ 20 ปี รู้จักผ่านฝ่ายชายแชต โดยยอมรับว่าพูดคุยกันเพียงไม่นาน ก็มีการนัดพบบ่อยครั้ง กระทั่งฝ่ายชายออกอุบายเปลี่ยนสถานที่นัดพบเป็นที่บ้าน ทำให้ฝ่ายหญิงถูกบังคับขืนใจในที่สุด กรณีนี้เกิดจากความเชื่อใจ พูดจาดูดีโน้มน้าวทำให้ตายใจ เอาหน้าที่การงานที่มั่นคงมาแอบอ้าง และจากการบอกเล่าเชื่อว่าฝ่ายชายจะไปก่อเหตุในลักษณะนี้กับผู้หญิงคนอื่นอีกแน่นอน จึงอยากฝากเตือนสติวัยรุ่นว่า การแชตไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด ต้องมีสติระมัดระวังรอบด้าน อย่าใจร้อน อย่ารักโดยรวดเร็วเกินไป อย่าเชื่อคำพูดขอให้ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน อย่าไว้ใจใครง่ายๆ เพราะโลกออนไลน์สมัยนี้นิยมใช้ชื่อปลอมและใบหน้าปลอม
“จากข้อมูลที่เราได้พูดคุย เฉลี่ยแล้วผู้ชายจะโทร. หรือแชตหาผู้หญิงบ่อยๆ เพื่อให้ตายใจ เชื่อใจ จากนั้นจะมีความสัมพันธ์กันแค่เพียง 1-2 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ถูกกระทำอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าเปิดเผยหรือเอาผิด จึงอยากแนะนำหากใครตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ขอให้รีบแจ้งความทันที เพื่อไม่ปล่อยให้หลักฐานเนิ่นนาน เพราะจะเอาผิดลำบาก ทั้งนี้ อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการเพื่อมาปกป้อง และภาครัฐต้องเร่งบรรจุหลักสูตรความเสมอภาคระหว่างไว้ในการเรียนการสอน เพื่อปรับทัศนคติให้เท่าเทียมไม่คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่” นายจะเด็จ กล่าว
ด้าน นางศรีดา ตันทะอธิพานิช ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า โลกออนไลน์ช่วยให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงได้อย่างง่ายดายภายใน 3 คลิก จึงเสี่ยงที่อาจมีสื่อต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม ขาดการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ยิ่งสมัยนี้มีผู้ไม่หวังดีอาจนำมาใช้และเสี่ยงที่จะถูกหลอกได้ง่าย หลายรายต้องผิดหวังจบชีวิต ถูกทำร้ายรุนแรง ซึ่งที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น คือ ต้องไม่ลืมว่ารักออนไลน์มีน้อยมากที่จะเป็นเหมือนในละคร ที่จะสวย หล่อ เก่งฉลาด จึงขอฝากข้อคิดกับวัยรุ่นหากจะมีความรู้สึกดีๆ ให้กันผ่านทางโลกออนไลน์จะต้องรอบคอบ กลั่นกรองข้อมูลให้ดี และนำสื่อมาใช้ในทางสร้างสรรค์จะดีกว่า ส่วนผู้ปกครองต้องดูแลไม่ให้เกิดความเสี่ยงตกสู่วงจรออนไลน์ เช่น ควบคุมการเข้าเว็บไซต์ มีกติการ่วมกัน และพูดคุยเรื่องต่างๆ เป็นประจำกับลูก และขอฝากถึงรัฐบาลให้เร่งคลอดกลไกตาม พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่พึ่งผ่าน สนช. เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเร่งกำหนดงบประมาณกองทุนให้ชัดเจน ให้คนทุกกลุ่มได้เข้าถึง เนื่องจากปัญหาเด็กไทย ไม่เท่าทันสื่ออยู่ขั้นวิกฤตแล้ว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (11 ก.พ.) น.ส.ปาริณี ต่างสี แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวในงานรณรงค์เนื่องในวันวาเลนไทน์ “รัก...ออนไลน์...อย่างไรจึงเท่าทัน” ว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน อายุ 13 - 30 ปี ที่มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นประจำ 1,026 ตัวอย่าง ในพื้นที่ย่านการค้าและสถานศึกษา กทม. พบว่า ร้อยละ 87.71 เคยมีประสบการณ์ถูกทำให้รู้สึกดี/ชอบ/รักกับใครบางคนบนโลกออนไลน์ ทั้งอยากคุยด้วย อยากเจอ อยากเป็นแฟน ช่องทางยอดฮิตที่ใช้พูดคุยคือเฟชบุ๊กและไลน์ โดยพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่อไปในทางล่อลวง เสี่ยง ไม่เหมาะสม หรืออาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ ร้อยละ 26.31 ระบุว่า การนัดพบ นัดเจอ ร้อยละ 25.24 คือการโน้มน้าวจูงใจทำให้รักอย่างรวบรัด และร้อยละ 25.14 คือ ชวนไปเที่ยวกลางคืนและชวนดื่มแอลกอฮอล์
น.ส.ปาริณี กล่าวว่า ร้อยละ 36.64 มองว่าความรักบนโลกออนไลน์สามารถมีได้ แต่ต้องพิสูจน์ ต้องใช้เวลาและเห็นตัวตนในโลกของความจริง ร้อยละ 32.46 ระบุว่า ความรักบนโลกออนไลน์ไม่ใช่ความรักแท้จริง เชื่อถือไม่ได้ ร้อยละ 11.29 มีความรักบนโลกออนไลน์ได้เพราะโตแล้ว ที่น่าห่วงคือร้อยละ 11.01 เลือกที่จะลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ ส่วนสิ่งแรกที่คิดจะทำหากถูกคุกคาม ละเมิดสิทธิ ถูกแบ็กเมล์ในโลกออนไลน์ พบว่า ร้อยละ 56.82 เลือกปรึกษาเพื่อน/ญาติสนิท ร้อยละ 26.02 ปรึกษาพ่อแม่ มีเพียงร้อยละ 3.03 ที่เลือกปรึกษาครู สำหรับการติดสื่อออนไลน์ (สังคมก้มหน้า) ของวัยรุ่นไทย ร้อยละ 49.91 ระบุว่าเข้าขั้นวิกฤต โดยร้อยละ 81.18 เห็นว่ารัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับปัญหาของเด็กและเยาวชน เช่น การรู้ไม่เท่าทันสื่อ ปัญหาท้องไม่พร้อม
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้มีเหยื่อออนไลน์เข้ามาขอรับคำปรึกษาถูกล่วงละเมิดทางเพศหลายราย คาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างรายล่าสุดอายุ 20 ปี รู้จักผ่านฝ่ายชายแชต โดยยอมรับว่าพูดคุยกันเพียงไม่นาน ก็มีการนัดพบบ่อยครั้ง กระทั่งฝ่ายชายออกอุบายเปลี่ยนสถานที่นัดพบเป็นที่บ้าน ทำให้ฝ่ายหญิงถูกบังคับขืนใจในที่สุด กรณีนี้เกิดจากความเชื่อใจ พูดจาดูดีโน้มน้าวทำให้ตายใจ เอาหน้าที่การงานที่มั่นคงมาแอบอ้าง และจากการบอกเล่าเชื่อว่าฝ่ายชายจะไปก่อเหตุในลักษณะนี้กับผู้หญิงคนอื่นอีกแน่นอน จึงอยากฝากเตือนสติวัยรุ่นว่า การแชตไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด ต้องมีสติระมัดระวังรอบด้าน อย่าใจร้อน อย่ารักโดยรวดเร็วเกินไป อย่าเชื่อคำพูดขอให้ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน อย่าไว้ใจใครง่ายๆ เพราะโลกออนไลน์สมัยนี้นิยมใช้ชื่อปลอมและใบหน้าปลอม
“จากข้อมูลที่เราได้พูดคุย เฉลี่ยแล้วผู้ชายจะโทร. หรือแชตหาผู้หญิงบ่อยๆ เพื่อให้ตายใจ เชื่อใจ จากนั้นจะมีความสัมพันธ์กันแค่เพียง 1-2 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ถูกกระทำอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าเปิดเผยหรือเอาผิด จึงอยากแนะนำหากใครตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ขอให้รีบแจ้งความทันที เพื่อไม่ปล่อยให้หลักฐานเนิ่นนาน เพราะจะเอาผิดลำบาก ทั้งนี้ อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการเพื่อมาปกป้อง และภาครัฐต้องเร่งบรรจุหลักสูตรความเสมอภาคระหว่างไว้ในการเรียนการสอน เพื่อปรับทัศนคติให้เท่าเทียมไม่คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่” นายจะเด็จ กล่าว
ด้าน นางศรีดา ตันทะอธิพานิช ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า โลกออนไลน์ช่วยให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงได้อย่างง่ายดายภายใน 3 คลิก จึงเสี่ยงที่อาจมีสื่อต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม ขาดการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ยิ่งสมัยนี้มีผู้ไม่หวังดีอาจนำมาใช้และเสี่ยงที่จะถูกหลอกได้ง่าย หลายรายต้องผิดหวังจบชีวิต ถูกทำร้ายรุนแรง ซึ่งที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น คือ ต้องไม่ลืมว่ารักออนไลน์มีน้อยมากที่จะเป็นเหมือนในละคร ที่จะสวย หล่อ เก่งฉลาด จึงขอฝากข้อคิดกับวัยรุ่นหากจะมีความรู้สึกดีๆ ให้กันผ่านทางโลกออนไลน์จะต้องรอบคอบ กลั่นกรองข้อมูลให้ดี และนำสื่อมาใช้ในทางสร้างสรรค์จะดีกว่า ส่วนผู้ปกครองต้องดูแลไม่ให้เกิดความเสี่ยงตกสู่วงจรออนไลน์ เช่น ควบคุมการเข้าเว็บไซต์ มีกติการ่วมกัน และพูดคุยเรื่องต่างๆ เป็นประจำกับลูก และขอฝากถึงรัฐบาลให้เร่งคลอดกลไกตาม พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่พึ่งผ่าน สนช. เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเร่งกำหนดงบประมาณกองทุนให้ชัดเจน ให้คนทุกกลุ่มได้เข้าถึง เนื่องจากปัญหาเด็กไทย ไม่เท่าทันสื่ออยู่ขั้นวิกฤตแล้ว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่