สธ. แจงรายละเอียด กม. คุมยาสูบฉบับใหม่ ต่อกรมสรรพสามิต ผู้แทนกรมการค้าภายใน ก.พาณิชย์ และ ก.เกษตรฯ ห่วงประเด็นห้ามแสดงราคาถูกค้าน หวังร่วมผลักดันเป็นเครื่องมือปกป้องเยาวชนและสุขภาพผู้ไม่สูบ 50 ล้านคน
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การออก พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องคุ้มครองเยาวชน เพราะอุตสาหกรรมยาสูบพุ่งเป้าหมายทางธุรกิจไปยังกลุ่มนี้ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวทั้งด้านร่างกายและจิตใจมาก ทำให้ง่ายต่อการถูกชักจูง ซึ่งผลการศึกษาพบว่าบุคคลที่บริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบแล้ว มักจะเลิกได้ยาก 7 ใน 10 คนจะบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบไปตลอดชีวิต นอกจากนี้ ยังเป็นการปกป้องคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ในสังคมไทยกว่า 50 ล้านคน
“กฎหมายฉบับใหม่นี้ ยังเป็นการป้องกันการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบใหม่ และครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ เช่น บารากู่ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ได้มีผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ สำหรับประเด็นการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ใน พ.ร.บ. ฉบับใหม่นี้ มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการแทรกแซงนโยบายภาครัฐ มิได้มีจุดประสงค์อื่นใด ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC) ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามกับ 180 ประเทศทั่วโลก” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีหลายฝ่ายกังวลบางประเด็น เช่น ห้ามแสดงราคาผลิตภัณฑ์ยาสูบ ณ จุดขาย ซึ่ง สธ. ชี้แจงว่า พ.ร.บ. ฉบับใหม่นี้ห้ามการแสดงราคาในลักษณะที่จูงใจในการซื้อผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อช่วยปกป้องและปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงสินค้าในเด็กและเยาวชน อย่างไรก็ตาม สธ. ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้แก่ กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ผู้แทนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนจากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาหารือเชิงนโยบายเพื่อทำความเข้าใจ ชี้แจงข้อกังวลในมาตราและประเด็นต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอันดี และตรงกันของทุกหน่วยงานและมีความเห็นพ้องกันในหลักการของร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนไทยมีสุขภาพดี อันส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การออก พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. .... มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องคุ้มครองเยาวชน เพราะอุตสาหกรรมยาสูบพุ่งเป้าหมายทางธุรกิจไปยังกลุ่มนี้ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวทั้งด้านร่างกายและจิตใจมาก ทำให้ง่ายต่อการถูกชักจูง ซึ่งผลการศึกษาพบว่าบุคคลที่บริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบแล้ว มักจะเลิกได้ยาก 7 ใน 10 คนจะบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบไปตลอดชีวิต นอกจากนี้ ยังเป็นการปกป้องคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ในสังคมไทยกว่า 50 ล้านคน
“กฎหมายฉบับใหม่นี้ ยังเป็นการป้องกันการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบใหม่ และครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ เช่น บารากู่ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ได้มีผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ สำหรับประเด็นการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ใน พ.ร.บ. ฉบับใหม่นี้ มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการแทรกแซงนโยบายภาครัฐ มิได้มีจุดประสงค์อื่นใด ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC) ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามกับ 180 ประเทศทั่วโลก” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีหลายฝ่ายกังวลบางประเด็น เช่น ห้ามแสดงราคาผลิตภัณฑ์ยาสูบ ณ จุดขาย ซึ่ง สธ. ชี้แจงว่า พ.ร.บ. ฉบับใหม่นี้ห้ามการแสดงราคาในลักษณะที่จูงใจในการซื้อผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อช่วยปกป้องและปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงสินค้าในเด็กและเยาวชน อย่างไรก็ตาม สธ. ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้แก่ กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ผู้แทนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนจากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาหารือเชิงนโยบายเพื่อทำความเข้าใจ ชี้แจงข้อกังวลในมาตราและประเด็นต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอันดี และตรงกันของทุกหน่วยงานและมีความเห็นพ้องกันในหลักการของร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนไทยมีสุขภาพดี อันส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่