กสร. ออกตรวจเรือประมง จ.สมุทรสงคราม พบต่างด้าวถูกเอาเปรียบค่าแรงไม่ถึง 300 บาท อื้อ กสร. เตือนนายจ้างปฏิบัติตามกฎหมาย ด้านไต้ก๋งเรือ โอดแรงงานประมงขาดแคลน ต่างด้าวหนีขึ้นฝั่งไปทำงานอื่น วอนรัฐผ่อนผันเปิดจดทะเบียนเพิ่ม
วันนี้ (20 ม.ค.) นายปัญญา งานเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวในการเป็นประธานพิธีปล่อยชุดตรวจแรงงานป้องกันการค้ามนุษย์ในกิจการเรือประมงทะเล โดยบูรณาการการทำงานระหว่างกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่า ในจังหวัดสมุทรสงครามมีเรือประมงขึ้นทะเบียนจำนวน 723 ลำ มีแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนในกิจการเรือประมง 2,349 คน ซึ่งได้ดำเนินการตรวจแรงงานที่ทำงานบนเรือประมง และให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า วันนี้ทีมเจ้าหน้าที่ตรวจเรือประมง 3 ลำ มีลูกจ้างไทยและต่างด้าวรวม 49 คน เป็นคนไทย 9 คน ต่างด้าว 40 คน สัญชาติพม่าทั้งหมด ผลการตรวจพบว่ามีการจ่ายค่าจ้างต่ำกว่า 300 บาท ให้เพียง 6,500 - 8,500 บาทต่อเดือน แก่แรงงานพม่า 24 คน และพบเรือ 2 ลำ ไม่มีห้องน้ำ สภาพการทำงานไม่สะอาด และไม่ปลอดภัย กสร. จะออกหนังสือคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ และปรับปรุงให้มีห้องน้ำบนเรือ รวมทั้งปรับสภาพการทำงานให้ดีขึ้น ส่วนกรณีที่มีปัญหา ไม่สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของเรือที่บังคับใช้แรงงานผิดกฎหมาย เนื่องจากแรงงานโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวไม่สามารถจำชื่อเรือ หรือลักษณะของเรือได้เมื่อหลบหนีออกมา เชื่อว่า การทำสัญญาจ้างตามกฎกระทรวงเพื่อคุ้มครองแรงงานในกิจการประมง ซึ่งกำหนดให้ระบุชื่อนายจ้างและเรือในสัญญาจะช่วยให้มีหลักฐานเอาผิดกับนายจ้างหากแรงงานหลบหนี
“ปัจจุบันมีเรือประมงที่ขึ้นทะเบียนกับกรมเจ้าท่าแล้วประมาณ 47,000 ลำ จดทะเบียนอาชญาบัตร หรือมีเครื่องมือทำการประมงที่ถูกต้องประมาณ 7,000 ลำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งระบบติดตามเรือโดยสาเหตุที่จดทะเบียนอาชญาบัตรน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่ยังมีเครื่องมือทำประมงที่ไม่ถูกต้อง” อธิบดี กสร. กล่าว
ด้านนายสมหวัง แก้วชัยเจริญกิจ ไต้ก๋งเรือมัสยานาวา 17 กล่าวว่า ในส่วนเรือประมงที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะที่อยู่ในสมาคมประมง ได้เข้มงวดในการปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายอยู่แล้ว โดยเฉพาะการไม่จ้างเด็กอายุตำกว่า 18 ปี ไม่มีการใช้แรงงานบังคับ มีการทำสัญญาจ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรือประมงมีความขาดแคลนแรงงานอย่างมาก เพราะแรงงานต่างด้าวที่จดทะเบียนได้หนีขึ้นไปทำงานบนฝั่ง ทำให้ต้องหาแรงงานทดแทน แต่ไม่สามารถนำไปจดทะเบียนได้ เพราะเปิดให้จดทะเบียนในระยะเวลาจำกัด จึงอยากให้รัฐผ่อนผันการจดทะเบียนแรงงานประมงมากขึ้น
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (20 ม.ค.) นายปัญญา งานเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวในการเป็นประธานพิธีปล่อยชุดตรวจแรงงานป้องกันการค้ามนุษย์ในกิจการเรือประมงทะเล โดยบูรณาการการทำงานระหว่างกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่า ในจังหวัดสมุทรสงครามมีเรือประมงขึ้นทะเบียนจำนวน 723 ลำ มีแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนในกิจการเรือประมง 2,349 คน ซึ่งได้ดำเนินการตรวจแรงงานที่ทำงานบนเรือประมง และให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า วันนี้ทีมเจ้าหน้าที่ตรวจเรือประมง 3 ลำ มีลูกจ้างไทยและต่างด้าวรวม 49 คน เป็นคนไทย 9 คน ต่างด้าว 40 คน สัญชาติพม่าทั้งหมด ผลการตรวจพบว่ามีการจ่ายค่าจ้างต่ำกว่า 300 บาท ให้เพียง 6,500 - 8,500 บาทต่อเดือน แก่แรงงานพม่า 24 คน และพบเรือ 2 ลำ ไม่มีห้องน้ำ สภาพการทำงานไม่สะอาด และไม่ปลอดภัย กสร. จะออกหนังสือคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ และปรับปรุงให้มีห้องน้ำบนเรือ รวมทั้งปรับสภาพการทำงานให้ดีขึ้น ส่วนกรณีที่มีปัญหา ไม่สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของเรือที่บังคับใช้แรงงานผิดกฎหมาย เนื่องจากแรงงานโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวไม่สามารถจำชื่อเรือ หรือลักษณะของเรือได้เมื่อหลบหนีออกมา เชื่อว่า การทำสัญญาจ้างตามกฎกระทรวงเพื่อคุ้มครองแรงงานในกิจการประมง ซึ่งกำหนดให้ระบุชื่อนายจ้างและเรือในสัญญาจะช่วยให้มีหลักฐานเอาผิดกับนายจ้างหากแรงงานหลบหนี
“ปัจจุบันมีเรือประมงที่ขึ้นทะเบียนกับกรมเจ้าท่าแล้วประมาณ 47,000 ลำ จดทะเบียนอาชญาบัตร หรือมีเครื่องมือทำการประมงที่ถูกต้องประมาณ 7,000 ลำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งระบบติดตามเรือโดยสาเหตุที่จดทะเบียนอาชญาบัตรน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่ยังมีเครื่องมือทำประมงที่ไม่ถูกต้อง” อธิบดี กสร. กล่าว
ด้านนายสมหวัง แก้วชัยเจริญกิจ ไต้ก๋งเรือมัสยานาวา 17 กล่าวว่า ในส่วนเรือประมงที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะที่อยู่ในสมาคมประมง ได้เข้มงวดในการปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายอยู่แล้ว โดยเฉพาะการไม่จ้างเด็กอายุตำกว่า 18 ปี ไม่มีการใช้แรงงานบังคับ มีการทำสัญญาจ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรือประมงมีความขาดแคลนแรงงานอย่างมาก เพราะแรงงานต่างด้าวที่จดทะเบียนได้หนีขึ้นไปทำงานบนฝั่ง ทำให้ต้องหาแรงงานทดแทน แต่ไม่สามารถนำไปจดทะเบียนได้ เพราะเปิดให้จดทะเบียนในระยะเวลาจำกัด จึงอยากให้รัฐผ่อนผันการจดทะเบียนแรงงานประมงมากขึ้น
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
