มูลนิธิเพื่อเด็กพิการชูไอเดียนำธรรมชาติบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย
นพ.ประพจน์ เภตรากาศ ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ ผู้จัดการโครงการสวนบำบัด กล่าวว่า ในปีนี้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดทำโครงการสวนบำบัด ซึ่งมีแนวคิดการนำธรรมชาติเข้ามาช่วยบำบัดฟื้นฟู พัฒนาเด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส ในด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และปัญญาโดยเด็กพิการจะได้เรียนรู้จากกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ เช่น กิจกรรมศิลปะบำบัดจากพืช การพัฒนาทักษะทางสังคม การเคลื่อนไหว การฝึกการทำงานของกล้ามเนื้อ ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมแรกจะจัดเดือน มี.ค. เน้น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มเครือข่ายผู้ปกครองและเด็กพิการที่มาฟื้นฟูที่มูลนิธิ และกลุ่มบุคลากรที่ทำงานด้านการสุขภาพและพัฒนาทักษะเด็กพิการ
นพ.ประพจน์ เล่าว่า แนวคิดการใช้ธรรมชาติบำบัดได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลก เช่น อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ส่วนไทยมีสถานพยาบาลบางแห่ง เช่น รพ.ธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี รพ.บ้านฉาง รพ.อ่าวอุดม จ.ระยอง ซึ่งมูลนิธิฯมีการค่ายเด็กพิการและสวนพลังชีวิต อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เป็นประจำทุกปี จึงได้แลกเปลี่ยนความรู้กับมูลนิธิเอ็มโอเอ ประเทศญี่ปุ่นที่มีองค์ความรู้ด้านการออกแบบหลักสูตรพัฒนาทักษะกลุ่มเด็กพิการโดยการใช้พืชและสวนมาอย่างต่อเนื่อง จากประสบการณ์ชี้ว่าการที่เด็กพิการได้อยู่กับธรรมชาติเพียง 2-3 วันทำให้เด็กพัฒนาทางร่างกาย จิตใจและสังคมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังค้นพบศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเด็กด้วย
นอกจากนี้ แนวคิดเรื่องสวนบำบัด สามารถนำไปประยุกต์ได้กับทุกกลุ่ม ทั้งเด็กพิการ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ สามารถทำกิจกรรมที่บ้าน โรงเรียน โรงพยาบาลโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีราคาสูง แต่หลักคือการออกแบบสวนธรรมชาติเพื่อเพิ่มโอกาสหรือวิธีให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น เช่น พืชในสวนต้องเน้นพืชที่ให้กลิ่นและสัมผัส เช่น พวกกะเพรา สะระแหน่ ดอกที่มีกลิ่นหอม มีการสร้างกิจกรรมโดยผนวกเอาศิลปะ การปลูกผักเข้ามาร่วม สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งนี้ ผู้สนใจสอบถามได้ที่มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ประพจน์ เภตรากาศ ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ ผู้จัดการโครงการสวนบำบัด กล่าวว่า ในปีนี้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดทำโครงการสวนบำบัด ซึ่งมีแนวคิดการนำธรรมชาติเข้ามาช่วยบำบัดฟื้นฟู พัฒนาเด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส ในด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และปัญญาโดยเด็กพิการจะได้เรียนรู้จากกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ เช่น กิจกรรมศิลปะบำบัดจากพืช การพัฒนาทักษะทางสังคม การเคลื่อนไหว การฝึกการทำงานของกล้ามเนื้อ ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมแรกจะจัดเดือน มี.ค. เน้น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มเครือข่ายผู้ปกครองและเด็กพิการที่มาฟื้นฟูที่มูลนิธิ และกลุ่มบุคลากรที่ทำงานด้านการสุขภาพและพัฒนาทักษะเด็กพิการ
นพ.ประพจน์ เล่าว่า แนวคิดการใช้ธรรมชาติบำบัดได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลก เช่น อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ส่วนไทยมีสถานพยาบาลบางแห่ง เช่น รพ.ธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี รพ.บ้านฉาง รพ.อ่าวอุดม จ.ระยอง ซึ่งมูลนิธิฯมีการค่ายเด็กพิการและสวนพลังชีวิต อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เป็นประจำทุกปี จึงได้แลกเปลี่ยนความรู้กับมูลนิธิเอ็มโอเอ ประเทศญี่ปุ่นที่มีองค์ความรู้ด้านการออกแบบหลักสูตรพัฒนาทักษะกลุ่มเด็กพิการโดยการใช้พืชและสวนมาอย่างต่อเนื่อง จากประสบการณ์ชี้ว่าการที่เด็กพิการได้อยู่กับธรรมชาติเพียง 2-3 วันทำให้เด็กพัฒนาทางร่างกาย จิตใจและสังคมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังค้นพบศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเด็กด้วย
นอกจากนี้ แนวคิดเรื่องสวนบำบัด สามารถนำไปประยุกต์ได้กับทุกกลุ่ม ทั้งเด็กพิการ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ สามารถทำกิจกรรมที่บ้าน โรงเรียน โรงพยาบาลโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีราคาสูง แต่หลักคือการออกแบบสวนธรรมชาติเพื่อเพิ่มโอกาสหรือวิธีให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น เช่น พืชในสวนต้องเน้นพืชที่ให้กลิ่นและสัมผัส เช่น พวกกะเพรา สะระแหน่ ดอกที่มีกลิ่นหอม มีการสร้างกิจกรรมโดยผนวกเอาศิลปะ การปลูกผักเข้ามาร่วม สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งนี้ ผู้สนใจสอบถามได้ที่มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น