เชื่อว่าหลายคนไม่รู้ว่ากระทรวงวัฒนธรรม มีเข็มทิศขับเคลื่อนเรื่องใดบ้าง ASTV ผู้จัดการรายวัน มีโอกาสพูดคุยกับผู้คุมบังเหียน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) บอกทีเล่นทีจริงว่า กว่า 3 เดือนที่นั่งเก้าอี้ได้ดำเนินงานตามนโยบายที่รัฐบาล ซึ่งยังไม่สำเร็จลุล่วง 100 % ดังนั้นในปี 2558 วธ.จะสานต่อนโยบายรัฐบาล 3 เรื่อง 1.ขยายผลค่านิยมหลัก 12 ประการ 2.ขยายผลหมู่บ้านรักษาศีล 5 โรงเรียนและชุมชนคุณธรรม โดยใช้พลัง “บวร” 3. เรื่องการสร้างภาพยนตร์ ที่รับหน้าเสื่อจากนโยบายโดยตรงจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม นโยบายเหล่านี้ วธ.ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว อย่างเรื่องค่านิยม ได้มีการกระตุ้นให้คนไทยทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ เข้าถึงแก่นแท้ของค่านิยมหลัก 12 ประการ อันที่จริงค่านิยมเป็นวัฒนธรรม เป็นรากเหง้า เรามีอยู่แล้ว เพียงแต่ปัจจุบันค่านิยมอันดีงามเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกาภิวัตน์ ทุนนิยม วัตถุนิยม จำเป็นต้องรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ โดยกระตุ้นในหลากหลายรูปแบบ เป็นการ์ด ปฏิทิน ภาพยนตร์ ประกวดภาพ เพลงค่านิยม ไดอารี ฯลฯ แต่ก็มีคำถามว่า คนไทยซึมซับค่านิยมมากน้อยแค่ไหน ตรงนี้จะต้องมีการประเมินผล โดยจะทำแบบสำรวจ พร้อมกันนี้จะแบ่งเป็นกลุ่มอายุ อาชีพและอื่นๆ ด้วย
“ช่วง 3 เดือนแรก จะต้องทบทวน ต้องมีประเมิน รวมทั้งนำข้อเสนอแนะต่างๆ มาบูรณาการว่าจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป จากนั้นให้ทุกกลุ่มวัยเข้ามามีบทบาทด้วย เพราะวันนี้มีแรงต้านจากบางกลุ่มต้าน สำหรับเรื่องหมู่บ้านรักษาศีล 5 ทำเยอะไปหมด จะทำการประเมินเช่นเดียวกัน แล้วจะคัดมา 1 พันหมู่บ้านเพื่อเป็นต้นแบบ เพื่อขยายผลต่อไปยังชุมชนอื่นๆ ซึ่งเราไม่ได้ทำเฉพาะศาสนาพุทธเราผลักดันทุกศาสนา ส่วนภาพยนตร์ขณะนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าต้นปีจะได้เห็น” นายวีระ กล่าว
นายวีระ เล่าว่า นอกจากสานต่อนโยบายเดิม วธ.ยังมีนโยบายใหม่ๆ อีกหลายโครงการ ผมขอยกตัวอย่างเรื่องสำคัญๆ อย่างโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ทาง วธ.มีแนวคิดคัดเลือก 60 บุคคล และหน่วยงาน องค์กร ที่สนองงานพระองค์ หรือนักเรียนที่ได้รับทุน มาบอกเล่าความรู้สึก ทั้งนี้จะรวบรวมเรื่องราวความประทับของบุคคลเหล่านี้ นำมาตีตีพิมพ์ต่อไป
“เหตุผลที่เลือก 60 เนื่องจากสมเด็จพระเทพฯ อายุครบ 60 พรรษา ที่สำคัญคำบอกเล่าของบุคคลที่สนองงาน หรือคนใกล้ชิดนั้น เหมือนเป็นเสียงสะท้อนถึงความวิริยะอุตสาหะ ทำเพื่อพี่น้องชาวไทย”
อีกโครงการสำหรับเยาวชน นั่นก็คือเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรม ให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้มีสถานที่โชว์ผลงาน แสดงฝีไม้ลายมือ แสดงความรู้ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนทั่วไป นายวีระ บอกว่า ขณะนี้ วธ.ประสานกับสยาม ซึ่งเบื้องต้นสยามอนุญาตให้เยาวชนเข้าไปใช้พื้นที่ใจกลางกรุงแล้ว ทว่าระหว่างนี้ วธ. กำลังระดมความคิดจากหลากหลายภาคส่วนว่า พื้นที่วัฒนธรรมนี้ ควรจะมีอะไรบ้าง อย่างเช่น ให้เยาวชนที่มีฝีมือการวาดภาพมานั่งวาดรูปเหมือน หรือวาดภาพ ตรงนี้จะช่วยให้เยาวชนได้มีพื้นที่ฝึกฝนฝีมือการวาดภาพแถมยังมีรายได้จากการวาดภาพอีกด้วย เยาวชนมารวมตัวกันแสดงดนตรี ประดิษฐ์สินค้าแฮนเมด และอื่นๆ อย่างไรก็ตาม คงไม่ให้จำหน่ายอาหาร หรือซื้อสินค้าโหลมาจำหน่าย เราจะเน้นสินค้าวัฒนธรรม ซึ่งคาดว่าพื้นที่ทางวัฒนธรรมแห่งนี้จะเป็นรูปเป็นร่างไม่เกิน 3 เดือนข้าง
พร้อมกันนี้ยังมีแผนเปิดพิพิธภัณฑ์ และอุทยานต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงดงามยามค่ำคืน เชื่อว่าจะกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ มาเที่ยวมากขึ้น และสอดรับกับ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีโครงการจัดเรือร่องแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน หรือ นั่งรถชมเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจแสงไฟที่สาดพระปรางค์วัดอรุณ วัดพระแก้ว พระราชวัง ตลอดจนสถานที่สำคัญๆ จะงดงามต่างจากชมเวลากลางวัน
...หวังว่าไอเดียเหล่านี้จะได้เห็นในเร็ววันนี้ ซึ่งบางเรื่องไม่ใช่เรื่องใหม่พูดมาหลายรัฐมนตรีแล้ว พอเปลี่ยนปุ๊บก็ถูกเก็บเข้ากรุ
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น
