xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้น “ประสิทธิ์-ประดิษฐ์” ชิงเก้าอี้คณบดีคณะแพทย์ ศิริราช รู้ผล 21 ม.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เผยชื่อ “ประสิทธิ์ - ประดิษฐ์” แคนดิเดตชิงเก้าอี้คณบดีคณะแพทย์ ศิริราช “หมออุดม” ยัน 21 ม.ค. นี้ รู้ชัดตัวจริงเป็นใคร ระบุสเปกคณบดีคณะแพทย์รอบรู้งานบริหารและทุ่มเทให้งานเต็มร้อย เพราะศิริราชเป็นองค์กรใหญ่ แจงการบริหารมหา’ลัย เน้นเดินหน้าเชิงยุทธศาสตร์ทีมบริหารและสภา มม. วางนโยบายร่วมกัน และสร้างเครือข่ายทำงานร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ ผลิตบัณฑิตที่ออกไปทำประโยชน์เพื่อสังคมอย่างแท้จริง เตรียมเดินหน้าปรับระบบการเรียนรู้ของบัณฑิตใหม่ ไม่เน้นระบบการเลกเชอร์เพื่อให้อาจารย์มีเวลากับ นศ. มากขึ้น
ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร
วันนี้ (15 ม.ค.) ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า ตามที่สภามหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการสรรหาคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โดยมี ศ.นพ.ประเวศ วะสี ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิในสภา มม. เป็นประธาน แทนตน ที่ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งคณบดีคณะแพทย์ ซึ่งจะมีผลวันที่ 22 มกราคมนี้ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้เสนอชื่อผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งมาจำนวนหนึ่ง และได้มีการหย่อนบัตรลงคะแนนเสียงจากข้าราชการ และพนักงานคณะแพทย์ทั้ง 3 สาย ประกอบด้วย สายอาจารย์ ซึ่งต้องเป็นอาจารย์มาเกิน 1 ปี สายวิชาชีพ และสายสนับสนุน ซึ่งต้องมีอายุงานเกิน 5 ปี โดยผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด และเป็นแคนดิเดตที่จะเข้ารับการสรรหาเป็นคณบดีคณะแพทย์ จำนวน 2 ราย คือ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา รองคณบดีคณะแพทย์ และผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์ศิริราช และรศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวต่อว่า จากนี้จะมีการสุ่มสัมภาษณ์ข้าราชการทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหารไปถึงระดับล่างในวันที่ 19 - 20 มกราคม จากนั้นวันที่ 21มกราคมในช่วงเช้าจะสัมภาษณ์แคนดิเดตทั้ง 2 รายก่อนพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมก่อนเวลา 12.00 น.เพื่อที่นำรายงานต่อที่ประชุมสภา มม. ในเวลา 13.00 น. ของวันเดียวกัน ซึ่งคณบดีคณะแพทย์คนใหม่ จะเริ่มทำงานทันทีในวันที่ 22 มกราคม ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าคุณสมบัติที่สำคัญของผู้ที่จะมาเป็นคณบดีคณะแพทย์คนใหม่ จะต้องมีความรอบรู้ด้านงานบริหาร ที่สำคัญ ต้องมีความพร้อมทุ่มเทกับการทำงาน 100% เพราะศิริราชถือเป็นองค์กรใหญ่ ที่ดูแลบุคลากรถึง 1.6 หมื่นคน งบประมาณอีกกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท

รักษาการอธิการบดี มม. กล่าวต่อว่า ในส่วนของการบริหารงานในฐานะ อธิการบดี มม. นั้น จะต้องดูแนวโน้มการพัฒนาอุดมศึกษา ให้ได้มาตรฐานเดียวกับสังคมโลก ที่สำคัญต้องผลิตบัณฑิตที่จบออกไปทำประโยชน์ให้สังคม โดยเฉพาะปัจจุบัน ตนเห็นว่าบัณฑิตส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเป็นปัญญาของแผ่นดินได้ ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง จึงต้องปรับระบบการเรียนรู้ ที่จะทำให้นักศึกษา คิดวิเคราะห์ ประเมิน พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สังคมนำไปใช้ในการต่อยอด แก้ปัญหาด้านต่างๆ ได้โดยจะปรับการเรียนในรูปแบบเลกเชอร์ให้น้อยลง ให้อาจารย์มีเวลาสื่อสารกับนักศึกษามากขึ้น และใช้เทคโนโลยีมาเป็นประโยชน์ในเรื่องที่เกี่ยวกับเนื้อหาสาระ อาทิ เอกสารการเรียน เพื่อให้นักศึกษาอ่านล่วงหน้า ถึงเวลาเรียนก็มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับอาจารย์ โดยเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกับอาจารย์เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด เพราะส่วนใหญ่ยังยึดติดกับการสอนในรูปแบบเดิมๆ

“จากนี้จะเดินหน้าทำงานเชิงยุทธศาสตร์มากขึ้น ฝ่ายบริหาร และ สภา มม. จะต้องร่วมวางนโยบายไปด้วยกัน รวมถึงต้องสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งไม่ใช่แค่มหาวิทยาลัยเท่านั้น รวมถึงภาอุตสาหกรรมที่ต้องการความร่วมจากมหาวิทยาลัยในการพัฒนานวัตกรรม ที่สำคัญ จะเริ่มวางรากฐานสอนให้นักศึกษา คิดนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อทำประโยชน์ให้สังคมมากขึ้น สร้างบัณฑิตที่เก่ง รู้ทั้งลึกและกว้าง มีคุณธรรมจริยธรรม สามารถตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องได้”ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น