จุดตัดทางรถไฟไทยมี 2,517 แห่ง อึ่ง! ไร้สัญญาณเตือน คานกั้น อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยถึง 775 แห่ง ทำเกิดอุบัติเหตุบ่อย เผยแค่ช่วงปีใหม่อุดรธานีเกิดเหตุแล้ว 3 ครั้ง ตายรวม 5 ศพ ผุดคู่มือแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟให้แต่ละพื้นที่ปรับใช้แก้ปัญหา
วันนี้ (15 ม.ค.) จ.อุดรธานี นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวในการประชุม “บูรณาการร่วมใจ สร้างความถนนผ่านจุดตัดผ่านจุดตัดทางรถไฟให้สัญจรปลอดภัย จ.อุดรธานี” จัดโดยคณะกรรมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เพื่อดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ ว่า อุดรธานีมีทางรถไฟผ่านเป็นระยะทาง 189 กิโลเมตร มีจุดตัดทางรถไฟ 58 จุด มีที่กั้นเพียง 15 จุด จึงทำให้ประชาชนที่ใช้ถนนผ่านจุดตัดทางรถไฟไม่มีความปลอดภัย และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาจังหวัดอุดรธานี เกิดอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟติดต่อกันถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกวันที่ 28 ธ.ค. 2557 เกิดที่จุดลักผ่านชาวบ้านสร้างขึ้น ที่บ้านน้ำคำ ม.2 ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย ครั้งที่ 2 วันที่ 31 ธ.ค.2557 เกิดที่จุดบ้านค้อน้อย ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด เสียชีวิต 2 ราย และครั้งที่ 3 วันที่ 2 ม.ค. 2558 เกิดที่จุดกิโลเมตร 561/12 ระหว่างสถานีหนองขอนกว้าง หนองตะไก้ อ.เมือง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า การขับผ่านจุดตัดทางรถไฟ สิ่งสำคัญคือผู้ขับขี่ต้องสังเกตป้ายเตือน ลดความเร็ว และหยุดรถห่างในระยะไม่น้อยกว่า 5 เมตร ลดกระจกข้างลง เพื่อฟังเสียงสัญญาณเตือนรถไฟ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงจะขับรถผ่านไปได้ ซึ่งที่ผ่านมา สคอ.ได้ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการรถไฟแห่งประเทศไทย ผลิตคู่มือการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน บริเวณจุดตัดทางรถไฟขึ้น เพื่อให้เป็นคู่มือขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนให้กับผู้เกี่ยวข้อง สามารถนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมของพื้นได้ เนื่องจากการดูแลความปลอดภัยของประชาชนพื้นที่ถือเป็นบทบาทและหน้าที่ของท้องถิ่นโดยตรง ที่จะให้ประชาชนมีการสัญจรที่ปลอดภัย
นายพรสุธิ ทองสาด หัวหน้าสำนักงานประจำการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันทางตัดเส้นทางรถไฟทั่วประเทศมีอยู่ 2,517 แห่ง ใน 47 จังหวัด แบ่งเป็นทางตัดที่มีคานกั้นถนน และคานกั้นอัตโนมัติ 887 แห่ง, ทางตัดผ่านของเอกชน 5 แห่ง, ทางตัดที่มีสะพานข้าม 146 แห่งและทางตัดที่มีอุโมงค์ลอด118 แห่งและเป็นทางลักผ่าน 584 จุด และเป็นจุดตัดที่ไม่มีสัญญาณและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยใดๆ และป้ายจราจร จำนวน 775 แห่ง ถือว่าเป็นจุดตัดที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และจากนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มอบหมายให้ดำเนินการแก้ไขปัญหา ทางการรถไฟได้เร่งรัดติดตั้งสัญญาณไฟแจ้งเตือน ไฟกระพริบก่อนถึงจุดตัด เน้นจุดตัดเป็นทางลัดผ่าน 584 แห่งก่อน โดยติดตั้งป้ายเตือน จุดตัดว่าข้างหน้าเป็นจุดตัดทางรถไฟ ทำคลื่นระนาดบนผิวถนนเพื่อชะลอความเร็วของรถ และติดตั้งสัญญาณไฟและเสียงแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่รถเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
นายพรสุธิ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานแก้ไขจุดตัดทางรถไฟของจังหวัดอุดรธานี ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจะติดตั้งป้ายไฟกระพริบและเครื่องกั้นในจุดลุกผ่านที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งและเร่งด่วนก่อนเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำและจะขยายให้ครบทั้ง 58 จุด โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยยินดีให้การร่วมมือกับท้องถิ่นโดยจะสนับสนุนค่าควบคุมดูแลในการติดตั้งบริเวณจุดตัดรถไฟ เพื่อร่วมช่วยให้การสัญจรของประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายณพร ภคสันต์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ ส่วนติดตามและประเมินผล กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศสำรวจพื้นที่ จำนวนจุดตัดผ่าน จุดลักผ่าน ปัญหาอุปสรรคต่างๆ เสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการอนุญาตและแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนน ระดับจังหวัดแล้ว เพื่อเร่งดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟในพื้นที่ ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมรายชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปเป็นคณะอนุกรรมการฯชุดดังกล่าวด้วย เพื่อให้การขับเคลื่อนการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ท้องถิ่นทั่วประเทศสามารถดำเนินการแก้ไขปรับปรุงบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้ทันที เช่น การปรับทัศนวิสัย ตัดแต่งกิ่งไม้ ติดตั้งไฟส่องสว่าง ป้ายเตือน ลูกระนาดชะลอความเร็ว เป็นต้น รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ ตระหนักและระมัดระวังในการสัญจรบริเวณจุดตัดทางรถไฟ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (15 ม.ค.) จ.อุดรธานี นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวในการประชุม “บูรณาการร่วมใจ สร้างความถนนผ่านจุดตัดผ่านจุดตัดทางรถไฟให้สัญจรปลอดภัย จ.อุดรธานี” จัดโดยคณะกรรมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เพื่อดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ ว่า อุดรธานีมีทางรถไฟผ่านเป็นระยะทาง 189 กิโลเมตร มีจุดตัดทางรถไฟ 58 จุด มีที่กั้นเพียง 15 จุด จึงทำให้ประชาชนที่ใช้ถนนผ่านจุดตัดทางรถไฟไม่มีความปลอดภัย และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาจังหวัดอุดรธานี เกิดอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟติดต่อกันถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกวันที่ 28 ธ.ค. 2557 เกิดที่จุดลักผ่านชาวบ้านสร้างขึ้น ที่บ้านน้ำคำ ม.2 ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย ครั้งที่ 2 วันที่ 31 ธ.ค.2557 เกิดที่จุดบ้านค้อน้อย ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด เสียชีวิต 2 ราย และครั้งที่ 3 วันที่ 2 ม.ค. 2558 เกิดที่จุดกิโลเมตร 561/12 ระหว่างสถานีหนองขอนกว้าง หนองตะไก้ อ.เมือง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า การขับผ่านจุดตัดทางรถไฟ สิ่งสำคัญคือผู้ขับขี่ต้องสังเกตป้ายเตือน ลดความเร็ว และหยุดรถห่างในระยะไม่น้อยกว่า 5 เมตร ลดกระจกข้างลง เพื่อฟังเสียงสัญญาณเตือนรถไฟ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงจะขับรถผ่านไปได้ ซึ่งที่ผ่านมา สคอ.ได้ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการรถไฟแห่งประเทศไทย ผลิตคู่มือการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน บริเวณจุดตัดทางรถไฟขึ้น เพื่อให้เป็นคู่มือขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนให้กับผู้เกี่ยวข้อง สามารถนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมของพื้นได้ เนื่องจากการดูแลความปลอดภัยของประชาชนพื้นที่ถือเป็นบทบาทและหน้าที่ของท้องถิ่นโดยตรง ที่จะให้ประชาชนมีการสัญจรที่ปลอดภัย
นายพรสุธิ ทองสาด หัวหน้าสำนักงานประจำการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันทางตัดเส้นทางรถไฟทั่วประเทศมีอยู่ 2,517 แห่ง ใน 47 จังหวัด แบ่งเป็นทางตัดที่มีคานกั้นถนน และคานกั้นอัตโนมัติ 887 แห่ง, ทางตัดผ่านของเอกชน 5 แห่ง, ทางตัดที่มีสะพานข้าม 146 แห่งและทางตัดที่มีอุโมงค์ลอด118 แห่งและเป็นทางลักผ่าน 584 จุด และเป็นจุดตัดที่ไม่มีสัญญาณและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยใดๆ และป้ายจราจร จำนวน 775 แห่ง ถือว่าเป็นจุดตัดที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และจากนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มอบหมายให้ดำเนินการแก้ไขปัญหา ทางการรถไฟได้เร่งรัดติดตั้งสัญญาณไฟแจ้งเตือน ไฟกระพริบก่อนถึงจุดตัด เน้นจุดตัดเป็นทางลัดผ่าน 584 แห่งก่อน โดยติดตั้งป้ายเตือน จุดตัดว่าข้างหน้าเป็นจุดตัดทางรถไฟ ทำคลื่นระนาดบนผิวถนนเพื่อชะลอความเร็วของรถ และติดตั้งสัญญาณไฟและเสียงแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่รถเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
นายพรสุธิ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานแก้ไขจุดตัดทางรถไฟของจังหวัดอุดรธานี ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจะติดตั้งป้ายไฟกระพริบและเครื่องกั้นในจุดลุกผ่านที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งและเร่งด่วนก่อนเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำและจะขยายให้ครบทั้ง 58 จุด โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยยินดีให้การร่วมมือกับท้องถิ่นโดยจะสนับสนุนค่าควบคุมดูแลในการติดตั้งบริเวณจุดตัดรถไฟ เพื่อร่วมช่วยให้การสัญจรของประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายณพร ภคสันต์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ ส่วนติดตามและประเมินผล กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศสำรวจพื้นที่ จำนวนจุดตัดผ่าน จุดลักผ่าน ปัญหาอุปสรรคต่างๆ เสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการอนุญาตและแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนน ระดับจังหวัดแล้ว เพื่อเร่งดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟในพื้นที่ ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมรายชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปเป็นคณะอนุกรรมการฯชุดดังกล่าวด้วย เพื่อให้การขับเคลื่อนการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ท้องถิ่นทั่วประเทศสามารถดำเนินการแก้ไขปรับปรุงบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้ทันที เช่น การปรับทัศนวิสัย ตัดแต่งกิ่งไม้ ติดตั้งไฟส่องสว่าง ป้ายเตือน ลูกระนาดชะลอความเร็ว เป็นต้น รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ ตระหนักและระมัดระวังในการสัญจรบริเวณจุดตัดทางรถไฟ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
