ก.แรงงาน เข้มงวดความปลอดภัยในสถานประกอบการ มุ่งสร้างหลักปฏิบัติ 4 ข้อ เน้นกิจการขนาดเล็ก ป้องกันอุบัติเหตุที่ต้นตอ ส่วมใส่อุปกรณ์ป้องกัน มากกว่าเพื่อถ่ายรูปขณะตรวจเยี่ยม
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ โรงแรมเอสดี อเวนิว กรุงเทพฯ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่องนโยบายการขับเคลื่อนความปลอดภัยในการทำงานแก่ผู้ประกอบการกว่า 300 คน ว่า ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จะกวดขันเรื่องความปลอดภัยในสถานประกอบการอย่างเข้มงวด โดยต้องสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งต้องเริ่มจากผู้ประกอบการ ในการร่วมกันป้องกัน ส่วนลูกจ้างต้องได้รับการอบรมเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงผลเสียของอุบัติเหตุ โดยที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ต้องเร่งให้ความรู้กับสถานประกอบการทั่วประเทศ โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดเล็ก หรือให้ กสร. พานายจ้างลูกจ้างไปเยี่ยมชมศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน เพื่อให้เห็นผลที่ตามมาจากการไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ซึ่งจะเน้นสร้างปฏิบัติ 4 ข้อให้เห็นผล คือ 1. จัดระเบียบสถานประกอบการให้มีจิตสำนึกด้านความปลอดภัย 2. ผู้ใช้แรงงานต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง 3. กสร. ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมให้ความรู้สร้างเป็นมาตรฐาน และ 4. ต้องบังคับใช้กฎหมายจริงจังผ่านกระบวนการแนะนำ ตักเตือน และลงโทษตามลำดับ
รมว.แรงงาน กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้ลงนามในการเสนอขอตั้งกรมความปลอดภัย แต่เรื่องนี้ต้องใช้เวลาจึงจะสามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้เชื่อว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยในสถานประกอบการ ส่วนหนึ่งมีไว้เพื่อถ่ายรูป จึงต้องสร้างจิตสำนึกให้คนกลุ่มนี้ไม่ให้มองเรื่องการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเป็นการป้องกันการตรวจสถานประกอบการ อย่างไรก็ตามการบังคับใช้กฎหมายต้องจริงจังด้วย ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานจะเน้นให้ปี 2558 นี้ เป็นปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยของการทำงานในสถานประกอบการ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ที่มีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงห่วงใยต่อผู้ใช้แรงงาน ภายใต้โครงการสถานประกอบการปลอดภัยเฉลิมพระเกียรติ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ โรงแรมเอสดี อเวนิว กรุงเทพฯ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่องนโยบายการขับเคลื่อนความปลอดภัยในการทำงานแก่ผู้ประกอบการกว่า 300 คน ว่า ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จะกวดขันเรื่องความปลอดภัยในสถานประกอบการอย่างเข้มงวด โดยต้องสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งต้องเริ่มจากผู้ประกอบการ ในการร่วมกันป้องกัน ส่วนลูกจ้างต้องได้รับการอบรมเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงผลเสียของอุบัติเหตุ โดยที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ต้องเร่งให้ความรู้กับสถานประกอบการทั่วประเทศ โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดเล็ก หรือให้ กสร. พานายจ้างลูกจ้างไปเยี่ยมชมศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน เพื่อให้เห็นผลที่ตามมาจากการไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ซึ่งจะเน้นสร้างปฏิบัติ 4 ข้อให้เห็นผล คือ 1. จัดระเบียบสถานประกอบการให้มีจิตสำนึกด้านความปลอดภัย 2. ผู้ใช้แรงงานต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง 3. กสร. ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมให้ความรู้สร้างเป็นมาตรฐาน และ 4. ต้องบังคับใช้กฎหมายจริงจังผ่านกระบวนการแนะนำ ตักเตือน และลงโทษตามลำดับ
รมว.แรงงาน กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้ลงนามในการเสนอขอตั้งกรมความปลอดภัย แต่เรื่องนี้ต้องใช้เวลาจึงจะสามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้เชื่อว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยในสถานประกอบการ ส่วนหนึ่งมีไว้เพื่อถ่ายรูป จึงต้องสร้างจิตสำนึกให้คนกลุ่มนี้ไม่ให้มองเรื่องการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเป็นการป้องกันการตรวจสถานประกอบการ อย่างไรก็ตามการบังคับใช้กฎหมายต้องจริงจังด้วย ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานจะเน้นให้ปี 2558 นี้ เป็นปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยของการทำงานในสถานประกอบการ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ที่มีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงห่วงใยต่อผู้ใช้แรงงาน ภายใต้โครงการสถานประกอบการปลอดภัยเฉลิมพระเกียรติ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่