เตือนป่วยหวัดใหญ่ ปอดบวมช่วงฤดูหนาว ห่วงเด็ก ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัวป่วยง่าย สั่ง สสจ. ให้ความรู้ประชาชนดูแลตัวเอง ดื่มน้ำ พักผ่อนมากๆ เป็นหวัดอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ไข้สูงขึ้น ไอ เจ็บหน้าอก หายใจหอบเร็ว ให้รีบพบแพทย์ทันที
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาว ทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ บางพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว ขณะที่บางพื้นที่ยังมีฝนตกอยู่ ส่งผลให้ผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัวเสี่ยงป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมักพบป่วยจำนวนมากช่วง ม.ค.- มี.ค. และ ก.ค.- ต.ค. รวมถึงโรคปอดบวม ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมดและมักเกิดแทรกซ้อนตามหลังโรคทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ได้กำชับสำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันการเจ็บป่วย และ หากพบผู้ป่วยและเป็นกลุ่มเสี่ยงขอให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ดูแลรักษาตามแนวทางการรักษาและป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนหลังเจ็บป่วยจากโรคอื่นๆ
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาวขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน ผู้สูงอายู ผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้สวมเสื้อผ้าหนาๆ ให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือบ่อยๆ หากป่วยมีอาการไข้ไอเจ็บคอน้ำมูก ขอให้พบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด ขอให้ดื่มน้ำและพักผ่อนมากๆ สวมหน้ากากอนามัย หยุดเรียน หยุดทำงาน เพื่อป้องกันเชื้อแพร่ไปติดคนอื่น หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน หรืออาการรุนแรงขึ้น เช่น มีไข้สูงขึ้น น้ำมูกเปลี่ยนสีเป็นเขียวข้น ไอเจ็บหน้าอก หากเป็นเด็กเล็กๆ ควรสังเกตอาการ หากเด็กซึมลง ไม่กินนม ไข้สูง ไอ หายใจลำบาก หายใจหอบเร็ว หรือหายใจจนซี่โครงบุ๋ม ขอให้รีบไปพบแพทย์ ทั้งนี้ ประชาชนมีข้อสงสัย สามารถปรึกษา หรือขอคำแนะนำที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาว ทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ บางพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว ขณะที่บางพื้นที่ยังมีฝนตกอยู่ ส่งผลให้ผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัวเสี่ยงป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมักพบป่วยจำนวนมากช่วง ม.ค.- มี.ค. และ ก.ค.- ต.ค. รวมถึงโรคปอดบวม ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมดและมักเกิดแทรกซ้อนตามหลังโรคทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ได้กำชับสำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันการเจ็บป่วย และ หากพบผู้ป่วยและเป็นกลุ่มเสี่ยงขอให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ดูแลรักษาตามแนวทางการรักษาและป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนหลังเจ็บป่วยจากโรคอื่นๆ
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาวขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน ผู้สูงอายู ผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้สวมเสื้อผ้าหนาๆ ให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือบ่อยๆ หากป่วยมีอาการไข้ไอเจ็บคอน้ำมูก ขอให้พบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด ขอให้ดื่มน้ำและพักผ่อนมากๆ สวมหน้ากากอนามัย หยุดเรียน หยุดทำงาน เพื่อป้องกันเชื้อแพร่ไปติดคนอื่น หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน หรืออาการรุนแรงขึ้น เช่น มีไข้สูงขึ้น น้ำมูกเปลี่ยนสีเป็นเขียวข้น ไอเจ็บหน้าอก หากเป็นเด็กเล็กๆ ควรสังเกตอาการ หากเด็กซึมลง ไม่กินนม ไข้สูง ไอ หายใจลำบาก หายใจหอบเร็ว หรือหายใจจนซี่โครงบุ๋ม ขอให้รีบไปพบแพทย์ ทั้งนี้ ประชาชนมีข้อสงสัย สามารถปรึกษา หรือขอคำแนะนำที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่