3 ผู้นำศาสนา “พุทธ คริสต์ อิสลาม” ร่วมรณรงค์ “ศาสนสถานปลอดบุหรี่ทั่วประเทศ” ชี้กฎหมายระบุชัดฝ่าฝืนสูบในวัด โบสถ์ มัสยิด ถูกจับปรับทันที วอนประชาชนอย่าสร้างบาปทำบุญด้วยบุหรี่ ประเดิม 3 ศาสนสถานชื่อดัง “วัดประยูร” โบสถ์ซางตาครูส และกุฎีขาว
ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ เลขาธิการสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เปิดเผยว่า สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติฯ ได้ร่วมกับ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และผู้นำศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม จัดโครงการ “ศาสนสถานปลอดบุหรี่ทั่วประเทศ” ดีเดย์วันที่ 13 มกราคม 2558 นำร่องด้วยศาสนสถานชื่อดัง 3 แห่ง คือ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เจ้าของรางวัลยูเนสโก ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ปี 2556 โบสถ์ซางตาครูส และ มัสยิดบางหลวง (กุฎีขาว)
“เป้าหมายการสร้างศาสนสถานปลอดบุหรี่ทั่วประเทศ ก็เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศ และศาสนสถานทุกแห่งรับรู้ว่า บุหรี่ก่อให้เกิดพิษภัยทั้งต่อตัวผู้สูบและผู้อื่น จึงมีกฎหมายเพื่อควบคุมการบริโภคยาสูบ และมีบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 19 พ.ศ. 2553 ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2553 มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2553 โดยประกาศฉบับนี้เป็นการกำหนดให้ศาสนสถานเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด ผู้ฝ่าฝืนจะถูกจับหรือมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาททันที” ศ.นพ.รณชัย กล่าว
ศ.นพ.รณชัย กล่าวว่า สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติฯ มูลนิธิฯ และวัดประยุรฯ จะเป็นศูนย์รวมของเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นหัวหอกชี้นำให้เกิดความรู้ให้ศาสนสถานทุกแห่งทั่วประเทศเป็นเขตปลอดบุหรี่ ทั้งนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขที่จะให้กลุ่มอาสาสมัคร (อสม.) นับแสนคนทั่วประเทศ เป็นฝ่ายสนับสนุนและออกเยี่ยมเยียนวัด โบสถ์ และมัสยิด ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้ศาสนสถานทั่วประเทศเป็นเขตปลอดบุหรี่อย่างแท้จริง
ศ.ดร.พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กล่าวว่า ทางวัดพร้อมให้ความร่วมมือกับสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติฯ และมูลนิธิฯ รณรงค์ให้ศาสนสถานทั่วประเทศปลอดบุหรี่ โดยในส่วนของวัดประยุรฯ นอกจากจะให้ความรู้แล้วยังจะร่วมเผยแพร่โครงการนี้แก่วัดอื่นอย่างจริงจังอีกด้วย ทั้งนี้ เพราะศาสนสถานเป็นสถานที่สาธารณ ประชาชนจำนวนมากมาประกอบกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งเหมาะกับการเป็นสถานที่ส่งเสริมสุขภาพกายใจให้ปลอดจากสิ่งเสพติดทั้งหลาย และพระสงฆ์ก็เป็นผู้นำทางความคิดและเป็นที่นับถือแก่ศาสนิกชน จึงควรปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดี นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากพุทธศาสนิกชนทั้งหลายไม่ควรถวายปัจจัยบุหรี่แด่พระภิกษุสงฆ์อีกด้วย
บุหรี่เป็นสิ่งเสพติดที่มีผู้เสพติดมากที่สุดของโลก โดยทั่วโลกมีผู้เสพติดบุหรี่ 1,300 ล้านคน ในแต่ละปีมีชาวโลกเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 5.4 ล้านคน วันละ 14,794 คน ชั่วโมงละ 616 คน นาทีละ 10 คน ในแต่ละปีคนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 50,710 คน วันละ 139 คน ชั่วโมงละ 5.7 คน โดยอายุเฉลี่ยของคนไทยที่เริ่มเสพติดบุหรี่ คือ 18 ปี และการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดโรคมะเร็ง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ เลขาธิการสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เปิดเผยว่า สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติฯ ได้ร่วมกับ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และผู้นำศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม จัดโครงการ “ศาสนสถานปลอดบุหรี่ทั่วประเทศ” ดีเดย์วันที่ 13 มกราคม 2558 นำร่องด้วยศาสนสถานชื่อดัง 3 แห่ง คือ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เจ้าของรางวัลยูเนสโก ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ปี 2556 โบสถ์ซางตาครูส และ มัสยิดบางหลวง (กุฎีขาว)
“เป้าหมายการสร้างศาสนสถานปลอดบุหรี่ทั่วประเทศ ก็เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศ และศาสนสถานทุกแห่งรับรู้ว่า บุหรี่ก่อให้เกิดพิษภัยทั้งต่อตัวผู้สูบและผู้อื่น จึงมีกฎหมายเพื่อควบคุมการบริโภคยาสูบ และมีบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 19 พ.ศ. 2553 ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2553 มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2553 โดยประกาศฉบับนี้เป็นการกำหนดให้ศาสนสถานเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด ผู้ฝ่าฝืนจะถูกจับหรือมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาททันที” ศ.นพ.รณชัย กล่าว
ศ.นพ.รณชัย กล่าวว่า สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติฯ มูลนิธิฯ และวัดประยุรฯ จะเป็นศูนย์รวมของเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นหัวหอกชี้นำให้เกิดความรู้ให้ศาสนสถานทุกแห่งทั่วประเทศเป็นเขตปลอดบุหรี่ ทั้งนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขที่จะให้กลุ่มอาสาสมัคร (อสม.) นับแสนคนทั่วประเทศ เป็นฝ่ายสนับสนุนและออกเยี่ยมเยียนวัด โบสถ์ และมัสยิด ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้ศาสนสถานทั่วประเทศเป็นเขตปลอดบุหรี่อย่างแท้จริง
ศ.ดร.พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กล่าวว่า ทางวัดพร้อมให้ความร่วมมือกับสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติฯ และมูลนิธิฯ รณรงค์ให้ศาสนสถานทั่วประเทศปลอดบุหรี่ โดยในส่วนของวัดประยุรฯ นอกจากจะให้ความรู้แล้วยังจะร่วมเผยแพร่โครงการนี้แก่วัดอื่นอย่างจริงจังอีกด้วย ทั้งนี้ เพราะศาสนสถานเป็นสถานที่สาธารณ ประชาชนจำนวนมากมาประกอบกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งเหมาะกับการเป็นสถานที่ส่งเสริมสุขภาพกายใจให้ปลอดจากสิ่งเสพติดทั้งหลาย และพระสงฆ์ก็เป็นผู้นำทางความคิดและเป็นที่นับถือแก่ศาสนิกชน จึงควรปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดี นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากพุทธศาสนิกชนทั้งหลายไม่ควรถวายปัจจัยบุหรี่แด่พระภิกษุสงฆ์อีกด้วย
บุหรี่เป็นสิ่งเสพติดที่มีผู้เสพติดมากที่สุดของโลก โดยทั่วโลกมีผู้เสพติดบุหรี่ 1,300 ล้านคน ในแต่ละปีมีชาวโลกเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 5.4 ล้านคน วันละ 14,794 คน ชั่วโมงละ 616 คน นาทีละ 10 คน ในแต่ละปีคนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 50,710 คน วันละ 139 คน ชั่วโมงละ 5.7 คน โดยอายุเฉลี่ยของคนไทยที่เริ่มเสพติดบุหรี่ คือ 18 ปี และการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดโรคมะเร็ง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่