เอเอฟพี - นับตั้งแต่สงครามซีเรียเปิดฉากขึ้นในปี 2011 ก็มีสถานที่ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของดินแดนตะวันออกกลางแห่งนี้ถูกทำลาย ได้รับความเสียหาย และถูกปล้นสะดม ไปแล้วเกือบ 300 แห่ง ทั้งนี้ตามรายงานของหน่วยงานชำนาญการด้านวัฒนธรรมขององค์การสหประชาชาติ ที่อ้างอิงข้อมูลจากดาวเทียม
ในบรรดาพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี ยังรวมถึงสถานที่องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลก” เช่น เมืองอเลปโป ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนเก่าแก่ 7,000 ปี และเมือง “แพลไมรา” ซึ่งเล่าขานกันว่าเป็นโอเอซิสแบบเกรโกโรมันในทะเลทราย
ยูเนสโกระบุในคำแถลงว่า “การปล้นสะดม การทำลายด้วยการโจมตีทิ้งระเบิดทางอากาศ รวมทั้งการระเบิดด้วยวิธีอื่นๆ ตลอดจนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม ได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อโบราณสถาน และโบราณวัตถุ ซึ่งถือเป็นมรดกของคนรุ่นต่อไป”
รายงานฉบับนี้มุ่งศึกษาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม 18 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้มี 6 แห่งปรากฏชื่อในบัญชียูเนสโก ได้แก่ เมืองโบราณอเลปโป, บอสรา, ดามัสกัส, เมืองแห่งความตายทางเหนือของซีเรีย, ครักเดเชอวาลีเยร์ และแพลไมรา
ผลการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของสถานที่ 290 แห่งอย่างละเอียดชี้ว่า มีจุดที่ถูกทำลายไปแล้ว 24 แห่ง และได้รับความเสียหายรุนแรง 104 แห่ง เสียหายปานกลาง 85 แห่ง และมีแนวโน้มจะได้รับความเสียหายอีก 77 แห่ง
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า รายงานฉบับนี้เป็น “หลักฐานที่ส่งสัญญาณเตือนว่า กำลังเกิดความเสียหายขึ้นกับพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรมอันกว้างใหญ่ในซีเรีย” พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุ่มเทความพยายามปกป้องสถานที่สำคัญเหล่านี้ให้มากขึ้น
ภาพถ่ายจากดาวเทียม ซึ่งเป็นแหล่งอ้างอิงสำคัญของรายงานฉบับนี้ เก็บรวบรวมโดยสถาบันศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมโดยการให้ข้อมูลภูมิประเทศ (UNOSAT) ซึ่งมีฐานในนครเจนีวา
เอย์นาร์ บียอร์โก ผู้อำนวยการ UNOSAT กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับชาวซีเรีย และทุกคนบนโลกใบนี้ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
เขากล่าวกับเอเอฟพีว่า “มวลมนุษยชาติกำลังสูญเสียมรดกอายุเก่าแก่หลายร้อยหลายพันปี”