สมศ. พร้อมหนุน ทปอ. พัฒนาเกณฑ์ประเมิน แต่ย้ำต้องยึดตามมาตรฐานที่ต้นสังกัดกำหนด ไม่ใช่ยึดแต่สากล ระบุหาก ทปอ. ส่งมาให้ตามกำหนดที่บอก จะเสนอบอร์ด สมศ. พร้อมด้วย รองนายกฯ และ สกอ. พิจารณาร่วมด้วย
ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกระดับอุดมศึกษาเอง โดยจะส่งรายละเอียดให้ สมศ.พิจารณาภายใน 15 มกราคมนั้น ว่า ที่ผ่านมา สมศ. ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาลุกขึ้นมากำหนดตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินด้วยตนเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหาก ทปอ.จะดำเนินการก็เป็นเรื่องที่ดี แต่สำคัญคือตัวบ่งชี้ และเกณฑ์ที่กำหนดต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่ต้นสังกัดกำหนดด้วย ไม่ใช่ยึดตามแต่สากล โดยเฉพาะเกณฑ์ประเมินการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของหน่วยงานต่างๆ เพราะเน้นประเด็นบางด้านเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้ ทปอ. จะกำหนดเกณฑ์การประเมินเอง แต่ในส่วนผู้ประเมินยืนยันว่าควรเป็นหน่วยงานกลาง ที่ไม่ได้อยู่สังกัดเดียวกับผู้รับการประเมิน
“ผมคาดว่าตัวบ่งชี้ และเกณฑ์ที่ ทปอ.จะกำหนดขึ้นมานั้น คงหนีไม่พ้นองค์ประกอบหลักของการประเมินคุณภาพที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เช่น คุณภาพศิษย์ อาจารย์ และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ซึ่งเมื่อ ทปอ.ส่งเกณฑ์มาให้ สมศ.ตามที่ระบุ ภายในวันที่ 15 มกราคม ก็จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร สมศ. ว่าจะเห็นชอบหรือไม่ นอกจากนี้ต้องเสนอให้ ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พิจารณาร่วมด้วย"ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากตัวบ่งชี้ และเกณฑ์ที่ ทปอ. กำหนดมามีมาตรฐานไม่ต่ำกว่าที่ สมศ. ดำเนินการอยู่ ก็คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร และคงจะนำมาใช้ในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ ระดับอุดมศึกษาได้ ซึ่งจะเริ่มประเมินในวันที่ 1 ต.ค. 2558
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกระดับอุดมศึกษาเอง โดยจะส่งรายละเอียดให้ สมศ.พิจารณาภายใน 15 มกราคมนั้น ว่า ที่ผ่านมา สมศ. ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาลุกขึ้นมากำหนดตัวบ่งชี้ และเกณฑ์การประเมินด้วยตนเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหาก ทปอ.จะดำเนินการก็เป็นเรื่องที่ดี แต่สำคัญคือตัวบ่งชี้ และเกณฑ์ที่กำหนดต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่ต้นสังกัดกำหนดด้วย ไม่ใช่ยึดตามแต่สากล โดยเฉพาะเกณฑ์ประเมินการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของหน่วยงานต่างๆ เพราะเน้นประเด็นบางด้านเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้ ทปอ. จะกำหนดเกณฑ์การประเมินเอง แต่ในส่วนผู้ประเมินยืนยันว่าควรเป็นหน่วยงานกลาง ที่ไม่ได้อยู่สังกัดเดียวกับผู้รับการประเมิน
“ผมคาดว่าตัวบ่งชี้ และเกณฑ์ที่ ทปอ.จะกำหนดขึ้นมานั้น คงหนีไม่พ้นองค์ประกอบหลักของการประเมินคุณภาพที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เช่น คุณภาพศิษย์ อาจารย์ และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ซึ่งเมื่อ ทปอ.ส่งเกณฑ์มาให้ สมศ.ตามที่ระบุ ภายในวันที่ 15 มกราคม ก็จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร สมศ. ว่าจะเห็นชอบหรือไม่ นอกจากนี้ต้องเสนอให้ ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พิจารณาร่วมด้วย"ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากตัวบ่งชี้ และเกณฑ์ที่ ทปอ. กำหนดมามีมาตรฐานไม่ต่ำกว่าที่ สมศ. ดำเนินการอยู่ ก็คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร และคงจะนำมาใช้ในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ ระดับอุดมศึกษาได้ ซึ่งจะเริ่มประเมินในวันที่ 1 ต.ค. 2558
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่