กรมควบคุมโรคเปลี่ยนเกณฑ์การให้วัคซีนหัดใหม่ จากเดิมฉีดกระตุ้นเข็มที่ 2 อายุ 7 ขวบ เป็น 2 ขวบครึ่งแทน หลังพบเด็กวัย 2 ขวบ กลับมาป่วยโรคหัดมากขึ้น เผยเทงบ 198 ล้านบาทจัดเตรียมวัคซีนฉีดในปี 2558 นี้
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ของขวัญปีใหม่ 2558 สำหรับคนไทยในการห่างไกลโรคนั้น คร. จะจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา แบ่งออกเป็น 2 เรื่อง คือ 1. การจัดบริการให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ และบาดทะยัก ซึ่งเป็นวัคซีนผสมในคนไทยอายุ 20 - 50 ปี จำนวน 28 ล้านคน เนื่องจากในปี 2555 พบว่า มีการระบาดของโรคคอตีบมากขึ้นในกลุ่มผู้ใหญ่ ซึ่งในปี 2557 ได้ให้บริการฉีดวัคซีนดังกล่าวไปแล้วในภาคอีสาน และจะครบทุกภาคใน เม.ย. 2558 และ 2. เตรียมให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด และหัดเยอรมัน ซึ่งเป็นวัคซีนผสม โดยมุ่งให้ในกลุ่มเด็ก
“เดิมวัคซีนป้องกันโรคหัดจะให้ใน 2 ช่วงอายุ คือ เข็มแรก ให้ในเด็กอายุ 9 - 12 เดือน และกระตุ้นเข็มที่ 2 ในเด็กอายุ 7 ปี แต่ปรากฏว่าช่วง 2 - 3 ปีมานี้ พบเด็กอายุ 2 ปี ป่วยเป็นหัดมากขึ้น เฉลี่ยปีละพันคน จึงพิจารณาและเสนอให้เปลี่ยนเกณฑ์การให้วัคซีนเข็มที่ 2 ใหม่เป็นอายุ 2 ปีครึ่งแทน ดังนั้น ในปี 2558 คร. จะให้บริการฉีดวัคซีนโรคหัดเข็มที่ 2 ใหม่ จากเดิมให้เด็กอายุ 7 ปี เป็น 2 ปีครึ่ง โดยกลุ่มนี้มีการคำนวณแล้วพบว่า มีจำนวน 3 ล้านคน ซึ่งในปี 2558 จะให้บริการวัคซีนโรคหัดในกลุ่มนี้จนครบ เพื่อให้ในปีต่อๆไปจะเริ่มที่เกณฑ์ใหม่ได้ทันที โดยงบประมาณส่วนนี้อยู่ที่ 198 ล้านบาท” อธิบดี คร. กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวว่า นอกจากนี้ คร. จะจัดทีมการทำงานเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรคให้เข็มแข็งมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคน โดยจัดทีมเฝ้าระวัง 5 กลุ่ม คือ โรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ โรคติดต่อเรื้อรัง โรคจากการประกอบอาชีพ และโรคจากการบาดเจ็บต่างๆ พร้อมทั้งพัฒนาทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ในการเพิ่มศักยภาพการทำงานทั้ง 5 กลุ่มด้วย อีกทั้ง จะมีการสำรวจสุขภาพของชุมชนในแต่ละพื้นที่ผ่านสำนักงานป้องกันควบคุมโรคแต่ละเขต เพื่อให้ทราบว่าแต่ละพื้นที่ของไทยมีปัญหาสุขภาพอย่างไร ซึ่งจะเป็นการหาทางป้องกันและแก้ปัญหาได้ตรงจุด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ของขวัญปีใหม่ 2558 สำหรับคนไทยในการห่างไกลโรคนั้น คร. จะจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา แบ่งออกเป็น 2 เรื่อง คือ 1. การจัดบริการให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ และบาดทะยัก ซึ่งเป็นวัคซีนผสมในคนไทยอายุ 20 - 50 ปี จำนวน 28 ล้านคน เนื่องจากในปี 2555 พบว่า มีการระบาดของโรคคอตีบมากขึ้นในกลุ่มผู้ใหญ่ ซึ่งในปี 2557 ได้ให้บริการฉีดวัคซีนดังกล่าวไปแล้วในภาคอีสาน และจะครบทุกภาคใน เม.ย. 2558 และ 2. เตรียมให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด และหัดเยอรมัน ซึ่งเป็นวัคซีนผสม โดยมุ่งให้ในกลุ่มเด็ก
“เดิมวัคซีนป้องกันโรคหัดจะให้ใน 2 ช่วงอายุ คือ เข็มแรก ให้ในเด็กอายุ 9 - 12 เดือน และกระตุ้นเข็มที่ 2 ในเด็กอายุ 7 ปี แต่ปรากฏว่าช่วง 2 - 3 ปีมานี้ พบเด็กอายุ 2 ปี ป่วยเป็นหัดมากขึ้น เฉลี่ยปีละพันคน จึงพิจารณาและเสนอให้เปลี่ยนเกณฑ์การให้วัคซีนเข็มที่ 2 ใหม่เป็นอายุ 2 ปีครึ่งแทน ดังนั้น ในปี 2558 คร. จะให้บริการฉีดวัคซีนโรคหัดเข็มที่ 2 ใหม่ จากเดิมให้เด็กอายุ 7 ปี เป็น 2 ปีครึ่ง โดยกลุ่มนี้มีการคำนวณแล้วพบว่า มีจำนวน 3 ล้านคน ซึ่งในปี 2558 จะให้บริการวัคซีนโรคหัดในกลุ่มนี้จนครบ เพื่อให้ในปีต่อๆไปจะเริ่มที่เกณฑ์ใหม่ได้ทันที โดยงบประมาณส่วนนี้อยู่ที่ 198 ล้านบาท” อธิบดี คร. กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวว่า นอกจากนี้ คร. จะจัดทีมการทำงานเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรคให้เข็มแข็งมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคน โดยจัดทีมเฝ้าระวัง 5 กลุ่ม คือ โรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ โรคติดต่อเรื้อรัง โรคจากการประกอบอาชีพ และโรคจากการบาดเจ็บต่างๆ พร้อมทั้งพัฒนาทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ในการเพิ่มศักยภาพการทำงานทั้ง 5 กลุ่มด้วย อีกทั้ง จะมีการสำรวจสุขภาพของชุมชนในแต่ละพื้นที่ผ่านสำนักงานป้องกันควบคุมโรคแต่ละเขต เพื่อให้ทราบว่าแต่ละพื้นที่ของไทยมีปัญหาสุขภาพอย่างไร ซึ่งจะเป็นการหาทางป้องกันและแก้ปัญหาได้ตรงจุด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่