ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ ชี้ความขัดแย้ง "สธ.-สปสช." มาจาก สปสช.พยายามรวบอำนาจ คุมทั้งการเงินและหน่วยบริการ ออกระเบียบต่างๆ ไม่ผ่านการคิดของ สธ. จวกประธานชมรมแพทย์ชนบทบ่อนทำลายวงการสุขภาพ จี้ "หมอรัชตะ" แก้ปัญหาเป็นของขวัญปีใหม่ ปชช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ถึงกรณีความขัดแย้งระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีใจความโดยสรุปว่า ความวุ่นวายใน สธ.นั้นเกิดจากนโยบายกินรวบของ สปสช. นำงบมาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองมาบริหารโดยไม่ยุติธรรม โดยหลักการแยกผู้ซื้อบริการและผู้ให้บริการที่ลดอำนาจของ สธ.ลงไปนั้น ปลัด สธ.ทุกท่านยอมรับบทบาท แต่ สปสช.ลุแก่อำนาจต้องการล้มระบบสุขภาพ ต้องการควบคุมหน่วยบริการ ครอบงำระบบบริการทั้งหมด จึงออกระเบียบมาให้หน่วยบริการทำงานแลกเงิน โดยไม่ผ่านการคิดและรับรู้ของ สธ. ทั้งที่ สธ.เป็นผู้กำหนดนโยบาย ภาพที่เห็นเหมือนจะช่วยกันทำงาน แต่แท้จริงคือการรวบอำนาจและงบประมาณมาไว้ที่ สปสช.ทั้งหมด ส่วนที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เห็นด้วยกับ สปสช. เพราะได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยที่โรงพยาบาลชุมชนและบุคลากรวิชาชีพอื่นไม่ได้เห็นด้วยเลย
การบริหารงบเช่นนี้จึงนำมาสู่ความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงพยาบาลยากจนที่มีประชากรน้อย และโรงพยาบาลร่ำรวยเพราะมีประชากรมากและอยู่ใกล้ความเจริญ จนนำมาสู่การประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับ สปสช. ของชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) และชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งการปฏิบัติการนี้ถือเป็นการประกาศสงครามที่มีประชาชนอยู่เบื้องหลัง เพราะการกระทำนี้เป็นการทำลายกลุ่มพวกพ้องที่เอาเปรียบเพื่อนร่วมวิชาชีพและประชาชนอย่างรุนแรง ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนและผู้ป่วย
ในแถลงการณ์ยังชี้แจงอีกว่า ที่ผ่านมาการผลักดันปรับการจัดสรรงบบัตรทองผ่านช่องทางปกติไม่ได้รับการตอบรับ ทั้งการประชุมบอร์ด สปสช. รวมถึงการไม่สามารถผลักดันให้เป็นนโยบายของรัฐบาลได้ ซึ่งประธานชมรมแพทย์ชนบทก็ออกมาให้ร้ายปลัด สธ.ที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงในทุกหนทาง โดยไม่ให้เกียรติ ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอทำความเข้าใจกับสังคม อย่าได้หลงเชื่อในนโยบายซ่อนเงื่อน ยึดติดภาพลักษณ์เก่าๆ ของชมรมแพทย์ชนบท เพราะประธานชมรมในยุคปัจจุบันเห็นแก่ตัวเอง ทำลายความสัมพันธ์ที่ดีแบบพี่น้องแพทย์ โกยรายได้เข้ากลุ่มโดยย่ำยีและทิ้งวิชาชีพอื่นให้ลำบาก จนรัฐมนตรี สธ.ไม่แต่งตั้งให้ร่วมงานเป็นทีมที่ปรึกษา เพราะไม่มีคุณสมบัติผู้ดี ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ กริยาหยาบคาย
ทั้งนี้ ชมรมฯขอเรียกร้องให้ ศ.นพ.รัชตะ รัชตระนาวิน รมว.สาธารณสุข แก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อให้ระบบเขตสุขภาพสามารถเดินหน้าเข้าสู่การปฏิรูปได้อย่างที่ประชาชนหวัง ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องต่อ รมว.สาธารณสุขได้ลงมือแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ต้นเหตุแห่งปัญหา เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม
สืบเนื่องจากความวุ่นวายในกระทรวงสาธารณสุขอันสืบเนื่องมาจากนโยบายกินรวบหลักประกันสุขภาพและการบริหารผิดพลาดของสปสช. ร่วมกับการเอาแต่ได้ให้พวกตัวเองของประธานชมรมแพทย์ชนบท นายแพทย์เกรียงศักดิ์ ได้บ่อนทำลายระบบหลักประกันสุขภาพ ได้นำงบประมาณมาบริหารกันโดยไม่ยุติธรรม ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงพยาบาลที่ยากจนเพราะประชากรน้อยกับโรงพยาบาลร่ำรวยเพราะประชากรมากและอยู่ใกล้ความเจริญเช่นที่ อำเภอชุมแพและสิชล ของประธานชมรมแพทย์ชนบท จนนำมาสู่การประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับสปสช ของชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในการที่จะไม่ส่งข้อมูลใดๆให้กับ สปสช.อีกต่อไป ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอวิเคราะห์สถานการณ์ให้สาธารณชนรับทราบว่า
การปฏิบัติการของชมรมรพศ. รพท. และนพ.สสจ. ดังกล่าวคือการประกาศสงครามอย่างแท้จริงที่มีประชาชนอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการนี้ นับเป็นการทำลายกลุ่มพวกพ้องที่เอาเปรียบเพื่อนร่วมวิชาชีพและประชาชนอย่างรุนแรง ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนและผู้ป่วยอย่างยิ่ง
2. การกระทำของชมรมรพศ. รพท. และนพ. สสจ. เป็นการกระทำของผู้ที่มีวุฒิภาวะสูง ไม่เคยทำร้ายน้อง ไม่ให้ร้ายเจ้านาย เมื่อเห็นว่าการผลักดันผ่านช่องทางปกติไม่ได้รับการตอบรับ ทั้งการประชุมบอร์ด สปสช. รวมถึงการไม่สามารถผลักดันให้เป็นนโยบายของรัฐบาลได้ แต่ประธานชมรมแพทย์ชนบทก็ยังดันทุรังออกมาให้ร้ายปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ในทุกหนทาง โดยไม่ให้เกียรติไม่เคารพกันฉันท์พี่น้อง แม้แต่นพ.สสจ. ที่เป็นหัวหน้าโดยตรงก็ไม่เชื่อฟัง และปลัดกระทรวงสาธารณสุขพยายามจะปรองดองและไม่ตอบโต้ใดๆด้วยความเป็นแพทย์ผู้ใหญ่ ให้อภัยน้องๆที่ใช้คำหยาบ ชี้หน้าด่าต่อสาธารณะมาตลอด
3. ตลอด 12 ปีของระบบหลักประกันสุขภาพ หัวใจของหลักการของประสิทธิภาพคือ purchaser-provider split หรือการแยกผู้ซื้อบริการกับผู้จัดบริการ สปสช.ทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อบริการแทนประชาชน ในขณะที่กระทรงสาธารณสุขในฐานะผู้จัดบริการรายใหญ่ก็ทำหน้าที่จัดบริการให้ดีที่สุด นี่คือหลักการสากลที่ใช้ทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ถูกลดทอนอำนาจลงไป ซึ่งปลัดกระทรวงทุกท่านได้ยอมรับบทบาทนี้ แต่สปสช. ลุแก่อำนาจต้องการล้มระบบสุขภาพของประชาชนโดยกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นผู้กำหนดนโยบายและนำสู่การปฎิบัติที่จะให้บริการที่ดีที่สุดในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขัดสนงบประมาณเช่นนี้ และสปสช. ยังต้องการควบคุมหน่วยบริการเอง อยากจะครอบงำระบบบริการทั้งหมด จึงออกระเบียบมาให้หน่วยบริการทำงานแลกเงินโดยไม่ผ่านการคิดและรับรู้ของกระทรวงสาธารณสุข เหมือนจะช่วยกันทำงาน แต่แท้จริงคือการรวบอำนาจและงบประมาณมาไว้ที่สปสช.ทั้งหมด เหตุที่ประธานชมรมแพทย์ชนบทเห็นด้วยกับสปสช. เพราะได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยที่โรงพยาบาลชุมชนและบุคลากรวิชาชีพอื่นไม่ได้เห็นด้วยเลย
ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอทำความเข้าใจกับสังคม อย่าได้หลงเชื่อในนโยบายซ่อนเงื่อน อย่าได้ยึดติดภาพลักษณ์เก่าๆของชมรมแพทย์ชนบท เพราะประธานชมรมในยุคปัจจุบันเห็นแก่ตัวเองมากที่สุด เป็นตัวทำลายความสัมพันธ์ที่ดีแบบพี่น้องแพทย์ โกยรายได้เข้ากลุ่มโดยย่ำยีและทิ้งวิชาชีพอื่นให้ลำบาก ซึ่งรมต.รู้จักธาตุแท้และตัวตนที่แท้จริงของนายแพทย์เกรียงศักดิ์เป็นอย่างดีจึงไม่แต่งตั้งหรือให้ออกหน้ามาร่วมงานเป็นทีมที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทั้งๆที่พี่ๆของอดีตชมรมแพทย์ชนบทก็มาอยู่ในทีม ก็เพราะเหตุผลที่ไม่มีคุณสมบัติผู้ดี ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอของความเป็นผู้นำ มีกริยาหยาบคาย
ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน ได้แก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง หลังจากที่ท่านปลัดได้ให้เกียรติ ได้ทำหน้าที่อย่างสุภาพ ได้ใช้การพูดคุยการทำความเข้าใจ แต่นายแพทย์เกรียงศักดิ์ตอบกลับด้วยความก้าวร้าว ไม่เข้าร่วมการประชุมของกระทรวง แต่ส่งสารออกสื่อมาด่าว่า ให้ร้ายปลัดตลอดเวลา เป็นต้น
เพื่อให้ระบบเขตสุขภาพสามารถเดินหน้าเข้าสู่โหมดการปฏิรูปได้อย่างที่ประชาชนหวัง ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขได้ลงมือแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ต้นเหตุแห่งปัญหา เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
ประธานชมรมแพทย์แห่งประเทศไทย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ถึงกรณีความขัดแย้งระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีใจความโดยสรุปว่า ความวุ่นวายใน สธ.นั้นเกิดจากนโยบายกินรวบของ สปสช. นำงบมาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองมาบริหารโดยไม่ยุติธรรม โดยหลักการแยกผู้ซื้อบริการและผู้ให้บริการที่ลดอำนาจของ สธ.ลงไปนั้น ปลัด สธ.ทุกท่านยอมรับบทบาท แต่ สปสช.ลุแก่อำนาจต้องการล้มระบบสุขภาพ ต้องการควบคุมหน่วยบริการ ครอบงำระบบบริการทั้งหมด จึงออกระเบียบมาให้หน่วยบริการทำงานแลกเงิน โดยไม่ผ่านการคิดและรับรู้ของ สธ. ทั้งที่ สธ.เป็นผู้กำหนดนโยบาย ภาพที่เห็นเหมือนจะช่วยกันทำงาน แต่แท้จริงคือการรวบอำนาจและงบประมาณมาไว้ที่ สปสช.ทั้งหมด ส่วนที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เห็นด้วยกับ สปสช. เพราะได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยที่โรงพยาบาลชุมชนและบุคลากรวิชาชีพอื่นไม่ได้เห็นด้วยเลย
การบริหารงบเช่นนี้จึงนำมาสู่ความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงพยาบาลยากจนที่มีประชากรน้อย และโรงพยาบาลร่ำรวยเพราะมีประชากรมากและอยู่ใกล้ความเจริญ จนนำมาสู่การประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับ สปสช. ของชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) และชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งการปฏิบัติการนี้ถือเป็นการประกาศสงครามที่มีประชาชนอยู่เบื้องหลัง เพราะการกระทำนี้เป็นการทำลายกลุ่มพวกพ้องที่เอาเปรียบเพื่อนร่วมวิชาชีพและประชาชนอย่างรุนแรง ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนและผู้ป่วย
ในแถลงการณ์ยังชี้แจงอีกว่า ที่ผ่านมาการผลักดันปรับการจัดสรรงบบัตรทองผ่านช่องทางปกติไม่ได้รับการตอบรับ ทั้งการประชุมบอร์ด สปสช. รวมถึงการไม่สามารถผลักดันให้เป็นนโยบายของรัฐบาลได้ ซึ่งประธานชมรมแพทย์ชนบทก็ออกมาให้ร้ายปลัด สธ.ที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงในทุกหนทาง โดยไม่ให้เกียรติ ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอทำความเข้าใจกับสังคม อย่าได้หลงเชื่อในนโยบายซ่อนเงื่อน ยึดติดภาพลักษณ์เก่าๆ ของชมรมแพทย์ชนบท เพราะประธานชมรมในยุคปัจจุบันเห็นแก่ตัวเอง ทำลายความสัมพันธ์ที่ดีแบบพี่น้องแพทย์ โกยรายได้เข้ากลุ่มโดยย่ำยีและทิ้งวิชาชีพอื่นให้ลำบาก จนรัฐมนตรี สธ.ไม่แต่งตั้งให้ร่วมงานเป็นทีมที่ปรึกษา เพราะไม่มีคุณสมบัติผู้ดี ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ กริยาหยาบคาย
ทั้งนี้ ชมรมฯขอเรียกร้องให้ ศ.นพ.รัชตะ รัชตระนาวิน รมว.สาธารณสุข แก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อให้ระบบเขตสุขภาพสามารถเดินหน้าเข้าสู่การปฏิรูปได้อย่างที่ประชาชนหวัง ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องต่อ รมว.สาธารณสุขได้ลงมือแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ต้นเหตุแห่งปัญหา เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม
สืบเนื่องจากความวุ่นวายในกระทรวงสาธารณสุขอันสืบเนื่องมาจากนโยบายกินรวบหลักประกันสุขภาพและการบริหารผิดพลาดของสปสช. ร่วมกับการเอาแต่ได้ให้พวกตัวเองของประธานชมรมแพทย์ชนบท นายแพทย์เกรียงศักดิ์ ได้บ่อนทำลายระบบหลักประกันสุขภาพ ได้นำงบประมาณมาบริหารกันโดยไม่ยุติธรรม ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงพยาบาลที่ยากจนเพราะประชากรน้อยกับโรงพยาบาลร่ำรวยเพราะประชากรมากและอยู่ใกล้ความเจริญเช่นที่ อำเภอชุมแพและสิชล ของประธานชมรมแพทย์ชนบท จนนำมาสู่การประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับสปสช ของชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในการที่จะไม่ส่งข้อมูลใดๆให้กับ สปสช.อีกต่อไป ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอวิเคราะห์สถานการณ์ให้สาธารณชนรับทราบว่า
การปฏิบัติการของชมรมรพศ. รพท. และนพ.สสจ. ดังกล่าวคือการประกาศสงครามอย่างแท้จริงที่มีประชาชนอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการนี้ นับเป็นการทำลายกลุ่มพวกพ้องที่เอาเปรียบเพื่อนร่วมวิชาชีพและประชาชนอย่างรุนแรง ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนและผู้ป่วยอย่างยิ่ง
2. การกระทำของชมรมรพศ. รพท. และนพ. สสจ. เป็นการกระทำของผู้ที่มีวุฒิภาวะสูง ไม่เคยทำร้ายน้อง ไม่ให้ร้ายเจ้านาย เมื่อเห็นว่าการผลักดันผ่านช่องทางปกติไม่ได้รับการตอบรับ ทั้งการประชุมบอร์ด สปสช. รวมถึงการไม่สามารถผลักดันให้เป็นนโยบายของรัฐบาลได้ แต่ประธานชมรมแพทย์ชนบทก็ยังดันทุรังออกมาให้ร้ายปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ในทุกหนทาง โดยไม่ให้เกียรติไม่เคารพกันฉันท์พี่น้อง แม้แต่นพ.สสจ. ที่เป็นหัวหน้าโดยตรงก็ไม่เชื่อฟัง และปลัดกระทรวงสาธารณสุขพยายามจะปรองดองและไม่ตอบโต้ใดๆด้วยความเป็นแพทย์ผู้ใหญ่ ให้อภัยน้องๆที่ใช้คำหยาบ ชี้หน้าด่าต่อสาธารณะมาตลอด
3. ตลอด 12 ปีของระบบหลักประกันสุขภาพ หัวใจของหลักการของประสิทธิภาพคือ purchaser-provider split หรือการแยกผู้ซื้อบริการกับผู้จัดบริการ สปสช.ทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อบริการแทนประชาชน ในขณะที่กระทรงสาธารณสุขในฐานะผู้จัดบริการรายใหญ่ก็ทำหน้าที่จัดบริการให้ดีที่สุด นี่คือหลักการสากลที่ใช้ทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ถูกลดทอนอำนาจลงไป ซึ่งปลัดกระทรวงทุกท่านได้ยอมรับบทบาทนี้ แต่สปสช. ลุแก่อำนาจต้องการล้มระบบสุขภาพของประชาชนโดยกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นผู้กำหนดนโยบายและนำสู่การปฎิบัติที่จะให้บริการที่ดีที่สุดในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขัดสนงบประมาณเช่นนี้ และสปสช. ยังต้องการควบคุมหน่วยบริการเอง อยากจะครอบงำระบบบริการทั้งหมด จึงออกระเบียบมาให้หน่วยบริการทำงานแลกเงินโดยไม่ผ่านการคิดและรับรู้ของกระทรวงสาธารณสุข เหมือนจะช่วยกันทำงาน แต่แท้จริงคือการรวบอำนาจและงบประมาณมาไว้ที่สปสช.ทั้งหมด เหตุที่ประธานชมรมแพทย์ชนบทเห็นด้วยกับสปสช. เพราะได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยที่โรงพยาบาลชุมชนและบุคลากรวิชาชีพอื่นไม่ได้เห็นด้วยเลย
ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอทำความเข้าใจกับสังคม อย่าได้หลงเชื่อในนโยบายซ่อนเงื่อน อย่าได้ยึดติดภาพลักษณ์เก่าๆของชมรมแพทย์ชนบท เพราะประธานชมรมในยุคปัจจุบันเห็นแก่ตัวเองมากที่สุด เป็นตัวทำลายความสัมพันธ์ที่ดีแบบพี่น้องแพทย์ โกยรายได้เข้ากลุ่มโดยย่ำยีและทิ้งวิชาชีพอื่นให้ลำบาก ซึ่งรมต.รู้จักธาตุแท้และตัวตนที่แท้จริงของนายแพทย์เกรียงศักดิ์เป็นอย่างดีจึงไม่แต่งตั้งหรือให้ออกหน้ามาร่วมงานเป็นทีมที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทั้งๆที่พี่ๆของอดีตชมรมแพทย์ชนบทก็มาอยู่ในทีม ก็เพราะเหตุผลที่ไม่มีคุณสมบัติผู้ดี ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอของความเป็นผู้นำ มีกริยาหยาบคาย
ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน ได้แก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง หลังจากที่ท่านปลัดได้ให้เกียรติ ได้ทำหน้าที่อย่างสุภาพ ได้ใช้การพูดคุยการทำความเข้าใจ แต่นายแพทย์เกรียงศักดิ์ตอบกลับด้วยความก้าวร้าว ไม่เข้าร่วมการประชุมของกระทรวง แต่ส่งสารออกสื่อมาด่าว่า ให้ร้ายปลัดตลอดเวลา เป็นต้น
เพื่อให้ระบบเขตสุขภาพสามารถเดินหน้าเข้าสู่โหมดการปฏิรูปได้อย่างที่ประชาชนหวัง ชมรมแพทย์แห่งประเทศไทยจึงขอเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขได้ลงมือแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ต้นเหตุแห่งปัญหา เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
ประธานชมรมแพทย์แห่งประเทศไทย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่