กรมแพทย์แผนไทยฯ เตรียมอัดงบปี 58 หนุนโรงพยาบาลซื้อสมุนไพรในชุมชน ผลิตเป็นยาสมุนไพรใช้ในคลินิกแพทย์แผนไทย เน้นรักษาผู้สูงอายุ ป่วยเรื้อรัง บำบัดยาเสพติด ชูรางจืดดูดสารพิษ ปกป้องเซลล์สมอง ช่วยคนติดยาดีขึ้น คาดกระตุ้นเศรษฐกิจปีละกว่า 10 ล้านบาท
นพ.ธวัชชัย กลมธรรม อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในปี 2558 กรมฯจะพัฒนาและต่อยอดสมุนไพรให้เกิดประโยชน์ โดยจะมีการพัฒนารวบรวมพันธุ์พืชสมุนไพรหายาก เพื่อขยายพันธุ์และส่งเสริมการปลูกในชุมชน โดยจะมีการสนับสนุนงบประมาณลงไปที่โรงงานแปรรูปสมุนไพรเป็นยา ในส่วนของโรงพยาบาล 46 แห่ง เพื่อให้โรงพยาบาลเหล่านี้ซื้อวัตถุดิบจากชุมชน โดยเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ได้ประมาณ 10 ล้านบาท ในช่วง 1 ปี และยาที่ผลิตออกมาจะนำไปกระตุ้นการบริการคลินิกแพทย์แผนไทย ทั้งในส่วนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ติดยาเสพติด หญิงหลังคลอด ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า สำหรับงานด้านยาเสพติด ขณะนี้ได้มีการหารือ รพ.ธัญญารักษ์ เพื่อนำสมุนไพรไทย บวกกับการแพทย์ทางเลือก ไปช่วยในการบำบัดผู้เสพยาเสพติด โดยใช้วิธี เช่น การสวดมนต์บำบัด การใช้หญ้ารางจืด หญ้าดอกขาว เพื่อช่วยคนต้องการอดบุหรี่ หรือ ขับพิษจากการดื่มเหล้ามาก ซึ่งพบว่ารางจืด นอกจากจะช่วยดูดพิษแล้ว รางจืดยังช่วยปกป้องเซลล์สมอง และช่วยลดการใช้ยาลงได้ ช่วยทำให้ผู้ติดยาเสพติดมีอารมณ์ที่ดีขึ้น
"ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายตัวที่ระบุถึงประโยชน์ของสมุนไพรกับการต้านฤทธิ์ยาเสพติด แต่จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานรวมถึงการใช้ในระดับคลินิกเพิ่มเติม ซึ่งหากเข้าไปทำงานร่วมกับ รพ.ธัญญารักษ์ได้ ก็จะทำให้มีองค์ความรู้ที่เพิ่มขึ้น และสามารถขยายการใช้สมุนไพรได้ เช่น ในกลุ่มผู้ติดแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ก็พบว่า สามารถใช้ใบกระท่อมมาช่วยให้ลดการใช้ยาบ้า และเลิกใช้ยาเสพติดในที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าผู้ติดยากลุ่มแอมเฟตามีน ประมาณ 70-80% มักกลับไปเสพใหม่ภายใน 2 ปี" อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ธวัชชัย กลมธรรม อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในปี 2558 กรมฯจะพัฒนาและต่อยอดสมุนไพรให้เกิดประโยชน์ โดยจะมีการพัฒนารวบรวมพันธุ์พืชสมุนไพรหายาก เพื่อขยายพันธุ์และส่งเสริมการปลูกในชุมชน โดยจะมีการสนับสนุนงบประมาณลงไปที่โรงงานแปรรูปสมุนไพรเป็นยา ในส่วนของโรงพยาบาล 46 แห่ง เพื่อให้โรงพยาบาลเหล่านี้ซื้อวัตถุดิบจากชุมชน โดยเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ได้ประมาณ 10 ล้านบาท ในช่วง 1 ปี และยาที่ผลิตออกมาจะนำไปกระตุ้นการบริการคลินิกแพทย์แผนไทย ทั้งในส่วนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ติดยาเสพติด หญิงหลังคลอด ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า สำหรับงานด้านยาเสพติด ขณะนี้ได้มีการหารือ รพ.ธัญญารักษ์ เพื่อนำสมุนไพรไทย บวกกับการแพทย์ทางเลือก ไปช่วยในการบำบัดผู้เสพยาเสพติด โดยใช้วิธี เช่น การสวดมนต์บำบัด การใช้หญ้ารางจืด หญ้าดอกขาว เพื่อช่วยคนต้องการอดบุหรี่ หรือ ขับพิษจากการดื่มเหล้ามาก ซึ่งพบว่ารางจืด นอกจากจะช่วยดูดพิษแล้ว รางจืดยังช่วยปกป้องเซลล์สมอง และช่วยลดการใช้ยาลงได้ ช่วยทำให้ผู้ติดยาเสพติดมีอารมณ์ที่ดีขึ้น
"ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายตัวที่ระบุถึงประโยชน์ของสมุนไพรกับการต้านฤทธิ์ยาเสพติด แต่จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานรวมถึงการใช้ในระดับคลินิกเพิ่มเติม ซึ่งหากเข้าไปทำงานร่วมกับ รพ.ธัญญารักษ์ได้ ก็จะทำให้มีองค์ความรู้ที่เพิ่มขึ้น และสามารถขยายการใช้สมุนไพรได้ เช่น ในกลุ่มผู้ติดแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ก็พบว่า สามารถใช้ใบกระท่อมมาช่วยให้ลดการใช้ยาบ้า และเลิกใช้ยาเสพติดในที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าผู้ติดยากลุ่มแอมเฟตามีน ประมาณ 70-80% มักกลับไปเสพใหม่ภายใน 2 ปี" อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่