นักวิชาการสาธารณสุขร้องบรรจุ ขรก. ล็อต 3 อ้าง ก.พ. อนุมัติให้บรรจุแต่กลับตกขบวน ด้าน สธ. เร่งหารือ ยันแม้ ก.พ. อนุมัติแต่ไม่ทันตามกรอบเวลา เล็งหาตำแหน่งเกษียณ - ลาออก บรรจุให้
วันนี้ (23 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. เครือข่ายนักวิชาการสาธารณสุข ซึ่งจบการศึกษาจากสถาบันการศึกษานอกสมทบกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กว่า 500 คน เดินทางมายัง สธ. เพื่อเรียกร้องให้ สธ.ดำเนินการบรรจุเป็นข้าราชการในรอบที่ 3 ปีงบประมาณ 2558
นายธนะพัฒน์ ทักษิณทร์ แกนนำเครือข่ายฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางเครือข่ายนักวิชาการสาธารณสุข ที่จบจากสถาบันการศึกษานอกสมทบ สธ. ได้เรียกร้องให้ สธ. บรรจุเป็นข้าราชการมานานกว่า 3 ปี แต่กลับไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากติดปัญหาสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไม่อนุมัติ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก.พ. อนุมัติให้บรรจุนักวิชาการนอกสมทบเป็นข้าราชการแล้ว แต่เมื่อดูจากบัญชีการบรรจุลูกจ้างชั่วคราว สธ. รอบที่ 3 กลับไม่มีรายชื่อกลุ่มตน จึงเดินทางมาเรียกร้องให้ สธ. ดำเนินการบรรจุนักวิชาการนอกสมทบเป็นข้าราชการในสัดส่วน 66% เท่ากับสายวิชาชีพอื่น และให้เวลาในการดำเนินการ 30 วัน หากไม่ได้รับคำตอบจะดำเนินการร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรี และ ก.พ. ต่อไป
นายธนะพัฒน์ กล่าวว่า นักวิชาการที่ไม่ได้รับการบรรจุ เพราะจบจากสถาบันนอกสมทบของ สธ. มีจำนวนกว่า 4,000 คน ถือเป็นคนด่านหน้าที่ทำงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคแบบใกล้ชิดกับชุมชน และจะมีบทบาทสำคัญในโครงการทีมหมอครอบครัวของ สธ. ซึ่งตั้งเป้าให้มีหมอประจำครอบครัว 1 คน ต่อประชากรประมาณ 1,250 - 12,500 คน ซึ่งจะเป็นไปได้ ก็ต้องสร้างขวัญกำลังใจให้คนทำงานด้วย แต่ทุกวันนี้นักวิชาการที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นพนักงาน สธ. เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงการเปลี่ยนคำเรียกเท่านั้น นอกนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีค่าตอบแทน สวัสดิการเพิ่มแต่อย่างใด ตอนนี้ตนได้รับเงินเดือนเพียง 11,330 บาทเท่านั้น
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผอ.สำนักบริหารการสาธารณสุข กล่าวภายหลังหารือร่วมกันว่า นักวิชาการกลุ่มนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์การบรรจุตาม ครม. กำหนด ซึ่งต่อมา ก.พ. เพิ่งอนุมัติตำแหน่งให้บรรจุนักวิชาการกลุ่มนี้ได้เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ทัน ดังนั้น สธ. ก็จะใช้ตำแหน่งว่างจากการเกษียณอายุราชการ การลาออกมาบรรจุให้แทน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำได้เพราะไม่ว่าตำแหน่งมาจากไหนก็คือข้าราชการเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป และต้องหารือกันต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (23 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. เครือข่ายนักวิชาการสาธารณสุข ซึ่งจบการศึกษาจากสถาบันการศึกษานอกสมทบกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กว่า 500 คน เดินทางมายัง สธ. เพื่อเรียกร้องให้ สธ.ดำเนินการบรรจุเป็นข้าราชการในรอบที่ 3 ปีงบประมาณ 2558
นายธนะพัฒน์ ทักษิณทร์ แกนนำเครือข่ายฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางเครือข่ายนักวิชาการสาธารณสุข ที่จบจากสถาบันการศึกษานอกสมทบ สธ. ได้เรียกร้องให้ สธ. บรรจุเป็นข้าราชการมานานกว่า 3 ปี แต่กลับไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากติดปัญหาสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไม่อนุมัติ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก.พ. อนุมัติให้บรรจุนักวิชาการนอกสมทบเป็นข้าราชการแล้ว แต่เมื่อดูจากบัญชีการบรรจุลูกจ้างชั่วคราว สธ. รอบที่ 3 กลับไม่มีรายชื่อกลุ่มตน จึงเดินทางมาเรียกร้องให้ สธ. ดำเนินการบรรจุนักวิชาการนอกสมทบเป็นข้าราชการในสัดส่วน 66% เท่ากับสายวิชาชีพอื่น และให้เวลาในการดำเนินการ 30 วัน หากไม่ได้รับคำตอบจะดำเนินการร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรี และ ก.พ. ต่อไป
นายธนะพัฒน์ กล่าวว่า นักวิชาการที่ไม่ได้รับการบรรจุ เพราะจบจากสถาบันนอกสมทบของ สธ. มีจำนวนกว่า 4,000 คน ถือเป็นคนด่านหน้าที่ทำงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคแบบใกล้ชิดกับชุมชน และจะมีบทบาทสำคัญในโครงการทีมหมอครอบครัวของ สธ. ซึ่งตั้งเป้าให้มีหมอประจำครอบครัว 1 คน ต่อประชากรประมาณ 1,250 - 12,500 คน ซึ่งจะเป็นไปได้ ก็ต้องสร้างขวัญกำลังใจให้คนทำงานด้วย แต่ทุกวันนี้นักวิชาการที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นพนักงาน สธ. เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงการเปลี่ยนคำเรียกเท่านั้น นอกนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีค่าตอบแทน สวัสดิการเพิ่มแต่อย่างใด ตอนนี้ตนได้รับเงินเดือนเพียง 11,330 บาทเท่านั้น
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผอ.สำนักบริหารการสาธารณสุข กล่าวภายหลังหารือร่วมกันว่า นักวิชาการกลุ่มนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์การบรรจุตาม ครม. กำหนด ซึ่งต่อมา ก.พ. เพิ่งอนุมัติตำแหน่งให้บรรจุนักวิชาการกลุ่มนี้ได้เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ทัน ดังนั้น สธ. ก็จะใช้ตำแหน่งว่างจากการเกษียณอายุราชการ การลาออกมาบรรจุให้แทน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำได้เพราะไม่ว่าตำแหน่งมาจากไหนก็คือข้าราชการเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป และต้องหารือกันต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่